บางทีความประทับใจก็เกิดจากความบังเอิญ ช่างเช่นที่ผู้เขียน กำลังแว้นมอเตอร์ไซค์ แล้วสังเกตเห็นวัดโดยบังเอิญ ในค่ำวันหนึ่ง ขณะที่ กำลังกลังเขา หลังจากขี่รถเล่นไปตามถนน แม่ริม-สะเมิง และกำลังตั้งใจจะกลับ เมื่อมาถึงแถว บ้านทุ่งโป่ง ต.แมแรม อแม่ริม จ.เชียงใหม่ สายตาก็สะดุดกับ เจดีย์สีขาวอยู่ไกลๆ บนเขา จึงรีบจอรถ แล้วถามชาวบ้านว่าทางขึ้นไปอยู่ตรงไหน เมื่อได้รับคำตอบจากชาวบ้านว่า นั่นคือ “พระธาตุชุ่มเมือง” จึงรีบเลี้ยวมอเตอร์ไซค์ไปตามคำบอกทันที ซึ่งเข้า ตรงน้ำตกแม่สา ซ.6 อยู่ทางเดียวกับทางไป สวนแมลงสยาม (siam insect zoo) ถนนไปก็สะดวก และมีป้ายบอกตลอดทาง และขึ้นเขาชันพอสมควรแต่ รู้สึกร่มรื่นมาก เพราะสองข้างทาง ครึ้มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ และแล้วก็ขึ้นจนถึง“วัดพระธาตุชุ่มเมือง” (หรือสันธาตุ ที่ชาวบ้านเรียก) วัดที่เงียบสงบ ตัวผู้เขียนเองเมื่อไปถึงก็เดินขึ้นบันไดขึ้นไป (เล่นเอาหอบเหมือนกัน) และตามหาหลวงพ่ออยู่นานเพื่อจะขออนุญาต เดินเยี่ยมชมวัด แต่กลับ ไม่เจอใครเลย จึงถือวิสาสะกราบพระ และเดินถ่ายรูป ไปพลาง ๆ ซึ่งข้างบนนี้ อากาศเย็นสบาย เพราะอยู่บนยอดเขา ซึ่งสามรถมองเห็นทิวทัศ ต.แม่แรมได้อย่างชัดเจน รวมถึงบางส่วน ของ อ.แม่ริมด้วย ส่วนภายบริเวณวัดนั้น ค่อนข้างจะเล็ก เงียบสงบ สักพัก หลวงพ่อจึงเดินมาหา จึงทราบว่า ที่นี่มีพระจำวัดอยู่เพี่ยง 2 รูปเท่านั้น และชาวบ้านไม่ค่อยจะขึ้นมากันเพราะมันสูง จึงไป “วัดน้ำตกแม่สา” แทนซึ่งเดินทางสะดวกกว่า “วัดพระธาตุชุ่มเมือง” มีอายุ ประมาณ 600-700 ปี “วัดพระธาตุชุ่มเมือง” อยู่ตรงข้ามกับ วัดพระธาตุดอยสุเทพ โดย วัดพระธาตุดอยสุเทพอยู่ทางทิศใต้ของ อ.เมือง ส่วนพระธาตุชุ่มเมือง อยู่ทางเหนือ ของ อ.แม่ริม ซึ่งทั้งสองพระธาตุ อยู่บนเทือกเขาแนวเดียวกัน และวันพระใหญ่ ชาวบ้านมักจะเห็นพระธาตุเสด็จออกเป็นแสงสีเขียว เสด็จไปมา ระหว่างสองพระธาตุอีกด้วย (ความเชื่อส่วนบุคล โปรดใช้วิจารณญาณ) ส่วนการเดินทางไปนั้น ต้องใช่รถส่วนตัว เพราะไม่มีรถโดยสารไปถึง และเส้นทางนั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้ได้เลือกพักผ่อนกันอีกหลายที่เลยทีเดียว หากผู้อ่านอยากออกเดินทางท่องเที่ยวหรือมีเวลาว่างก็อย่าลืมมาสัมผัสบรรยากาศและชมความงาม กับ “วัดพระธาตุชุ่มเมือง” กันได้นะคะ ภาพประกอบบทความโดย ผู้เขียน