" พี่! เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาหนังสือมาให้ อ่านจบละ สนุกดี " บาริสต้ากล้วยตะโกนบอกผ่านกระจกครัวในบ่ายแก่อันแสนเงียบเหงาจากลูกค้า ในสถานการณ์ที่โรคภัยอันเป็นเหตุให้ทุกคนต้องงดเว้นการออกจากบ้าน คาเฟ่อย่างเราๆก็จะมีเวลาสำหรับจัดการอะไรหลายอย่าง และแน่นอนมีเวลาเพียงพอสำหรับการแลกเปลี่ยนหนังสือที่อ่านจบแล้ว หรือมีอะไรมาแนะนำให้กัน เอามาวางไว้ที่โต๊ะกลาง เดินผ่านไปผ่านมาก็หยิบยืมได้ เรียกว่าอ่านแก้ง่อม (ก็จะแปลประมาณว่าแก้เหงานั่นแหละ) หนังสือที่กล้วยเอามาให้ยืม คือ My Chefs ฝีมืองานเขียนของอนุสรณ์ ติปยานนท์ หรืออาจารย์ต้นของใครหลายคน โดยคำโปรยสั้นๆ จากปก " เรื่องเล่าที่เกาะเกี่ยวระหว่างชีวิตในอาหารและอาหารที่มีชีวิต" (ย้อนกลับไปอ่านชื่อบทความ ก็ดูจะไม่เกินเลยไปใช่มั้ย) เอาเป็นว่าสรุปก่อนเลยนะว่า หนังสือเล่มนี้สนุกในตัวของมันเอง สนุกที่ได้อารมณ์คล้ายผู้ใหญ่เล่าเรื่องในอดีตให้ฟัง แต่! แต่หนังสือไม่ได้เล่าช่วงเวลาที่ผ่านมานมนานกาเลฝ่ายเดียว หนังสือดูจะค่อยคืบให้เห็นวิวัฒนาการ ปีแรกสู่ปีถัดมา พ.ศ. สู่ พ.ศ. เห็นความเคลื่อนไหวทั้งประสบการณ์ของตัวผู้เขียนเอง วิวัฒนาการความเปลี่ยนแปลงของวัตถุดิบ ซึ่งนั่นเป็นตัวบ่งบอกถึงความเปลี่ยนไปของสภาพแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ การดำรงชีพ ทั้งยังเห็นมิติของคำว่า เชฟ ที่กว้างและลงลึกมากขึ้น - เชฟ ''เป็นคำภาษาฝรั่งเศสซึ่งภาษาไทยยืมผ่านมาทางภาษาอังกฤษ คำภาษาฝรั่งเศสซึ่งเป็นต้นศัพท์คำนี้ใช้ว่า chef แปลว่า หัวหน้า คำว่า chef ในภาษาฝรั่งเศสย่อมาจากคำเต็มคำเดิมว่า chef de cuisine (อ่านว่า แช้พ เดอ กฺวิซีน) แปลว่า หัวหน้าห้องครัว คือเป็นหัวหน้าของกุ๊กหรือผู้ปรุงอาหารโดยตรงอีกทีหนึ่ง หน้าที่หลักของเชฟคือ คิดสูตรอาหาร คิดรายการอาหาร มีหน้าที่กำกับกุ๊กให้ปรุงอาหารออกมาตามรสชาติและให้มีคุณภาพตามที่ตนออกแบบไว้ เพื่อให้อาหารของภัตตาคารมีเอกลักษณ์เฉพาะตน เชฟมีเงินเดือนสูงกว่ากุ๊ก ภัตตาคารที่มีชื่อเสียงโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามโรงแรมใหญ่มักจ้างเชฟไว้ ภัตตาคารหนึ่งมีเชฟเพียงคนเดียว แต่อาจมีกุ๊กหรือพ่อครัวแม่ครัวได้หลายคน และอาจแยกเชฟอาหารคาวกับเชฟขนมหวานออกจากกัน'' - ข้อมูลสำนักงานราชบัณฑิตยสภาคำว่าเชฟจากประสบการณ์ของเรา ถ้าไม่นับจากที่อ่านการ์ตูนญี่ปุ่นแนวอาหารบ้าง ขนมหวานบ้าง ไม่นับพี่ชายคนหรือสองคนที่ยืนจังก้าประจำตำแหน่งในครัวของร้านอาหารที่เคยไปทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียน คำคำนี้ก็ดูจะเปิดกว้างขึ้นเมื่อปิดหนังสือลง สำหรับเรามองว่าคำนี้นั้นเหมาะสมกับใครสักคนที่เห็นคุณค่าของวัตถุดิบ ใครสักคนที่ยอมทำทุกวิธีที่จะใช้เนื้อสัตว์ แป้งสาลี ข้าวเหนียว ข้าวดอย ผักในซุปเปอร์มาร์เกต ผักพื้นบ้าน ตำลึงที่ไต่ขึ้นกำแพง หรือสิ่งใดก็ตามที่กำลังจะผ่านกรรมวิธีและแปลงร่างเป็นเมนูเข้าสู่ร่างกายอย่างคุ้มค่า ไม่มีคำว่าลวกๆ (ลวกที่ไม่ใช่หนึ่งวิธีการทำอาหารให้สุกนะ ฮ่า) เราสามารถเรียกใครสักคนว่า เชฟ ได้ง่ายขึ้น แต่ความลึกซึ้งก็มากขึ้นเช่นกัน หากถามถึงตอนที่ชอบ เอาจริงนะ ชอบทุกตอน แต่จะมีจังหวะที่ชอบมาก คือการจบบทหนึ่ง แล้วสืบเนื้อเรื่องต่อในอีกบทหนึ่ง ลีลาที่มีท่าทีเข้าใจไม่ยากแต่ทว่าเราอยากตามต่อว่าจะเป็นเช่นไร เชฟในชีวิตของจารย์'ต้น ค่อยๆปรากฎตัวขึ้นทีละคนพร้อมๆกับความเกาะเกี่ยวสร้างสัมพันธ์ที่อาจไม่จำกัดแค่มนุษย์ My Chefs สนุกนะ สนุกแบบ เอ้อ อ่านเพลิน ไปเรื่อยๆ คำง่ายดี ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ประโยคข้างต้นถูกบอกกล่าวแก่เจ้าของหนังสือในเช้าไม่กี่วันถัดมา เช้าที่ฉากหลังเป็นถนนร้างนักท่องเที่ยว พวกเราคุยกันว่าสถานการณ์แบบนี้คงยังดำเนินไปอีกสักพักใหญ่ ยังมีหนังสืออีกสองสามเล่มที่ถูกเอามาวางมาบนโต๊ะกลาง หากมีเวลาเอื่อยมากพอ เราคงได้เอามาเขียนอีก- FACT -My Chefs ผู้เขียน อนุสรณ์ ติปยานนท์ปี 2562 /320 หน้า สำนักพิมพ์แซลมอน