หากย้อนกลับไปปี ค.ศ 2015 มีใครสักคนบอกว่าอนาคตโลกเราจะมีโรคระบาดอีกครั้ง ถ้าฟังในสมัยนั้นคงไม่มีใครเชื่อถ้าเชื่อก็ไม่รู้ว่าเวลาไหน ในอนาคต อนาคตที่พูดถึงเมื่อ ปี ค.ศ 2015 ก็คือปัจจุบันเวลานี้ ที่โรค Covit-19 ระบาดอยู่ การขึ้นพูดของ บิล เกตส์ (หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์) เมื่อ ปี ค.ศ 2015 บน TED เรื่อง “The next outbreak ? we’re not ready” ที่เตือนให้เราเตรียมพร้อมรับมือกับโรคระบาดครั้งต่อไป และบทเรียนที่ได้รับ เราพร้อมแล้วหรือยัง การขึ้นพูดของ บิล เกตส์ ในวันนั้น แสดงให้เห็นแล้วในปัจจุบัน บทเรียนโรคอีโบล่า การสังเกต และติดตามข่าวอย่างกระชั้นชิด ของโรค อีโบล่า (1976) ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ต่าง ๆ ของ บิต เกตส์ พบว่าปัญหาไม่ใช่ว่าระบบไม่ดีเท่าที่ควร ปัญหาหลักคือ การไม่มีระบบอะไรเลย ไม่มีกลุ่มนักระบาดวิทยา การรายงงานที่ช้าและรายงานคลาดเคลื่อนเยอะ ไม่มีทีมแพทย์ที่พร้อมหรือวิธีการเตรียมบุคลากรให้พร้อมเตรียมรับมือในอนาคต ดังนั้นจึงมีหลายอย่างที่ขาดหายไปและสิ่งเหล่านั้นเป็นความล้มเหลวระดับโลก โชคดีที่การระบาดของโรคอีโบล่า ธรรมชาติของไวรัส อีโบล่าไม่แพร่กระจายผ่านอากาศ และเมื่อระบาดคนส่วนใหญ่มีอาการหนักและไม่สามารถลุกออกจากเตียงได้ และโชคดีที่โรค อีโบล่า ไม่ได้ระบาดในตัวเมือง ครั้งหน้าอาจไม่โชคดีเหมือนการระบาดของอีโบล่า อาจมีไวรัสที่สามารถแพร่กระจายได้ แม้ผู้ติดเชื้อยังรู้สึกสบายดี แหล่งไวรัสอาจมาจากธรรมชาติ (อีโบล่า) หรือมาจากการก่อการร้ายทางชีวภาพ การเตรียมความพร้อม การเตรียมตัว คือสิ่งที่ทำในยามสงคราม เหมือนทหาร ที่มีการประจำเอาไวตลอดเวลา พร้อมรับคำสั่ง มีหน่วยสำรอง และฝึกซ้อมรับมือกับสถานะการณ์ต่าง ๆ เพื่อทดสอบว่าคนพร้อมหรือไม่ พร้อมที่จะปฏิบัติการจริง ๆ และการร่วมมือของบุคคลากรทางการแพทย์กับทางทหาร ใช้ความสามารถของทหาร ในเรื่องการเคลื่อนตัวที่รวดเร็ว การขนส่ง และการให้ความปลอดภัยในพื้นที่ หากจะมีเรื่องดี ๆ สักเรื่องที่มาจากการระบาดของอีโบล่า ก็คงจะเป็นเพราะมันทำหน้าที่ปลุกให้คนตื่น เตรียมพร้อมรับมือ กับการระบาดครั้งหน้า เครดิตภาพหน้าปก : 1 / 2 คุณสามารถฟังเนื้อหาเต็มจากวีดีโอ คลิก