ไต้แมงจินูนมาคั่วกินฤดูร้อนใกล้จะถึงฤดูฝนเป็นฤดูของอาหารป่าอีกชนิดที่คนบ้านนอกบ้านนาอย่างชาวอีสานนิยมชมชอบนัก นั่นคือการออกล่าแมงจินูนในยามค่ำคืนเพื่อนำมาทำเป็นอาหาร ตามตลาดผมเองก็ไม่ค่อยได้เห็นว่ามีการนำมันมาขาย วันนี้บังเอิญจริง ๆ ที่ผมถือไฟฉายเดินไปซื้อของที่ร้านใกล้ ๆ บ้าน แล้วบังเอิญส่องไฟไปที่ต้นติ้วสองต้นที่ข้างรั้วที่ดินว่างเปล่าก่อนจะเข้าไปบ้านผมที่อยู่ลึกเลยไป สังเกตเห็นว่า ทั้งต้นเต็มไปด้วยแมลงตัวสีน้ำตาลเต็มต้นติ้ว อย่างไม่รอช้า กลับถึงบ้านก็กลับมาที่ต้นติ้วอีกครั้งพร้อมกับเสื่อ ถังใส่น้ำเพื่อใส่แมงจินูน แมงจินูนส่วนมากจะพบตามต้นมะขามที่ออกใบอ่อน ๆ หรือตามต้นคูณ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นว่าตามต้นติ้วก็มีแมงจินูนด้วยแมงจินูนนี้กลางวันมันจะหลบอยู่ตามใต้ดินเหมือนแมงกุดจี่ คือใช้ส่วนหัวของมันดันลงไปในดินและหมกตัวอยู่อย่างนั้นในรู เวลาออกไข่ก็ออกใต้ดิน จนโตเป็นตัวมันถึงจะออกจากรังใต้ดินและออกหากินในตอนกลางคืน ฤดูนี้เป็นฤดูผสมพันธ์ของแมงจินูน จึงสามารถพบเห็นได้ทั่วไป สมัยผมเป็นหนุ่มออกล่าหาเขย่าตามต้นมะขามตามท้องทุ่งนา คืนหนึ่ง ๆ อาจได้เป็นถัง แบ่งกันกลับบ้านคั่วกินอร่อยไปหลายวันเลยวิธีไต้แมงจินูนง่าย ๆ ครับ ขั้นแรกปูเสื่อก่อน ตามภาพนี้มากันสามคน แต่เผอิญไม่ได้ถ่ายคนถ่ายแต่แมงจินูน ปูเสื่อเสร็จก็ส่องไฟลงในถังใส่น้ำที่มีเสื่อรอง เขย่าต้นติ้วที่แมงจินุนจับอยู่ พอมันพลัดตกจากต้นก็จะเริ่มบิน แล้วไม่บินไปไหนหรอกบินเข้าหาไฟ แล้วไปตกลงในถังน้ำ มีมากมีน้อยบินมาหมดลงในถังนั่นแหละ ที่เหลือตกอยู่ตามเสื่อที่ปูรอง ก็เก็บ ๆ ใส่เสื่อ เทลงในถัง เท่านี้ก็ได้แมงจินูนพร้อมทำคั่วอร่อย ๆ แล้วแมงจินูนนี้ก็เหมือนแมงกุดจี่เป็นที่นิยมนำมารับประทานเพราะในตัวมันโปรตีนสูง รสชาติมันจะคล้าย ๆ กินเนื้อวัวปิ้งไฟทำนองนั้น อร่อยมากถ้าคั่วสุกแล้ว วิธีคั่วก็ง่ายมาก อย่างตามภาพไม่ได้ใส่อะไรเลยนอกจากเกลือ อาจจะเติมน้ำสักหน่อย คั่วจนน้ำเหือด แห้ง เท่านั้นก็ถือว่าสุกแล้ว อาจมีการซอยใบตะไคร้ลงด้วยสักหน่อยก็ได้ สุกแล้วอร่อยแน่นอน คนชอบชูรสอาจเติมชูรสสักนิดก็ได้ รับรองอร่อยจริง ๆ ปั้นข้าวเหนียวเป็นคำ ๆ จิ้มพรวด ติดแมงจินูนสามสี่ตัว ส่งเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ อร่อยปานกินกับปิ้งเนื้อวัวเลยเชียว เป็นเด็กน้อยนี้ ได้กินข้าวกับแมงจินูน กินแล้วมีแรงเรียน ครับท่านผู้ชมเรื่องและภาพโดยผู้เขียน J A I W