ถ้าใครชอบถ่ายรูป บรรยากาศเย็นสบาย มีพืชพันธ์ไม้ให้ศึกษาทั้งพืชน้ำ พืชบก มีสะพานเหล็กเชื่อมต่อกันรอบ ๆ ให้ได้ชิมวิวทิวทัศน์ได้ทั่วป่า มีครบทั้งอาหาร ความงดงามของธรรมชาติ ได้สูดโอโซนจนชุ่มปอด ต้องไปที่นี้ค่ะ เครดิต chanapra.2468 สถานที่นี้เลย สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (Queen Sirikit Botanic Garden) ตั้งอยู่ที่ 100 หมู่ 9 ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เส้นทางเดียวกันกับไปม่อนแจ่ม ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียง 27 กิโลเมตร บนถนนใหญ่สายแม่ริม-สะเมิง เป็นสวนพฤกษศาสตร์แห่งแรกของไทยที่มีมาตรฐานระดับสากล มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ วิชาการ และ ศึกษาวิจัย ทางด้านพฤกษศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน หย่อนใจที่มีความสวยงาม บนพื้นที่ 6,500 ไร่ ซึ่งเต็มไปด้วยพรรณไม้ นานาพรรณจากทั้งในและจากต่างประเทศ เครดิต chanapra.2468 ตลอดการเดินชมเรือนกระจกต่าง ๆ ที่แรกที่เราชอบคือเรือนกล้วยไม้ มีกล้วยไม้หลากหลายสายพันธ์ให้เราได้ถ่ายภาพเยอะมาก มีกล้วยไม้ป่าหายาก อย่างเช่นในภาพที่เห็น มีทั้งรองเท้านารี, เอื้องผึ้ง, เหลืองจันทบูร, พวงหยก, หวายปม ฯลฯ เครดิต chanapra.2468 และอีกสายพันธ์ที่เกือบสูญพันธุ์ไปแล้วในธรรมชาติก็ถูกรวบรวมมาไว้ในเรือนกระจกแห่งนี้ เครดิต chanapra.2468 พอออกจากเรือนกล้วยไม้ ก็มาเรือนกระจกใหญ่ที่จำลองป่าดงดิบของทวีปเอเซียที่รวบรวมพันธ์พืชมาไว้ด้วยกัน โดยมีสะพานเหล็กเป็นทางเดินให้เราได้เดินชม จากที่เราเดิน จะพบพันธ์ุไม้อาทิ มอส เฟริน์ ฯ เครดิต chanapra.2468 มีน้ำตกจำลองเล็ก ๆ เลี้ยงปลาคาร์ฟ ให้ความชุ่มชื่น จัดแต่งสภาพเหมือนกับเข้าไปอยู่ในป่าจริง ๆ เดินเล่นข้างในรู้สึกเย็นมากเลย เครดิต chanapra.2468 ออกจากเรือนป่าดิบชื้น ก็มาเรือนบัว ที่มีบัวหลากหลายสายพันธ์ มีดอกบัวหลากสีสัน หลากหลายสายพันธุ์ให้ได้ชม อาทิ บัวหลวง บัวแดงอังกฤษ บัวผัน บัวเผื่อน ฯลฯ นอกจากจะได้ภาพสวย ๆ แล้วยังมีข้อมูลให้ศึกษาที่มา ต้นกำเนิด และชนิดของบัวอีกด้วย เครดิต chanapra.2468 พอออกจากเรือนบัว ก็มาเรือนกระจกของพืชในแถบทะเลทราย ที่นี้เราชอบมาก ถ่ายรูปสวยมาก ก็มีความสวยงามเป็นเรือนพืชทนแล้ง จำพวกกระบองเพชรชนิดต่างๆ พืชสกุลศรนารายณ์ กุหลาบหิน พืชอวบน้ำ และไม้แล้งทรงสูง มีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ ได้เห็นต้นกระบอกเพชรที่มีหน้าตาแปลก ๆ มากมาย และยังแฝงความรู้ทางพฤกษศาสตร์ ฯลฯ ให้เราได้ศึกษาหาความรู้ควบคู่กับการเดินเที่ยวเพลิน ๆ ไปด้วย ยังมีเรือนพันธ์ุพืชอีกมายมาย อาทิ เรือนสัปปะรดสี เรือนกุหลาบ เรือนสมุนไพร ฯลฯ ให้ได้ศึกษาและเข้าชม เปิดบริการทุกวัน 08.30 - 16.30 น. อัตราค่าเข้าคนละ 30 บาท รถยนต์คันละ 100 บาท มอเตอร์ไซค์ไม่เสียค่าจอดค่ะ ไปที่นี่ไม่ใช่แค่ได้ความสวยงามของสถานที่อย่างเดียวนะคะ ต้องไม่พลาดไปทดลองความกล้าของจิตใจ ความสั่นของขา ที่ทางเดินบนยอดไม้ canopy walkway เป็นสะพานเหล็กเหนือยอดไม้ ที่ทั้งสูงและทั้งเสียว เครดิต chanapra.2468 แต่พอเดินจนสุดทางต้องบอกว่าคุ้มที่จะเสี่ยงเพราะวิวสวยมาก ๆ ได้เห็นป่าพื้นใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นป่าไผ่ และต้นกล้วยป่า ป่าสน และพันธ์ุไม้ป่า ตลอดทางเดิน เครดิต chanapra.2468 ได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ แถมยังหนาวเย็น ฟินสุด ๆ ไปเลยละคะ ถ้ามีโอกาส อย่าพลาดที่จะมาแวะชมกันนะคะ ที่มา องค์การสวนพฤกษศาสตร์