เชียงใหม่เป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญมากที่สุดจังหวัดหนึ่งในประเทศไทย ที่ผ่านมาประสบปัญหาฝุ่นควันจากการเผาป่า แล้วต่อด้วยโรคระบาดไวรัสโควิด- 19 ทำให้นักท่องเที่ยวหดหาย ส่งผลกระทบกับคนในจังหวัด ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มปิดกิจการ โรงแรมหลายแห่งประกาศขายกิจการ ทำให้ผู้คนตกงานต้องอยู่กับบ้าน ขาดรายได้ ขาดเครื่องอุปโภคบริโภค แต่วันหนึ่งก็มี “ตู้ปันสุข” ขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือผู้คน ผมขับรถผ่านหลายจุดจึงถ่ายรูปมา เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังขาดแคลนในจังหวัดเชียงใหม่ ตู้ปันสุข “หมู่บ้านเวิร์ลคลับ” จุดแรกคือ “หมู่บ้านเวิร์ลคลับ” ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ อยู่ริมถนนสายเขียงใหม่หางดง ถ้าเดินทางมาจากตัวเมือเชียงใหม่ ผ่านห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีแม่เหียะมาประมาณเกือบสองกิโล จะเจอสามแยกไฟแดง พอเลยแยกนิดเดียวหมู่บ้านอยู่ขวามือ เราจะเลี้ยวขวาตรงแยกไฟแดงแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าหมู่บ้านก็ได้ หรือจะไปกลับรถที่สี่แยกไฟแดงข้างหน้า ประมาณ 200 เมตร แล้วย้อนมานิดเลี้ยวซ้ายเข้าไป ก็จะเห็น “ตู้ปันสุข” ตั้งอยู่บนฟุตบาท ซ้ายมือ ขณะที่ผมไปถึงก็พบว่ามีรถเก๋งคันหนึ่งนำของมาเติมในตู้แล้วขับออกไป ผมจึงจอดรถลงไปถ่ายรูปและได้พูดคุยกับพี่คนหนึ่งที่เป็นคนของหมู่บ้านกำลังกวาดขยะอยู่แถวนั้นพอดี พี่คนนั้นบอกกับผมว่า ตู้นี้จะมีคนในหมู่บ้านนำของมาใส่ตู้ตลอดเพื่อแบ่งปันตลอด รถเก๋งคันเมื่อกี้ก็เช่นกัน และก็มีชาวบ้านแวะเวียนมาหยิบของกัน ส่วนใหญ่ก็เอาแต่พอดีไม่มีเอาถุงมากอบโกยเอาไปคนเดียวเหมือนในข่าวจากหลาย ๆ ที่ ผมฟังแล้วรู้สึกปลื้มใจที่คนเชียงใหม่มีจิตใจที่แบ่งปันทั้งคนให้และคนรับ คนรับก็รับแต่พอดีเพื่อแบ่งปันให้คนต่อ ๆ ไปด้วย ตู้ปันสุข “หน้าธนาคารกสิกร สาขาถนนสุเทพ” ผมออกจากจุด “หมู่บ้านเวิร์ลคลับ” มายังถนนสุเทพ ก็พบว่าที่หน้าธนาคารกสิกรสาขาถนนสุเทพก็พบว่ามี “ตู้ปันสุข” ตั้งอยู่ด้านหน้าธนาคาร ผมจอดรถลงไปถ่ายรูป ก็พบว่า มีสามแม่ลูกขับรถมอเตอร์ไซน์มาจอด เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ สองคน ลงไปเปิดตู้หยิบนม โดยมีแม่ส่งเสียงกำชับดังตามหลังมาว่า หยิบแต่นมนะ เพราะตัวเองบอกว่าจะกินนมก็เอาแต่นม ของอื่น ๆ จะได้ให้คนอื่นเขา หลังจากสามแม่ลูกขับมอเตอร์ไซด์ออกไปก็มีคนอื่นแวะเวียนเข้ามาหยิบ ทุกคนก็เอาแต่พอดีเท่านั้น ตู้ปันสุข ประตูเข้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะเกษตรศาสตร์ ผมขึ้นรถขับต่อมมายังด้านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็พบ “ตู้ปันสุข” ตั้งอยู่บนฟุตบาทริมถนนด้านซ้ายของประตูเข้ามหาวิทยาลัยตรงคณะเกษตรศาสตร์ คนแถวนั้นและนักศึกษาจึงเรียกประตูนั้นว่า “ประตูเกษตร” ผมเดินเข้าไปถ่ายในตู้ก็พบว่าในตู้ของหมดแล้วเหลือเพียงเมล็ดพันธ์พืช กับน้ำเปล่าสี่ห้าขวดเท่านั้น แต่ที่ข้างๆ ตู้มีข้อความเขียนไว้ว่า “เติมอีกทีพรุ่งนี้นะจ๊ะ” อีกด้านหนึ่งของตู้ มีข้อความเขียนเชิญชวนให้ออกความคิดเห็นกันได้ด้วยโดยมีข้อความว่า “คิดยังไงบอกเราได้นะ” ก็มีข้อความตอบมาที่ข้างกล่องว่า “เราจะผ่านไปด้วยกัน” “ขอบคุณครับ” “ขอบคุณค่ะ” “Thank you” “ขอบคุณที่ต่อชีวิตให้เรา” อ่านแล้วประทับใจมาก ๆ เพราะเป็นความรู้สึกดีดี ของคนไทยที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน มีให้กัน ตู้ปันสุข “ตลาดต้นพยอม” ผมถ่ายรูป “ตู้ปันสุข” ที่ประตูเกษตรมช. แล้ว ขับรถต่อมายังตลาดต้นพยอม เห็น “ตู้ปันสุข” ตั้งอยู่ริมถนนริมคลอง ตรงทางเข้าตลาดพอดี พอลงไปถ่ายรูปก็พบว่าในตู้ว่างเปล่าเสียแล้ว เพราะพ่อค้าแม่ค้าจะนำของมาใส่ตั้งแต่เช้า ชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาจึงมาหยิบกันไปจนหมดแล้ว วันนี้ ผมขับรถผ่าน “ตู้ปันสุข” 4 จุดด้วยกัน ซึ่งก็ใช้เวลาหลายชั่วโมงเหมือนกัน ทำให้ของใน “ตู้ปันสุข” เริ่มหมดลงแล้ว ผมจึงเดินเข้าตลาดเพื่อหาซื้อของเพื่อสำหรับเติมใส่ตู้เพื่อแบ่งปันคนอื่นกับเขาบ้าง เป็นความสุขใจเล็ก ๆ ที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น ไวรัสโควิด-19 น่าจะยังคงอยู่กับเราอีกนาน ผมเชื่อว่า “ตู้ปันสุข” หรืออาจจะตั้งชื่ออื่น ๆ ก็แล้วแต่ แต่เป็นตู้ที่แบ่งปันกันช่วยเหลือกันจะต้องมีเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งในจังหวัดเชียงใหม่ และทั่วประเทศไทย ผมเองก็ขอเป็นส่วนหนึ่งที่มีโอกาสได้แบ่งปัน โดยผมจะซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำ และของที่เป็นประโยชน์ติดรถไว้ หากว่าเจอตู้ที่ไหน ก็จะนำไปใส่ตู้นั้นไว้ด้วย เพราะไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินไป เราแค่ทำตามกำลังที่มีเท่านั้น และสามารถติดตามบทความเกี่ยวกับตู้ปันสุขอื่น ๆ ได้ที่ https://news.trueid.net/detail/j9wZG1Gk26Po ภาพประกอบโดย เช้าตรู่ ผู้เขียน