ภาพจาก https://pixabay.com/เล่าปี่ กับ ลกซุน ผมเคยทำงานอยู่ในโรงงานที่เจ้าของเป็นคนไทยเชื้อสายจีน บวกกับการอ่านสามก๊กอย่างบ้าคลั่งในความอยากรู้ ทำให้ผมเห็นสองอย่างในคนสองคนที่แตกต่างกัน คือในพวศาวดารจีนสามก๊กตอนที่เล่าปี่แค้นที่น้องร่วมสาบานต้องมาโดนฆ่าตาย คือกวนอูและเตียวหุย ด้วยความแค้นเล่าปี่ก็ยกทัพไล่ล่าผู้ร้ายไปจนถึงเมืองกังตั๋ง ฝ่ายเจ้าเมืองกังตั๋งในตอนนั้นก็คือซุนกวนเห็นภาวะการออกจะย่ำแย่ก็ยื่นข้อเสนอให้เล่าปี่ โดยมอบผู้ร้ายที่ลงมือสังหารน้องของเล่าปี่คืนให้ อันได้แก่สองพ่อครัวใจเย็นที่ลอบทำร้ายเตียวหุนตอนหลับและหนีมาเมืองกังตั๋งหวังเข้าก๊กซุนกวน ฝ่ายพัวเจี้ยงที่ฆ่ากวนอูนั้นก็ตายไปแล้วด้วยน้ำมือกวนหินลูกชายกวนอู และพัวเจี๊ยงนั้นก็เป็นสมุนซุนกวนนี่เอง ภาพจาก https://pixabay.com/ แต่ถึงจะได้ตัวผู้ร้ายและจัดการเอาชีวิตมันแล้วก็หาได้ทำให้เล่าปี่พอใจไม่ เพราะเล่าปี่ยังจะเอาชีวิตซุนกวนและชาวเมืองกังตั๋งเสียด้วย เพื่อจะได้สาสมกับความแค้นที่มี ซุนกวนก็จำใจสู้แบบไม่มีทางเลือก โดยส่งลกซุนเข้าสนามรบเพื่อรบกับเล่าปี่ โดยไปตามตัวได้ที่ชนบทกลับมาเป็นแม่ทัพดั่งเดิม ลกซุนนี้เป้นคนรู้มากมีปัญญาเรียกได้ว่าหนึงในห้าในสิบของแผ่นดินเลยทีเดียว แต่ไม่เคยบอกใครให้อยู่ในโอวาทตัวเองได้ ต่อมาซุนกวนจึงได้แก้ทางมวยให้ ว่าเรื่องจะบอกให้คนเชื่อฟังนี้ง่ายนิดเดียวเอง ขณะที่คนมีปัญญาความรู้นั้นหายากกว่า ก็ได้มอบกระบี่อาญาสิทธิ์ให้ลกซุน ใครไม่เชื่อฟังก็ให้ฆ่ามันผู้นั้นเสีย และต่อมาลุกซนก็ได้เข้าสู่สงครามเพื่อต่อสู้กับเล่าปี่ หันมาฝั่งเล่าปี่ เล่าปี่นี้เป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วไปว่า เป็นผู้มีศิลปะในการใช้คน คือใครบอกได้ ใครใช้เป็นก็รับเลี้ยงไว้หมด ขนาดขงเบ้งยังอ่อนน้อมต่อ แต่ด้วยความโกรธที่น้องร่วมสาบานถูกฆ่าตายก็หาได้ใตร่ตรองถึงอะไรไม่ ไม่แม้จะปรึกษาขงเบ้ง ก็ออกตั้งทัพเข้าประจันหน้ากองทัพลกซุน ฝ่ายขุนพลเล่าปี่ส่วนหนึ่งเห็นการตั้งทัพของเล่าปี่เห็นผิดแปลกไป ก็เร่งนำข่าวกลับไปบอกขงเบ้งที่อยู่เฝ้าเมือง แต่กว่าจะกลับมาส่งข่าวเล่าปี่ได้ก็สายเสียแล้ว เมื่อเล่าปี่พ่ายลกซุนอย่างราบคาบ และต่อมาเล่าปี่ก็อับอายที่จะกลับเมืองเสฉวนและเสียชีวิตที่เมือง... เซ็กเพ็ก. ภาพจาก https://pixabay.com/ จากพงศาวดารตอนนี้ทำให้รู้ว่า คนที่จะเป็นผู้นำคนได้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้อะไรมากมาย แต่ก็สามารถใต่เต้าขึ้นมาจนยิ่งใหญ่ได้ก็มี ขณะที่คนมีความรู้มากมายนั้น บางครั้งบางทีก็ยากเย็นแสนเข็ญกับเรื่องง่ายๆที่ตัวเองสอบไม่ผ่านเสียที นั่นคือการใช้คน จากพงศาวดารจีนสามก๊กตอนนี้เกับชีวิตจริง ปรากฎว่า ผมเจอตัวจริงมาแล้วครับ ภาพจาก https://pixabay.com/ คือเจ้าของโรงงานที่ผมทำอยูตอนนั้นเอง แกเกิดที่ประเทศจีนโน่นแล้วมาร่ำรวยในประเทศไทย คือแกก็ไม่ได้รู้อะไรมากมาย แต่หลักๆคือลูกน้องหรือคนงานในโรงงานใครๆก็รักแกหมดทุกคน ที่สำตัญ ทุกคนเชื่อฟังแกหมด คล้ายๆเล่าปี่ในพงศาวดาร คือถ้าใครเถียงแกได้นี้ถือว่าเลิศคนจริงๆ ขนาดลุกชายแกยังไม่กล้าหือ (อิอิ) ฝ่ายลูกชายแกนี้จบวิศวกรเครื่องจักรกล ปกติก็ดูเหมือนคนใจดีทั่วๆไป ผมเคยโดนสบตาทีหนึ่งเพราะเสือกไปเถียงอะไรกับแก แกจ้องหน้าคล้ายๆจะตบเราให้กระเด็นกระดอนเลย ตอนนั้นกลัวแทบขี้แตก จริงๆแค่แกมองเอง มาระยะหลังนี้ผมก็เริ่มเลียนแบบบ้าง มองคนที่เชอบถียงผมบอยๆ คือมองหน้ามันว่ามันจะเถียงหาอะไรของมันนักหนา มีบางคนที่คิดว่าผมจะตบก็มี (หุหุ) ผมจึงรู้ว่า ลกซุนหรือคนมีความรู้มากๆนี้เมื่อมีอำนาจก็เป็นอย่างนี้นี่เอง คือถ้ามึงไม่เชื่อกู....มึงจะต้องตายด้วยดาบอาญาสิทธิ์ ฮา