"ผ้าทอสามัคคี ผ้าทอมือปกาเกอะญอ"บ้านแม่จุม ตำบลยั้งเมิน อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ อยู่บนหุบเขา เป็นชุมชนกะเหรี่ยง “ปกาเกอะญอ” และหมู่บ้านแม่จุมนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของการทอผ้าการทอผ้าในชุมชนนั้นมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น เกือบร้อยกว่าปีมาแล้วผ้าทอบ้านแม่จุมยังคงเป็นเอกลักษณ์และสร้างความสามัคคีให้กับกลุ่มสตรีทอผ้าบ้านแม่จุมให้เป็นกลุ่มที่เข้มเข็ง กลุ่มทอผ้าสตรีบ้านแม่จุมนั้น เปรียบเสมือนครูซึ่งกันและกันในกลุ่ม เพราะเมื่อถึงเวลาช่วงทอผ้าหรือในแต่ละวันจะมีสตรีในชุมชนมานั่งทอผ้ารวมกัน และการทอผ้านั้นถือเป็นกระบวนการกลุ่ม กระบวนการเรียนรู้ร่วมกันที่เกิดขึ้นภายในชุมชนผ้าทอมือปกาเกอะญอ ผ้าทอมือของกลุ่มแม่บ้าน บ้านแม่จุมเป็นเอกลักษณ์ของกะเหรี่ยงผู้หญิงทุกคนต้องทอผ้าให้คนในครัวเรือนใส่และเป็นองค์ความรู้ที่ได้รับในการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น การปักลายลูกเดือยถือเป็นการสร้างมูลค่าให้แก่เสื้อทอกะเหรี่ยงและการปักลูกเดือยนั้นเป็นการสะท้อนความเชื่อและวิถีชีวิต ซึ่งในคนชุมชนมีการเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวด้วยการทอผ้า ซึ่งเป็นวิธีการทอผ้าที่มีเอกลักษณ์และมีการสืบทอดยาวนานกว่าร้อยปี โดยครั้งเมื่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสร็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร ณ ศูนย์ศิลปาชีพบ้านแม่ตุงติง เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๐ ได้มีพระราชดำรัสให้สนับสนุนและส่งเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผ้าทอกะเหรี่ยง เพื่อรักษาไว้ซึ่งศิลปะการทอผ้า พร้อมมุ่งหวังให้ราษฎรบนพื้นที่สูงเกิดการอนุรักษ์วัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีและมีรายได้ที่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพสตรีบ้านแม่จุมจะทอผ้าเป็นทุกคนเพื่อทอให้คนในครอบครัวใส่อีกทั้งยังทอจำหน่ายเพื่อเลี้ยงชีพ การพัฒนาลายจะพัฒนาตามสมัยนิยมแต่ยังยึดถือเอกลักษณ์เฉพาะของชุมชนที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนทำให้ไหมที่ใช้ในการทอผ้าเปลี่ยนไปตามบริบท ไหมดั้งเดิมที่ใช้ทอผ้าเรียกว่าไหมโบราณ ไหมโบราณทำมาจากฝ้ายและนำมาย้อมสีโดยใช้สีจากธรรมชาติ เช่น สีเหลือง ย้อมมาจาก ขมิ้น สีเทา ย้อมมาจาก ไม้สัก และสีเขียว ย้อมมาจาก ฮ่อม เป็นต้น การหมักย้อมจะหมักฝ้ายลงในน้ำที่คั้นจากวัตถุดิบที่กล่าวมาข้างต้น ประมาณ ๑- ๒ เดือนสีถึงจะติดที่ฝ้ายและยังมีความเชื่อส่วนบุคคลอีกด้วยว่า การย้อมสีฝ้ายนั้นห้ามย้อมขณะเป็นประจำเดือน ตอนย้อมต้องย้อมเพียงลำพัง ห้ามมีคนมานั่งดูหรือมาหาที่บ้านไม่เช่นนั้นสีจะไม่ติดฝ้าย หากมองในอีกมุมหนึ่งก็คือผู้ย้อมจะไม่มีสมาธิในการผสมส่วนผสมในการหมักฝ้ายนั้นเอง ข้อดีของการใช้ไหมโบราณในการทอผ้าคือ จะไม่มีสารเคมีตกค้างขณะสวมใส่เนื่องจากว่าทำมาจากสีที่ได้จากธรรมชาติ ฤดูต่างๆ ไหมจะปรับอุณหภูมิไปตามฤดู เช่นฤดูร้อนผู้ที่สมใส่เสื้อทอที่ทำตากไหมธรรมชาติจะไม่รู้สึกร้อน ฤดูหนาวจะรู้สึกอบอุ่น ปัจจุบันไม่นิยมทอผ้าด้วยไหมโบราณหรือไหมธรรมชาติ เพราะว่ามีระยะเวลาในการทำที่นาน ไหมมีราคาแพง ถ้าหากนำไปขายจะไม่เป็นที่นิยมมากเท่าไหร่เสื้อที่ทำจากไหมโบราณจะมีราคาค่อนข้างสูง วิธีการทำมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและปราณีต ซึ่งแตกต่างจากไหมสังเคราะห์ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ไหมมีราคาถูกและหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าทั่วไป ไม่มีการหมักเหมือนไหมโบราณ ผู้ทอสามารถนำมาทอตามขั้นตอนของการทอผ้าได้เลย ข้อดีของไหมสังเคราะห์มีสีให้เลือกหลากหลายสีมีความสด สวยมากกว่าไหมโบราณ หากนำมาทอเสื้อขายแล้วจะมีราคาที่ต่ำกว่าเสื้อทอที่ทำจากไหมโบราณ การทอผ้าจะทอหลังจากเลิกทำการเกษตรในตอนเย็นทอเพื่อสวมใส่และทอเพื่อจำหน่ายส่งตามอำเภอต่างๆ เช่น อำเภอแม่แจ่ม อำเภอกัลยาณิวัฒนา การแต่งกายของผู้หญิงกระเหรี่ยงผู้หญิงโสดมักจะใส่สีขาว หรือ สีสัน และ ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจะใส่ที่มีสีดำแดงลายผ้านี้มีทั้งลายโบราณและลายสมัยใหม่ ทอมือทุกตัว ฝีมือสตรีในชุมชน ทักทอด้วยความตั้งใจ ปราณีต เพราะว่าการทอผ้าถือว่าเป็นจิตวิญาณของผู้หญิงบ้านแม่จุม รักและหวงแหน หากผู้อ่านท่านใดสนใจสั่งซื้อสามารถติดต่อผ่านพัฒนาชุมชน อำเภอสะเมิง และอบต.ยั้งเมินได้เลยนะคะ "เครดิตที่มาของภาพ ถ่ายโดยผู้เขียน Ng Wongprasert"