เมื่อรัฐบาลคลายมาตรการล็อคดาวน์ ก็ได้เวลาที่ต้องออกไปท่องเที่ยวระดับท้องถิ่นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว โดยเจ้าของกระทู้ได้เลือกไปเที่ยว "ธาตุก่องข้าวน้อย" จ.ยโสธร ซึ่งเป็นพระธาตุที่ถูกกล่าวขานว่าสร้างตามนิทานพื้นบ้านชื่อดังของอีสานเรื่อง "ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่" เรามาเริ่มทำความรู้จักธาตุก่องข้าวน้อยกันเลย ธาตุก่องข้าวน้อยหรือธาตุตาดทองหรือธาตุถาดทองนั้นตั้งอยู่ที่ตำบลตาดทอง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ตามรูปแบบสถาปัตยกรรมสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 24 อาจจะมีความเกี่ยวเนื่องกับนิทานพื้นบ้านอย่างก่องข้าวน้อยฆ่าแม่ โดยมีเรื่องเล่าที่เกี่ยวข้องกับว่า เมื่อผู้คนในแถบอำเภอรัตนบุรี (อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์) ทราบข่าวการบูรณะพระธาตุพระพนม จึงพร้อมใจกันรวบรวมวัตถุมงคลสิ่งของมีค่าเพื่อนำไปบรรจุไว้ในพระธาตุพนม แต่เมื่อเดินทางถึงบ้านตาดทองได้พบกับชาวบ้านสะเดาที่ไปช่วยบูรณะพระธาตุพนมบอกว่าการบูรณะได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ผู้คนเหล่านั้นจึงพร้อมใจกันสร้างเจดีย์บรรจุของมีค่าที่ตนนำมา ชาวบ้านสะเดาจึงนำถาดทองที่เคยใช้นำสิ่งของมีค่าไปบรรจุไว้ที่พระธาตุพนมมารองรับของมีค่าของชาวบ้านอำเภอรัตนบุรีไปบรรจุไว้ในเจดีย์ที่กำลังสร้าง จึงเป็นที่มาของชื่อ "พระธาตุตาดทองหรือถาดทอง" รูปแบบสถาปัตยกรรมพระธาตุตาดทอง เป็นเจดีย์ทรงมณฑปยอดบัวเหลี่ยมในผังสี่เหลี่ยมจัตุรัส สร้างก่ออิฐถือปูน รูปทรงแปลกไปจากเจดีย์โดยทั่วไป ส่วนฐานตอนล่างเป็นฐานเขียงรองรับชั้นชุดฐานบัวท้องไม้ลูกแก้วอกไก่ ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 2 เมตร ก่อสูงขึ้นไปประมาณ 1 เมตร ช่วงกลางขององค์ธาตุมีลวดลายทำเป็นซุ้มประตูทั้งสี่ด้าน ถัดจากช่วงนี้ไปเป็นส่วนยอดของเจดีย์ที่ค่อยๆ สอบเข้าหากัน ส่วนยอดรอบนอกของธาตุมีกำแพงอิฐล้อมรอบขนาด 5x5 เมตร ส่วนมณฑปทำย่อเก็จมีซุ้มพระทั้ง 4 ด้าน เดิมคงมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ ยอดซุ้มโค้งแบบซุ้มหน้านาง ภายในประดับปูนปั้นลายพรรณพฤกษา เสาซุ้มทำลายแสงตาเวน(ตะวัน) ประดับกระจก ส่วนยอดเป็นบัวเหลี่ยมทำย่อเก็จเป็นรูปบัวเหลี่ยมมีเครื่องยอดซ้อนกัน 3 ชั้น ยอดแหลม โดยรอบมีใบเสมาสมัยทวารวดี และกลุ่มเจดีย์รายจำลองทรงบัวเหลี่ยม ด้านหน้าพระธาตุตาดทองมีอูบมุงแบบพื้นถิ่นอีสานในผังเหลี่ยมจัตุรัส ลักษณะเป็นห้องสี่เหลี่ยมหลังคาโดมเอนลาดสอบเข้าหากัน สันหลังคาประดับปูนปั้นรูปนาค ยอดหลังคาในตอนกลางเป็นเจดีย์ขนาดเล็ก ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยฝีมือช่างพื้นถิ่นอีสาน เอ๊ะ?? สงสัยกันใช่ไหมล่ะครับว่าพระธาตุมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่ชาวบ้านคนธรรมดาเพียงคนเดียวจะสร้างให้แม่ตามตำนานนิทานพื้นบ้าน ซึ่งในเวลาต่อมาก็ได้มีการค้นพบโบราณสถานสำคัญอีกที่บริเวณใกล้ๆ กัน ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับนิทานพื้นบ้านด้วย โบราณสถานสำคัญภายในวัดทุ่งสะเดา ประกอบด้วยเจดีย์ก่ออิฐถือปูน จำนวน 2 องค์ ตั้งอยู่ใกล้กัน องค์แรกมีสภาพสมบูรณ์ องค์ที่สองเหลือเพียงส่วนฐาน จากการขุดค้นทางโบราณคดีพบฐานแท่นบูชาของเจดีย์องค์ที่สองยื่นเข้าไปใต้ฐานเจดีย์องค์แรก อันเป็นหลักฐานว่า เจดีย์องค์ที่เหลือเพียงฐานนั้น ได้สร้างขึ้นมาก่อน ภายหลังพังทลายไปจึงมีการสร้างเจดีย์องค์ที่สองทับลงไปบนส่วนฐานของเจดีย์ นอกจากนี้ ชาวบ้านยังได้ขุดพบโบราณวัตถุในไหจำนวน 4 ไหใต้ฐานเจดีย์องค์แรก เป็นพระพุทธรูปไม้แกะสลัก พระพุทธรูปบุเงิน พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระพุทธรูปสำริด พระพุทธรูปตะกั่ว พระพุทธรูปดินเผาสีแดงชาดปิดทอง พระพุทธรูปปางสมาธิ พระพิมพ์ เศษกระดูก กล้องยาสูบ และเครื่องถ้วยจีน ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่วัดทุ่งสะเดา จากขนาดขององค์ธาตุที่มีขนาดเล็กจึงสันนิษฐานได้ว่า "ธาตุลูกฆ่าแม่" ที่พบในวัดทุ่งสะเดาจึงน่าจะเป็นธาตุตามนิทานพื้นบ้าน เรื่อง "ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่" ________________________________________________________________________________________________________ ขอขอบคุณข้อมูลจาก กรมศิลปากร สำนักศิลปากรที่ 9 อุบลราชธานี ภาพหน้าปกและภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน