งามล้ำค่า..ดาราภิรมย์ เชียงใหม่เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 700 ปี มีวัดวาอาราม และโบราณสถานเป็นจำนวนมาก เพราะผู้คนในแผ่นดินล้านนาล้วนเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และเนื่องจากเป็นหัวเมืองของภาคเหนือ ทำให้มีพระอารามหลวงอยู่หลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ วัดป่าดาราภิรมย์ ซึ่งเป็นพระอารามหลวงแห่งที่ 7 ของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่บริเวณหลังที่ว่าการอำเภอแม่ริม ใกล้กับพระตำหนักดาราภิรมย์ เส้นทางเข้าวัดจะเป็นถนนเล็ก ๆ ที่มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น และมีคลองชลประทานไหลผ่านด้านหน้าวัด วัดป่าดาราภิรมย์ ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2481โดยเจ้าลดาคำ ณ เชียงใหม่ ผู้เป็นทายาทของเจ้าดารารัศมี พระราชชายาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระราชชายา และใช้ในกิจการสงฆ์ โดยมีพิธีผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 ในบริเวณวัด มีทั้งเขตพุทธาวาส กุฎิสังฆาวาส กุฏิเขตสวนป่า และเขตชี-พราหมณ์ สำหรับผู้มาปฏิบัติธรรมที่วัด สถาปัตยกรรมของวัด โดยรวมเป็นศิลปะแบบล้านนาผสมไทใหญ่ เมื่อเราไปถึงวัด สิ่งแรกที่พบ คือ พญาราชสีห์หลวง ตั้งอยู่คู่กันที่ด้านหน้าประตูเข้าวัด ทางซ้ายมือหลังก้าวเข้าไปด้านในบริเวณวัด จะพบ พระวิหารหอคำหลวง ซึ่งจำลองมาจากหอคำของเจ้าหลวงเชียงใหม่ในสมัยโบราณ มีขนาดกว้าง 12 เมตร ยาว 46 เมตร ภายในมีภาพแกะสลัก ปูนปั้นและลายคำแบบล้านนา เป็นที่ประดิษฐานพระประธานทรงเครื่อง บริเวณด้านขวามือ จะเป็นพระอุโบสถพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ที่ประดิษฐานพระประธานปางสมาธิ ศิลปสุโขทัย พระนามว่า "พระสยัมภูโลกนาถ" พระธาตุเจดีย์พระพุทธบาทสี่รอย พระวิหารน้อยพระนาก และศาลาที่ประทับของพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ซึ่งเพิ่งแล้วเสร็จไม่นานนี้ เดินเข้าไปในส่วนด้านหลัง จะพบ มณฑปพระเจ้าทันใจ ซึ่งเป็นมณฑปแบบศิลปะล้านนาผสมเชียงตุง จำลองมาจากที่บรรจุอัฐิของเจ้าฟ้าเชียงตุง ประเทศพม่า ซึ่งเจ้าวรจักร ณ เชียงตุง ทายาทเจ้าผู้ครองนครเชียงตุง เป็นประธานสร้างถวายเพื่อประดิษฐานพระเจ้าทันใจ และเป็นอนุสรณ์สถานบรรจุอัฐิเจ้าฟ้าเชียงตุง และเจ้าแม่ทิพวรรณ ณ เชียงตุง และยังมีอาคารอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีก เช่น หอกิตติคุณของพระธรรมดิลก หรือพระพุทธพจนวราภรณ์ (จันทร์ กุสโล) หอพระกรรมฐาน และโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรมและบาลี สถานที่สำคัญที่ควรเข้าไปกราบสักการะเป็นอย่างยิ่ง และถือเป็นไฮไลท์ของวัดป่าดาราภิรมย์ คือ มณฑปพระจุฬามณีศรีบรมธาตุ ซึ่งทุกท่านไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะมีสถาปัตยกรรมที่งดงามมากทั้งภายนอกและภายในแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานพระทันตธาตุเจ้า อีกด้วย ตัวมณฑปถูกสร้างเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสกว้างด้านละ 21 เมตร สูงสี่ชั้น และมีหลังคาซ้อนสี่ชั้น ยอดมณฑปเป็นทรงปราสาทเจดีย์หุ้มด้วยทองคำ มีความสูงจากฐานถึงยอดฉัตร 39 เมตร เป็นศิลปะล้านนาผสมไทใหญ่ แนวคิดในการก่อสร้างยึดจากลักษณะของเขาพระสุเมรุ โดยแต่ละชั้นของมณฑปเปรียบกับสวรรค์ชั้นต่าง ๆ ชั้นล่าง จะเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย ซึ่งจะมีแม่ชีท่านหนึ่งเป็นผู้ดูแลพื้นที่ในส่วนนี้ ส่วนชั้นที่ 2 ซึ่งเปรียบเสมือนชั้นดาวดึงส์ จะมีมณฑปจุฬามณี แทนพระเกศแก้วจุฬามณีศรีบรมธาตุบนสรวงสวรรค์ อันเป็นที่ประดิษฐานพระทันตธาตุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวพุทธ ภายในยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง และมีพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนเรศวรมหาราชอีกด้วย เรื่องราวน่าสนใจที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการสร้างวัดแห่งนี้ คือ ตำแหน่งที่สร้างมณฑปแห่งนี้ ถือเป็นตำแหน่งชัยมงคลของวัด ซึ่งตามคติความเชื่อในระบบจักรวาลในคติโบราณของชาวพุทธ จะถือเป็นแกนกลางของจักรวาล มีพระวิหารหลวงหอคำ พระอุโบสถดารารัศมี หอกิตติคุณ มณฑปพระเจ้าทันใจ เป็นเขตชมพูทวีป พื้นที่ป่าในวัด เปรียบเสมือนป่าหิมพานต์ รูปปั้นสัตว์ต่าง ๆ ในวัด ทั้งพญานาค พญาราชสีห์ ฯลฯ เป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์ ซุ้มประตูโขงของวัด เป็นประตูแห่งจักรวาล คลองหน้าวัดและสระพระอุปคุตที่หน้าวิหารหลวง เป็นคงคา สนามหญ้าโดยรอบ เป็นมหาสมุทรศรีทันดร วัดป่าดาราภิรมย์แห่งนี้ นอกจากจะเป็นพระอารามหลวงที่มีความงดงามแล้ว ยังถือเป็นวัดป่าที่เงียบสงบ เหมาะแก่การมาทำบุญ ปฏิบัติธรรม หรือแม้แต่การอุปสมบทเป็นอย่างยิ่ง พุทธศาสนิกชนคนไทยท่านใด ที่สนใจเดินทางมายังวัดแห่งนี้ ท่านสามารถเดินทางมาที่อำเภอแม่ริม โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 107 มุ่งหน้าไปทางอำเภอแม่ริม ผ่านหน้าที่ว่าการอำเภอแม่ริม แล้วเลี้ยวซ้ายที่แยกตลาดแม่ริม (แม่ริมพลาซ่า) เข้าไปอีกประมาณ 500 เมตร ผ่านหน้าพระตำหนักดาราภิรมย์ที่อยู่ทางซ้ายมือ แล้วข้ามสะพานข้ามน้ำ เลี้ยวซ้ายอีกประมาณ 200 เมตร จะพบทางเข้าวัด ใช้ระยะเวลาจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น แล้วท่านจะค้นพบว่า "บางครั้ง ความสงบก็ไม่ต้องเดินทางไกล แต่อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือจริง ๆ ".. ภาพและเรื่อง โดย Kepler-22b