ทุกคนอาจจะเคยได้ยินมาบางแล้ว กับโรคร่าเริง ตอนกลางคืน ตอนเช้านี้ ไม่ต้องพูดถึง แทบจะไม่มีแรง แม้แต่จะเดินยังไม่มีแรงจะเดิน ความสามารถในการทำงานลดลง ความสามารถด้านความคิดลดลง เหนื่อยจากร่างกายไม่ได้พักผ่อน สมองทำงาน 24 ชั่วโมง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับหลายๆคนที่ มักจะเกิดขึ้นจากความเครียด สะสม และพฤติกรรมที่เลือกว่า ติด Social Network (จนบริหารจัดการเวลาไม่ได้) หรือ เคยชินกับการทำงานตอนกลางคืน จนนอนไม่เป็นเวลาพอร่างกายเคยชิน ก็ไม่สามารถที่จะหลับได้ แม้เราจะพยายามเท่าไรก็ตาม คนที่เป็นโรคร่าเริงจะรู้สึกอ่อนเพลียในช่วงกลางวัน จะไม่มีสมาธิในการเรียนหรือการทำงาน หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย แต่ในช่วงกลางคืนสมองจะแล่น ความคิดสร้างสรรค์บังเกิด และรู้สึกกระปรี้กระเปร่าอย่างเต็มที่ จนทำให้ร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างที่ควร จากเหตุผลที่กล่าวมา มันคือจุดเริ่มต้นของโรคภัยต่างๆ ที่จะตามมา หรือภาษาชาวบ้านแรกว่า ตายผ่อนส่ง นั้นเอง ในขณะที่หลายๆคน อาจจะหลับในช่วงเวลากลางคืน แต่ก็มีคนอีกไม่น้อยที่ ไม่สามารถจะทำให้ตัวเองหลับได้ สิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อคุณนอนไม่หลับ ดังนี้ 1.ก่อนนอน ต้องตั้งสติ ปล่อยวางทุกอย่าง คิดถึงทุ่งลาเวนเดอร์ ที่สวยงาม 2.กำหนดเวลาเข้านอนให้ได้ เวลาที่ เหมาะสมที่สุด 21.30 - 22.30 น.ร่างกายจะได้ชารจ์แบตบาง 3.ออกกำลังกายบาง เล็กๆน้อยๆ เช่น เดินช้า ขึ้น-ลงบันได เป็นต้น 4.ทานผัก และผลไม้เยาะๆ และทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ 5.ดื่มน้ำมาก ๆ วันละ 8 แก้ว เพื่อให้สมองแล่น และเติมความสดชื่นให้ร่างกาย 6. ทานอาหารเช้าทุกวัน ส่วนอาหารกลางวันควรเน้นโปรตีนมากกว่าแป้ง เพราะการทานแป้งและน้ำตาลมาก ๆ จะทำให้ง่วงนอน แต่การทานโปรตีนจะช่วยให้ร่างกายไม่อ่อนเพลีย สิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่ควรจะปฏิบัติ อย่างน้อย 3 ข้อ เพื่อสุขภาพที่ดี และสุขภาพจิตที่ดี และที่สำคัญห่างไกลโรคด้วยครับ ใครที่มีอาการแบบนี้ นานกว่า 1 สัปดาห์ ควรไปพบแพทย์ สำหรับคนที่คิดว่าร่างกายเคยชินกับการอดหลับอดนอนจนไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใด ๆ กับสุขภาพ ขอให้จำไว้ว่า ผลกระทบกับสุขภาพเมื่อคุณอดหลับอดนอนอาจไม่แสดงตัวในเร็ววันนี้ แต่เมื่ออายุย่างเข้าสู่เลขสี่ เป็นต้นไปคุณจะได้เจอกับภาวะสุขภาพที่เต็มไปด้วยโรครุมเร้าเลยก็ได้ ดังนั้นเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของตัวเองตั้งแต่วันนี้ดูจะปลอดภัยกว่าเยอะ เครดิตรูปภาพhttps://pixabay.com/th/photos