มนุษย์เงินเดือน อย่างเรา ๆ ทำงานกันทุกวัน อยากพักผ่อนวันหยุด ได้แต่ดูรูปสถานที่ท่องเที่ยว ได้แต่คิดก้อไปไม่ถึง เราต้องออกเดินทางบ้าง ไปชาร์จแบตเติมพลังบ้าง คิด...แล้วไปให้ถึง เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ แต่ถ้าเราคิดว่าไปเที่ยวก็ต้องเสียเงิน มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่เราก็อยากจะประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย วันนี้เราจะนำเสนอทริปเที่ยวฉบับเราเที่ยวด้วยกัน อยากประหยัดเงินในกระเป๋าเราซะหน่อย ขอแว๊บไปพักกายที่แม่กำปอง เชียงใหม่กันนะคะ หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีความอบอุ่น ไปโอบกอดสูดอากาศดี ๆ ที่นั่นกันค่ะ สำหรับการเดินทางวันแรก มุ่งตรงกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ บ่าย ๆ มาถึงเชียงใหม่ หิว ๆ ขอแว๊บไปกินข้าวซอย ร้านแรก เราหยุดกันที่ ลำดวน ข้าวซอย เชียงใหม่เจ้า ข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม ร้านข้าวซอยเจ้าดังประจำเมืองเชียงใหม่ รสชาติจัดจ้าน แซ่บมาก ๆ ค่ะ เมนูแนะนำ ข้าวซอยไก่ ข้าวซอยหมู ใครมาแถวนี้ แวะมากินได้เลย ขอเข้าไปเช็คอินโรงแรมกันหน่อย เราจองไว้ที่ S17@NIMMAN HOTEL ราคาห้องคืนนึงเมื่อใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันแล้วไม่เกิน 1,000 บาท ห้องพักดูดีสบาย สะอาด มีโซนนั่งเล่น มีการแบ่งแยกโซนห้องได้ดีค่ะอยู่แถวย่านนิมมานฯ ใครยังหาที่พักไม่ได้ก็แนะนำเลยค่ะ จากนั้นไปกันต่อค่ะ ที่วัดพระธาตุดอยคำ เป็นวัดสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ อายุเก่าแก่ ตั้งอยู่บริเวณดอยคำ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กิโลเมตร ชาวบ้าน – นักท่องเที่ยวนิยมมาขอพร บนบาน โดยเฉพาะขอเลขเด็ด ขอให้ถูกหวย การขอพรให้จุดธูป 3 ดอก แล้วอธิษฐานขอพรเรื่องที่ต้องการ บอกท่านว่าจะมาถวายดอกมะลิ 50 พวงขึ้นไป จากรูปดอกมะลิด้านบน บ่งบอกได้ถึงความศรัทธาได้เป็นอย่างดี เราก็มาถึงแล้วอย่าให้เสียเที่ยว ไปเลยค่ะ ถ้าเราเดินทะลุออกมาด้านหลังวัด จะเป็นจุดชมวิว มองเห็นวิวได้ไกลถึงตัวเมืองเชียงใหม่ สนามบินเชียงใหม่ และที่เห็นได้ชัดในระยะใกล้ ก็จะเป็นอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ไหน ๆ มาถึงถิ่นเหนือ ยามค่ำขอจัดอาหารพื้นเมืองกันหน่อย ณ ร้านแกงร้อนบ้านสวน (ร้านนี้เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน) กินกันไปชุดใหญ่ 845 บาท เราก็จ่ายผ่านแอปเป๋าตังกันเลย เหลือเพียง 507 บาท หารกันแล้ว คนละไม่ถึง 130 บาทค่ะ แต่ความรู้สึกมันอิ่มมาก ๆ ใช้จ่ายให้คุ้มค่าค่ะ ค่ำ ๆ ขอไปเดินย่อยอาหารที่ตลาดกาดหน้ามอกันต่อค่ะ shopping กันมันส์มากค่ะ ตลาดของนักศึกษามอเชียงใหม่ ขายของถูกค่ะ ไม่แพง แนะนำใครมาแถวนี้แล้วก็เดินไปให้มันรู้ค่ะ ว่าจะทลายทรัพย์กันมั้ย หรือใครจะไปเดินตลาดถนนคนเดินก็ได้ ที่ประตูท่าแพ มีของให้ช้อปเยอะอยู่ค่ะ ทั้งของกินและเสื้อผ้าของฝาก เดินจนให้ขาลากไปเลย เส้นทางตลาดค่อนข้างยาว คืนนี้ก็จบทริปวันนี้พักผ่อนตามอัธยาศัยค่ะ วันนี้ขอมุ่งไปนอน ณ แม่กำปอง หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่บรรยากาศแบบกันเองมาก ๆ สำหรับคนกรุงที่หนี pm 2.5 