เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติที่สวยงาม โบราณสถาน รวมทั้งวัดวาอาราม เมื่อพูดถึงวัดแล้วนั้น เชียงใหม่เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีวัดอยู่มากมาย เราไปเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมากัน 3 วัน โดยมี 1 วันที่เราเดินเที่ยวตามวันต่าง ๆ ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำวัดในตัวเมืองเชียงใหม่กัน ตามาเลยค่าาาา เราเดินทางออกจากที่พักได้ไม่ไกลวัดแรกที่เราเข้าไปไหว้คือ วัดอุปคุตค่ะ วันนี้เงียบสงบ ร่มรื่นมากค่ะ เราก็ไปในอุโบสถเพื่อไปสักการะพระอุปคุต ซึ่งวัดนี้ประดิษฐานพระอุปคุตไว้หลายปางค์มากค่ะ แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน หลังจากที่เรากราบไหว้เสร็จ พระที่อยู่ในอุโบสถได้มอบพระอุปคุตให้เรามา เนื่องจากอยู่ในช่วงปีใหม่ จากนั้นเราก็ไปเดินต่อไปวัดที่2 คือวัดบุพพาราม ซึ่งวันนี้เป็นวัดที่ได้มีภาพยนตร์มาถ่ายทำ จีงทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก เราจึงรีบเข้าไปไหว้พระก่อนที่ทัวร์จีนจะมา ฮ่า ๆ ๆ ๆ แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน จากภาพด้านบนนั้นเป็นวิหารมณเฑียร ภายในนั้นมีพระแก้วมรกต พระพุทธรูปปางค์สมาธิ และสิ่งศักสิทธิ์องค์อื่น ๆ ภายในมณเฑียรวิจิตรงดงามมาก เราอยากอยู่ที่นั้นเพื่อซึมซับความงดงามอีกนานหน่อย แต่ต้องรีบไปเพราะกรุ๊ปทัวร์จีนมา พี่แกมาทีนึงไม่มีที่ให้เราเลย 55555 แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน ไปต่อกันวัดที่3เลย เรากำลังจะเดินไปถึงประตูท่าแพ แต่แม่เราไปวัด ๆ หนึ่งซึ่งประดิษฐานวัดพระสิงห์หยก เราจึงแวะไปไหว้พระกัน วัดนี้ชื่อว่าวัดอู่ทรายคำ แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน วัดนี้อยู่ในซอยเล็ก ๆ เดินเข้าประมาณ 500 เมตรก็ถึงแล้วค่ะ วัดนี้คนอาจไม่ค่อยรู้จักนะเนื่องจากเป็นวัดเล็ก ๆ เราจึงขอเล่าความเป็นมาหน่อยนึง วัดนี้สร้างโดยนางอุปคำ เป็นคหบดีที่อพยพมาจากเมืองเชียงแสน เพราะเธอที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน ภายในพระวิหารรั้รประดิษฐานวัดพระสิงห์ที่ทำมาจากหยกพม่าและแคนนาดาจำนวน 6 องค์ รวมทั้งมีก้อนหยกและแผ่นหยกไว้ให้สัมผัสอธิษฐานด้วย พอเราได้เข้าไปใรพระวิหารแล้วมีความเย็นเป็นพิเศษ จากภาพจะสังเกตได้ว่าจะมีพระสิงห์หยกด้านขวามือสุดมีสีที่แตกต่างจากองค์อื่น ๆ คือมีสีออกม่วงเข้มปนสีขาว ซึ่งเราได้สอบถามพระที่วัดนี้ พระบอกว่าหยกสีนั้นหายากมาก ทางวัดได้มาแค่ก้อนเดียวเพื่อมาแกสลักเป็นพระพุทธรูป จากนั้นเราก็เดินไปวัดดอกเอื้อง เป็นวัดเล็ก ๆ อีกวัดหนึ่งที่เงียบสงบค่ะ แต่สิ่งที่ทำให้เรายิ้มได้คือ กระถางต้นไม้ที่อยู่ภายในวัดนี้ แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน วัดต่อมาที่เราไปกราบสักการะคือ วัดอินทขีลสะดือเมือง ซึ่งจุดเด่นของวัดนี้ที่เห็นได้ชัดคือพระวิหารสีดำซึ่งภายในประดิษฐานหลวงพ่อขาว เมื่อเราเดินเข้าไปในวัดจะเห็นเสาหลักเมืองเก่า เคยมีคนบอกว่าไม่ว่าเราไปที่ไหนสิ่งแรกที่ควรทำคือไปไหว้ศาลหลักเมือง เพื่อที่สิ่งศักดิ์จะได้คุ้มครองเรา แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน และแล้วก็มาถึงวัดประจำจังหวัดเชียงใหม่ คือ วัดพระสิงห์นั่นเอง ซึ่งตอนที่เราไปนั้นพระอุโบสถได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์อยู่ค่ะ เราจึงเข้าไปกราบไหว้พระแก้วมรกตที่ประดิษฐานในพระวิหารแทน ที่วัดนี้จะมีตลาดเล็ก ๆ ขายทั้งอาหาร เสื้อผ้า และของที่ระลึกกด้วยค่ะ แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน จากนั้นเราก็ไปวัดสุดท้ายคือวัดสวนดอก หรืออีกชื่อว่า วัดบุปผาราม วัดนี้จุดเด่นคือเมื่อเราเดินมาในบริเวณวัด ทางด้านขวามือเราจะมีกู่อัฐิจ้าวเชียงใหม่อยู่ ฉะนั้นใครก็ตามที่มาวัดนี้ควรแต่งกายให้สุภาพ ถือมีการแสดงความเคารพต่ออัฐิจ้าวเชียงใหม่ แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน แหล่งที่มาของภาพ: ภาพถ่ายจากผู้เขียน และข้าง ๆ วัดนั้นจะมีร้านฟิล์มอยู่ร้านนึงชื่อว่า เนกาถีบ เป็นร้านรับล้างและสแกนฟิล์ม รวมทั้งทั้งขายฟิล์มด้วยค่ะ ใครที่รักการถ่ายภาฟิล์มแวะไปใช้บริการได้นะค่ะ แต่เรานั้นเสียดายที่ไม่ได้ไปใช้บริการเพราะยังถ่ายฟิล์มไม่หมดนั่นเอง 5555 เดินเที่ยวกันมาทั้งวันแล้ว คงต้องจบแต่เพียงเท่านี้ หวังว่าเที่ยวไหว้พระในตัวเมืองเชียงใหม่ 1 วันของเราคงเป็นทางเลือกให้กับใครหลายๆคนนะคะ สำหรับใครที่เป็นสายมู และสายบุญสามารถตามรอยเราได้เลยนะคะ ท่านจะได้สัมผัสศิลปะแบบล้านนา ความเชื่อและขนบธรรมเนียมผ่านการเข้าวัดค่ะ สุดท้ายนี้ฝากติตามบทความในครั้งต่อๆได้วยนะคะ เจอกันบทความหน้าค่ะ....