ตำนานความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคและเมืองบาดาล เป็นตำนานที่อยู่คู่กับคนไทย โดยเฉพาะคนในภาคอีสานมาอย่างยาวนาน หลายชั่วอายุคนแล้ว จะเห็นได้ว่าคนภาคอีสานจะมีความเชื่อและศรัทธาในพญานาคเป็นอย่างมาก โดยจะให้ความสำคัญ นับถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ สามารถดลบันดาลสิ่งต่าง ๆ ได้ และภายในวัดมักจะมีการสร้างรูปปั้นพญานาคไว้ เพราะพญานาคนั้นมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวทางพระพุทธศาสนา จึงยิ่งเพิ่มความศรัทธาให้มากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อกล่าวถึงพญานาค ทุกคนก็จะต้องนึกถึงสถานที่แห่งหนึ่ง นั่นก็คือ “คำชะโนด” สถานที่ซึ่งเรียกว่าเป็นวังนาคินทร์ หรือดินแดนของพญานาค โดยมีความเชื่อกันว่า สถานที่แห่งนี้เป็นที่ที่พญานาคได้ปกปักรักษาอยู่ และยังเป็นประตูเชื่อมระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์อีกด้วย คำชะโนด มีลักษณะเป็นเกาะกลางน้ำ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของวัดศิริสุทโธคำชะโนด ตำบลบ้านม่วง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี (พิกัด https://goo.gl/maps/tUhYRtV1L8JAMUDU6) ซึ่งเรียกขานกันว่าเป็นผืนป่าลอยน้ำ เพราะจะไม่เคยจมน้ำเลย เวลาที่น้ำขึ้น เกาะคำชะโนดก็จะลอยสูงขึ้นตามระดับน้ำเช่นกัน ถือเป็นลักษณะพิเศษของเกาะแห่งนี้ เหตุที่เรียกว่าคำชะโนดก็เพราะว่า ภายในเกาะจะมีต้นชะโนดอยู่เต็มไปหมดเลย ซึ่งหาที่อื่นไม่ได้ง่าย ๆ ลักษณะของต้นชะโนดก็จะเหมือนกับการผสมผสานระหว่างต้นมะพร้าว ต้นปาล์ม และก็ต้นหมากเข้าด้วยกัน แต่ละต้นสูงใหญ่ ปกคลุมไปทั่วบริเวณของเกาะ ดูแล้วน่าจะมีอายุยาวนานมาก ๆ ที่นี่ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและมีชื่อเสียงของจังหวัดอุดรธานี เนื่องจากมีการเล่าขานถึงเรื่องราวความลี้ลับ และความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนี้มาอย่างต่อเนื่อง บ้างก็บอกว่าที่นี่เป็นเมืองลับแล มีชาวเมืองอาศัยอยู่ แต่คนทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้ หากไม่มีสิ่งดลใจให้เห็น ซึ่งก็ได้มีผู้พบเห็นคนในเมืองนี้อยู่เป็นประจำ โดยชาวบ้านในละแวกนั้นเล่าว่า เห็นผู้หญิงออกมาจากเมืองคำชะโนด มาเที่ยวในงานประจำปี หรือมักมายืมเครื่องทอผ้าของชาวบ้านไป และเรื่องราวที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุด ก็คือ เรื่องผีจ้างหนัง นั่นเอง ทางเข้าไปยังเกาะคำชะโนด อยู่ภายในวัดศิริสุทโธ โดยจะมีสะพานปูนเป็นทางเดินข้ามไปยังเกาะ ซึ่งขอบสะพานได้สร้างรูปปั้นพญานาค 7 เศียรเอาไว้ทั้งสองข้าง เมื่อเข้ามาถึงด้านในเกาะ ตรงกลางจะมีศาลของเจ้าปู่ศรีสุทโธ ซึ่งเป็นองค์พญานาคราช เจ้าเมืองบาดาล และเจ้าย่าศรีปทุมมา องค์นาคราชเทวี โดยเชื่อว่าเป็นผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้นั่นเอง ผู้คนจากทั่วประเทศจะเดินทางเข้ามากราบไหว้ และขอพรจากทั้งสององค์อยู่ไม่ขาดสาย ด้วยผู้ที่เคยมาขอแล้วนั้น มักจะได้ผลสำเร็จตามที่ขอไว้ โดยเฉพาะด้านโชคลาภ ทำให้ชื่อเสียงยิ่งเลื่องลือไปอย่างกว้างขวาง สิ่งที่มักจะนำมาบูชาและถวาย ได้แก่ พานรูปพญานาค และหมากพลู ซึ่งก็จะมีขายอยู่เยอะมากตามเส้นทางมายังวัด ด้านขวาของศาลดังกล่าว จะมีต้นมะเดื่อยักษ์อยู่ ซึ่งมีส่วนของรากที่โผล่ขึ้นมาเหนือดินและมีลำต้นที่ใหญ่มาก แผ่กิ่งก้านปกคลุมเป็นบริเวณกว้าง ดูแล้วมีความสวยงาม แต่ก็รู้สึกว่ามีมนต์ขลังแฝงอยู่ ด้านข้างต้นมะเดื่อก็จะมีศาลหลังเล็กตั้งอยู่ ซึ่งผู้คนก็มักนำพวงมาลัยไปถวาย และกราบไว้ขอพรเช่นกัน ส่วนด้านซ้ายจะมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นบ่อน้ำที่มีน้ำผุดขึ้นมาอยู่ตลอด ไม่เคยแห้งเลย จึงเชื่อว่าจุดนี้คือจุดเชื่อมระหว่างเมืองบาดาลและโลกมนุษย์ ผู้คนมักจะมาสรงน้ำรูปปั้นพญานาค และนำน้ำมาพรมตามร่างกายของตน เพื่อความเป็นสิริมงคล บ้างก็จะนำน้ำใส่ขวดกลับไปที่บ้านด้วย ผู้ที่เข้ามายังสถานที่แห่งนี้ จะรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เย็น ตั้งแต่เดินเข้ามาถึง ซึ่งแตกต่างจากด้านนอกอย่างสิ้นเชิง ทำให้รู้สึกได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ เป็นผืนป่าที่มีมนต์ขลัง มีตำนาน ความเชื่อ และพลังศรัทธาของผู้คนที่เดินทางมา ซึ่งต่างก็มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่เหมือน ๆ กัน (ภาพประกอบทั้งหมดโดย : ผู้เขียน)