อยากมาสัมผัสอากาศบริสุทธิ์สูดกันให้เต็มปอด เหมือนติดแอร์ นอนฟังเสียงน้ำไหลทั้งคืน ซึ่งเราก็คิดว่าฝนตกทั้งคืน บ้านพักที่นี่จะเป็นบ้านของชาวบ้านเอง ไม่มีแอร์นะคะ เพราะที่นี่อากาศเย็น เราจองบ้านแม่กำปองป้ายแดง คืนนึง หัวละ 500 บาท แถวย่านนี้มีร้านกาแฟ ณ แม่กำปอง บรรยากาศดีมาก ร้านฮ่อมดอย หลบอยู่ในมุมที่ปลีกวิเวกไปกับธรรมชาติจริง ๆ คนไม่เยอะมาก สงบดีค่ะ เจ้าของร้านคุยสนุก แวะมา check in กันได้ พี่เจ้าของร้านเค้าแนะนำที่พักแบบโฮมสเตย์ชาวบ้าน สำหรับคนที่ต้องการซึมซับวิถีชีวิตชาวบ้าน ไม่ยึดติดความหรูหราความสบาย ติดต่อที่ 062-192-9656 ถ้าคุณพักที่พักของชุมชนเองแบบนี้ คุณจะได้ช่วยบริจาคเข้ากองทุนชุมชนไปด้วย แถมยังมีอาหารชุดขันโตกดั้งเดิมให้รับประทานด้วย คุ้มค่าและดีงามมาก ๆ ครั้งหน้าเราจะไม่พลาดที่จะติดต่อไปพักแบบนี้แน่นอนค่ะ สื่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่นี่ ควรเดินเล่นรอบ ๆ หมู่บ้าน แวะกินกาแฟ ดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติเขียว ๆ นั่งฟังเสียงธารน้ำไหล ไหว้พระชมโบสถ์กลางน้ำวัดคันธาพฤกษา แวะชิมไส้อั่วป้านิ่ม (รสชาติโอเคอยู่นะ) และกินอาหารพื้นบ้าน Check-in point ของที่นี่ พิกัดช่วงต้นหมู่บ้าน #โครงการหลวงตีนตก #ผาน้ำลอด #สว่างคาตา #Teddu Coffee พิกัดช่วงท้ายหมู่บ้าน #บ้านลุงปุ๊ดป้าเป็ง #วัดคันธาพฤกษา #ระเบียงวิว #น้ำตกแม่กำปอง มีอีกหนึ่งสถานที่ ดอยกิ่วฝิ่นจุดชมวิวสวย ๆ ที่ไปจากแม่กำปองไปไม่ไกล ทางที่ขึ้นไปกิ่วฝิ่นค่อนข้างเป็นทางลาดชันมากๆ ใครที่ขึ้นมาด้วยรถส่วนตัวไม่แนะนำเลย แนะนำให้เหมารถชาวบ้านมากัน มีรถบริการรับส่งของชาวบ้านไปในช่วงเช้า ตี 5 ของทุกวัน ไปกลับ 100 บาท สามารถติดต่อได้จากเจ้าของบ้านพัก หรือตามป้ายที่มีตามทางเดิน ผู้คนส่วนมากจะมาชมพระอาทิตย์ขึ้นกันที่นี่ ช่วงที่เราไปฟ้าไม่ค่อยเปิด ไม่เป็นใจสักเท่าไหร่ แถมมีฝนโปรยปรายบ้าง ขึ้นไปอากาศเย็นแบบชื้น ๆ สภาพแบบท้องฟ้าฟุ้ง ๆ ขาว ๆ เช้าวันนี้ก่อนจะอำลาแม่กำปอง ก็เดินเที่ยวชมหมู่บ้านแล้วเดินไปร้านกาแฟที่เป็นจุด Landmark ของที่นี่ ร้านระเบียงวิว ถ้านั่งรถขึ้นไปมีค่าบริการ 20 บาท สาว ๆ อย่างเราฟิต ๆ ขอเดินขึ้นไป เส้นทางลัดชันได้อีก เดินไปถึงหอบกิน เกิดกระหายน้ำพอดี ก็ต้องอุดหนุนน้ำเค้าพอดี ณ ร้านกาแฟแห่งนี้ จุดนี้เรียกได้ว่าเป็นภาพที่ภูเขาล้อมหมู่บ้านเล็ก ๆ นี้ไว้ จากนี้เราขอต้องอำลาแม่กำปอง ระหว่างทางกลับ เราผ่านน้ำพุร้อนสันกำแพง เลยเข้าไปเยี่ยมชมกันหน่อย น้ำพุร้อนสันกำแพง เชียงใหม่ เป็นน้ำพุร้อนที่พุ่งออกมาจากชั้นใต้ดิน มีอุณหภูมิสูงกว่า 105 องศาเซลเซียส ความสูงถึง 15 เมตร สามารถนั่งแช่เท้าผ่อนคลายความเมื่อยล้าในบ่อน้ำร้อน และต้มไข่ได้ตามเวลาที่บอกในป้ายเลย วันนี้มาเจอชาวแก๊งลูกเสือสำรองมาทัศนศึกษา เด็ก ๆ เรียกไปช่วยต้มไข่ให้หน่อย จนสนิทตามมานั่งแช่เท้ากันต่อ ขออำลาทริปเที่ยวแบบงบน้อยไปได้ถึงแม่กำปอง นี่คือเหล่าสมาชิกชาวแก๊งผู้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน เราเที่ยวด้วยกัน ภาพถ่ายทั้งหมดถ่ายโดยอาหมวยแบกเป้ แล้วเจอกันในทริปต่อไปค่ะ เรื่องเที่ยวเรื่องกินไว้ใจเราค่ะ “ความงามของรูปถ่าย ไม่สามารถบ่งบอกเรื่องราวได้ทั้งหมด จนกว่าคุณจะออกเดินทางจริง ๆ”