ปี 2022 อะไรๆมันก็แพง ไม่ว่าจะเป็นค่าของกิน ของใช้ ค่าน้ำมัน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊สล้วนต้องใช้เงินเพื่อทำการใช้จ่ายทั้งนั้น ส่งผลให้ผู้คนชลอการใช้จ่าย เพื่อประคองการใช้ชีวิตให้ผ่านไปได้อย่างไม่ต้องลำบากในอนาคต ในส่วนของค่าไฟ ประชาชนผู้ใช้ไฟจำเป็นต้องจ่ายค่าไฟทุกเดือน น้อยบ้าง มากบ้าง ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเดือนนั้นๆ แต่มีน้อยคนที่จะตรวจสอบได้ว่า ค่าไฟที่จ่ายไปในแต่ละเดือนนั้นมันถูกต้องหรือเหมาะสมหรือไม่ หากสามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง ก็จะสามารถบริหารจัดการการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้อย่างเหมาะสม และเกิดการประหยัดพลังงานไฟฟ้า สุดท้ายแล้วก็จะทำให้ค่าไฟที่จ่ายให้การไฟฟ้าลดลง สิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนจะประเมินได้ว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าของอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน มีดังนี้ 1.กำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์ไฟฟ้า (W) คือการกินไฟของอุปกรณ์นั้นๆนั่นเอง ซึ่งสามารถดูได้จากสเปคของอุปกรณ์นั้นๆ 2.ชั่วโมงการใช้งานของอุปกรณ์ 3.พลังงานไฟฟ้า (kWh) คือ อัตราการใช้ไฟฟ้าของอุปกรณ์นั้นๆต่อหนึ่งชั่วโมง หรือที่เรียกโดยทั่วไปว่า "หน่วย" ทั้งสามอย่างที่กล่าวมาจะมีความเกี่ยวข้องกัน สามารถคำนวณพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ โดยใช้สูตรง่ายดังนี้้ พลังงานไฟฟ้า (kWh) หรือหน่วย = (กำลังไฟฟ้า (W) x ชั่วโมงการใช้งานของอุปกรณ์) / 1,000 สมมติในบ้านหนึ่ง มีการใช้ทีวีดิจิตอลในบ้าน ขนาด 50 W มีการเปิดใช้งานเฉลี่ย 5 ชั่วโมงต่อวัน สามารถคำนวณหาค่าพลังงานไฟฟ้าหรือหน่วยได้ดังนี้ พลังงานไฟฟ้า (kWh) หรือ หน่วย = (50 x 5) / 1,000 = 0.25 แสดงว่า ทีวีเครื่องนี้ ใช้พลังงานไฟฟ้าๆไป 0.25 หน่วยต่อวัน และให้หนึ่งเดือนมีการดูทีวี 30 วัน จะได้พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ต่อเดือนเท่ากับ 0.25 x 30 = 7.5 kWh/เดือน หรือ 7.5 หน่วย/เดือน ปัจจุบันอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยประมาณ 4 บาทต่อหน่อย หรือ 4 บาท/kWh ดังนั้นทีวีเครื่องดังกล่าวจะต้องเสียค่าไฟ 7.5 x 4 = 30 บาท/เดือน ทั้งนี้อัตราค่าไฟฟ้ามีโอกาสสูงขึ้นหรือลดลง ก็ขึ้นอยู่กับค่า Ft หรือค่าต้นทุนการผลิตของการไฟฟ้าอีกที ซึ่งถ้าค่า Ft เพิ่มขึ้น อัตราค่าไฟฟ้าก็อาจจะเกิน 4 บาทต่อหน่วยก็เป็นได้ นั่นเท่ากับว่าเราต้องจ่ายค่าไฟเพิ่มมากขึ้น จากที่กล่าวมา ได้ยกตัวอย่างอุปกรณ์แค่ชนิดเดียว แต่ในความเป็นจริง ทุกบ้านจะมีอุปกรณ์ไฟฟ้าใช้งานหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟ ตู้เย็น พัดลม เป็นต้น การคิดคำนวณหาค่าพลังงานไฟฟ้าก็ให้ใช้วิธีเดียวกันกับที่ยกตัวอย่างไว้ แล้วเอาค่าพลังงานไฟฟ้าของทุกอุปกรณ์ที่ใช้งานในบ้านมารวมกัน ก็จะได้พลังงานไฟฟ้าของอุปกรณ์ภายในบ้านทั้งหมด เมื่อเราได้ค่าพลังงานไฟฟ้าในเบื้องต้นแล้ว ก็จะสามารถตรวจสอบได้ว่า ค่าไฟฟ้าจากใบแจ้งหนี้ที่จะต้องจ่ายให้การไฟฟ้า มันสอดคล้องกับที่เราคิดคำนวณไว้หรือไม่ หากไม่เช่นนั้นก็สามารถให้ทางเจ้าหน้าที่ของทางการไฟ้ฟ้า ตรวจสอบให้อีกครั้งเพื่อความถูกต้องจริงๆต่อไป อย่างไรก็ตาม ค่าไฟอาจจะแพงขึ้นในอนาคต แต่เราสามารถบริหารจัดการไม่ให้เสียค่าไฟแพงๆได้ เช่น ปิดอุปกรณ์ หรือยกเลิกอุปกรณ์ต่างๆที่ไม่จำเป็น การลดชั่วโมงการใช้งานของอุปกรณ์ เป็นต้น ก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายภายในบ้านได้อีกทาง เรื่องโดย : สารสุขขอบคุณภาพประกอบจาก : Frantisek_Krejci / Pixabay , Victoria_Borodinova / Pixabay , Clker-Free-Vector-Images / Pixabay , macrovector / freepikขอบคุณภาพปกจาก : kschneider2991 / Pixabayเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !