ต่อไปนี้จะไม่เหงาเพราะเรามีเขาอยู่ข้างๆ วันนี้เราจะพาเด็กทะเลไปขึ้นเขากัน โดยทริปนี้เป็นทริปของเด็กมอบูที่ไปเดินหาเขาที่กิ่วแม่ปาน เรามาเริ่มออกเดินทางกันเลย กิ่วแม่ปาน เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โดยมีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งจะมีการลัดเลาะไปตามเส้นทาง ถ้าใครอยากชมพระอาทิตย์อาจจะต้องมาในตอนเช้ามากกว่านี้แต่พวกเรามาช้าเลยทำให้ไม่ทันพระอาทิตย์ ซึ่งต้องเสียค่าไกด์นำทางกลุ่มละ 200 บาท เราไม่แน่ใจว่ากลุ่มหนึ่งเขานับประมาณกี่คน แต่วันนั้นเราไปกันประมาณ 15 คนถูกจัดแยกออกเป็นสองกลุ่ม แต่ไ่ม่ต้องกลัวว่าเขาจะจับแยกกัน เพราะเขาจะให้เดินไปพร้อมกันแต่ต้องมีผู้ดูแลเท่านั้น ห้ามออกเดินชมธรรมชาติเองเด็ดขาด เราไม่รู้ว่าวันนั้นโชคดีหรือยังไงกันแน่เพราะวันที่เราไป อุณหภูมิเพียงแค่ 7 องศาเท่านั้น เพราะเราแอบหวังว่าจะหนาวกว่านี้ แต่พอเริ่มเดินไปสักพักเพื่อนที่ใส่เสื้อหนาวมาก็เริ่มถอดกันทีละคนสองคน 555 แต่เราว่ามันเป็นอากาศที่กำลังพอดีเลยนะ คือออกเย็นนิดๆแต่ไม่ถึงกับหนาวจนทนไม่ได้และที่สำคัญวันที่เราไปคนยังไม่ค่อยเยอะมาก ทำให้ระยะเวลาในการต่อคิวเพื่อรอขึ้น กิ่วแม่ปาน ไม่นานนักเหมือนในข่าวที่ออก ในส่วนของการให้ข้อมูลนอกจากพี่ไกด์จะคอยดูแลพวกเราแล้ว พี่ไกด์ยังคอยให้ข้อมูลเราอีกด้วยว่าต้นไม้ต้นนี้คืออะไร มีที่มาและต้นกำเนิดอย่างไรบ้าง ซึ่งถือว่าดีมากๆ เส้นทางศึกษาธรรมชาติถือว่าไม่ลำบากเลย เราว่าทางค่อนข้างสะดวกมีทางเดินให้ และ เราจะได้เห็นน้ำตกเป็นระยะๆ ที่สำคัญคือได้เห็นต้นไม้ต้นใหญ่ๆที่เราไม่ค่อยได้เห็นกัน น้ำตกระหว่างเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เส้นทางชมธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่เป็นป่าดงดิบซึ่งจะมีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมอยู่ไม่ค่อยมีแสงแดดผ่าน พืชส่วนใหญ่ก็จะพวกเฟิน และมอส และอาจพบเห็ดรา ชนิดต่าง ๆ และในช่วงที่สองคือช่วงที่เป็นทุ่งหญ้าสันเขาค่อนข้างแห้งและแดดค่อนข้างร้อน เมื่อเดินเส้นทางธรรมชาติช่วงแรกที่เป็นป่าดิบชื้นมาสักระยะ เราจะออกมาบริเวณช่วงที่สองคือ ป่าแบบหญ้าบริเวณสันเขา บริเวณนี้ต้นไม้จะค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่มักเป็นทางโล่ง พวกเราค่อยๆเดินไต่ขึ้นไปยังยอดเขา เราจะเห็นเป็นที่โล่งๆแต่จะบอกว่าสูงๆมากๆ เหมือนเราอยู่ใกล้กับท้องฟ้าจริงๆ เราจะเดินตามเส้นทางเพื่อเดินไปยังจุดชมวิว นอกจากวิวของที่ กิ่วแม่ปาน แล้วถ้าเราโชคดีจะทำให้เราได้เห็น กุหลาบพันปี และ กวางที่อยู่ตามสันเขาอีกด้วย จากนั้นเราจะเดินลงเพื่อกลับไปยังเส้นทางในช่วงป่าดงดิบอีกครั้ง โดยเส้นทางเดินกลับจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ การเดินกลับทางเดิมซึ่งมีระยะทางที่สั้นกว่า และ เดินชมเส้นทางธรรมชาติตามสันเขา ซึ่งมีระยะทางที่ค่อนข้างไกลกว่า และแน่นอนว่า เราเลือกกลับมาเส้นทางเดิม 555 เพราะค่อนข้างเหนื่อยมาก เส้นทางเดินกลับก็จะมีการเดินขึ้นลงเหมือนตอนที่ได้เดินทางมาในตอนแรก และนี่ก็คือประสบการณ์การเดินขึ้นเขา ชมธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ของพวกเราเอง ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่สนุกมากๆ ถ้าใครยังไม่ได้สัมผัสเราขอแนะนำให้หาโอกาสลองเดินชมเส้นทางชมธรรมชาติดูนะคะ thx:14bffxchiangmai