โป่งแยงเทรล รายการวิ่งเทรลที่ได้รับความนิยมรายการหนึ่งของเมืองไทย จัดที่ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ มีทั้งหมด 7 ระยะด้วยกัน ประกอบด้วย ระยะทางมากสุด PYT 162 km PYT 120 km PYT 100 km PYT 70 km NPT 50 km PNK 30 km และระยะน้อยสุด WFL 15 km รายการนี้ถือเป็นรายการนึงที่เคยตั้งใจไว้ว่าจะมาให้ได้ พอเปิดรับสมัครช่วงต้นปี 2019 ที่ผ่านมา จึงไม่ลังเลใจที่จะรีบสมัคร คิดว่าสมัครเดือนกุมภาพันธ์แข่งตั้งเดือนพฤศจิกายน อีกตั้งหลายเดือนยังไงก็มีเวลาซ้อมทัน ลงแค่ระยะ 30 กม.เอง.. ไม่เยอะไปไม่น้อยไปซะหน่อย แต่จนแล้วจนรอด.. ก็ไม่เคยได้ซ้อมจริงๆจังๆซักที อย่าว่าแต่ซ้อมเลย แค่ออกกำลังกายก็น้อยมากกก แถมลืมๆไปแล้วด้วยว่า เคยสมัครอะไรไว้บ้าง ร่างกายคนเรานี่มหัศจรรย์มากนะคะ ถ้าเราฝึกฝนสิ่งใดหรือใช้งานบ่อยๆ มันจะค่อยๆพัฒนาขึ้นจนเชี่ยวชาญ และในทางกลับกัน ถ้าเราไม่ได้ใช้งานหรือไม่ได้ฝึกฝนอย่างต่อเนื่องแล้วล่ะก็ มันจะหยุดพัฒนา แถมถดถอยลงไปด้วย... และเราเป็นอย่างหลังค่ะ กว่าเราจะรู้ตัวและกลับมาซ้อมวิ่ง วันแรกวิ่งแค่ 3 กม. เหนื่อยมากกกก เดินซะเป็นส่วนใหญ่ หลังจากวันนั้นพยายามจัดตารางชีวิตใหม่ พบว่าตอนเช้าคือช่วงเวลาที่สะดวกสุด ขี้เกียจลุกมากกกก...แต่ก็ต้องตื่น วิ่งได้ช้ากว่าที่เคย หงุดหงิดตัวเองที่สุด แต่ก็พยายามปลอบใจตัวเองว่าให้ค่อยเป็นค่อยไป พยายามมีวินัย วิ่งได้ช้า วิ่งได้น้อย ก็พยายามทำให้ฝึกซ้อมให้บ่อย ทำให้ชิน กลางเดือนตุลาคม เหมือนๆจะนึกได้ว่ามีรายการโป่งแยงเทรลที่สมัครเอาไว้ ถามตัวเองว่าจะไปไหวเหรอ เพิ่งกลับมาซ้อมวิ่งเองนะ 555+ คำตอบตอนแรกคือ.. ไม่ไหวหรอก แต่จะทำยังไงดีล่ะ เปลี่ยนชื่อผู้สมัครก็ไม่ได้ ขอเงินคืนก็ไม่ทันแล้ว มีอยู่ 2 ทางเลือก คือไม่ไปแล้วขอรับเสื้อที่ระลึกสวยๆ หรือไปซะให้มันรู้แล้วรู้รอด (ชั้นเพิ่งจะกลับมาวิ่งได้ 2 เดือนเองนะ 😭😭) แต่สุดท้ายตัดสินใจ... ไปค่ะ!!!! งานนี้เค้ามีเวลา Cut-off Time 8 ชั่วโมงสำหรับระยะ 30 กม. หมายความว่าถ้าครบ 8 ชั่วโมงนับตั้งแต่ปล่อยตัวแล้วเรายังไม่เข้าเส้นชัย ถือว่าเราวิ่งไม่จบ วิ่งได้แค่ไหนก็แค่นั้น งานนี้เราเลยขอตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองให้วิ่งจบภาย 6 ชั่วโมง หรือถ้าทำไม่ได้จริงๆ ก็ขอให้วิ่งจนจบระยะแต่ไม่บาดเจ็บก็พอ ระยะนี้จะมี 2 ยอดเขาให้พิชิตด้วยกัน ยอดแรกคือผานกกก ความสูง 1,083 ม. จากจุดสตาร์ทถึงผานกกกและลงมาที่สเตชั่น W3 ระยะทางประมาณ 18 กม. เรายังพอทำเวลาได้ดี แต่หลังจากนั้นต้องขึ้นเขาอีกยอด ความสูง 962 ม. ขอบอกว่าหมดค่ะ 😂😂 หมดแรง พักบ่อยมาก อาการชนกำแพง ซ้อมไม่ถึงแสดงออกมาตอนนี้ พยายามค่อยๆเดิน ไต่ขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงยอดสูงสุด คิดในใจสบายล่ะเรา แต่ที่ไหนได้ขาลง ต้องวิ่งลงอีกประมาณ 5 กม. เจอทางลูกรัง แดดเปรี้ยงๆตอนบ่าย ปวดหน้าขามากกก เท้าก็เหมือนจะพอง ยังไม่พออีก 500 เมตรสุดท้ายจะเข้าเส้นชัยอยู่แล้ว ต้องลุยน้ำในลำธารซึ่งมีแต่โขดหินต่ออีก เส้นทางจะโหดไปไหน สรุป.. วิ่งจนจบเข้าเส้นชัยใช้เวลา 6 ชั่วโมงนิดๆ เกินเวลาที่ตั้งใจไปหน่อย แต่ก็พอใจแล้ว 🎉🎉 สิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้เลยหลังจากวิ่งจบ ถามว่าทำไมต้องไปทรมานขนาดนี้.. คำตอบคือมันไม่ใช่เพราะเหรียญ ไม่ใช่เพราะเสื้อฟินนิชเชอร์ที่เอาไว้ใส่เท่ห์ๆ ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาที่ภูมิใจตอนวิ่งเข้าเส้นชัย แต่ผลที่ได้มากกว่านั้น มันคือ... ช่วงเวลาที่เราลุกขึ้นมาซ้อมต่างหาก มันคือ..วินัย.. ที่เราได้รับ มันคือคำสัญญาที่เราให้ไว้กับตัวเองแล้วเราทำมันได้ มันคือร่างกายของเรา หัวใจของเราที่แข็งแรงขึ้น และสุดท้ายคือ เมื่อเรามีความเชื่อมั่นว่าเราทำได้ เราจะทำมันได้ในที่สุด.. ✌️✌️ หันมารักตัวเอง แล้วลุกขึ้นมาออกกำลังกายกันเถอะค่ะ.... ^___^