ในช่วงที่ทุกคนกังวลกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ปัญหามากมายที่เกิดขึ้นบนโลกล้วนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์และสัตว์ ดังที่ได้เห็นจากข่าวด้านสิ่งแวดล้อม เช่น สถานการณ์ไฟป่าทางภาคเหนือของประเทศไทย ปัญหาการลักลอบป่าไม้ และการแสวงหาประโยชน์จากสัตว์ป่ามีไว้ในครอบครอง ณ เวลานี้ถึงเวลาที่ธรรมชาติได้แสดงผลลัพธ์ออกมาว่า การกระทำของมนุษย์ย่อมก่อให้เกิดผลเสียแก่มนุษย์ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง ด้วยเพราะการอยากได้ประโยชน์จากธรรมชาติโดยไร้ซึ่งอนุรักษ์ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการที่ไม่ยั่งยืนและถ้าหากโลกของเราเกิดเหตุการณ์แบบนี้ตลอดไป สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา คือ มหันตภัยร้ายครั้งรุนแรงที่ทุกคนจะต้องเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่า มาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกันเถอะ อย่ารอให้โอกาสนั้นมาถึงดังสำนวนไทยที่ว่า วัวหายล้อมคอก ทุกคนต่างมีบทบาทและหน้าที่ที่ต้องทำดำเนินไปตามวิถีชีวิตของตนเอง บางครั้งอาจลืมนึกถึงธรรมชาติที่อยู่รอบตัวว่าเขาให้อะไรกับเรา เราใช้อากาศในการหายใจ เราดื่มน้ำเพื่อให้ร่างกายสดชื่น เราบริโภคอาหารจากธรรมชาติเพื่อให้เกิดพลังงาน และเราก็ได้รับประโยชน์จากธรรมชาตินับไม่ถ้วน เพราะธรรมชาติเป็นผู้ให้แต่ไม่เคยเป็นผู้รับ ถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันอนุรักษ์ป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติบนโลกใบนี้ หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว เพียงขอแค่เริ่มต้นจากตัวเองให้มีจิตสำนึกที่ดีในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เข้าใจและเข้าถึงในคุณค่าของธรรมชาติ เช่น ไม่อุดหนุนสินค้าที่จำจากสัตว์ รู้คุณค่าของน้ำดินและป่าไม้ด้วยการไม่ทำลายและใช้อย่างรู้คุณค่าให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด สิ่งที่ได้กล่าวมานี้เกิดขึ้นจากการที่เยาวชนคนหนึ่งได้เข้าป่าศึกษาเรียนรู้ธรรมชาติ จากที่ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วป่าไม้ได้ให้อะไรกับเรา แต่เมื่อได้เดินทางไปที่ดอยอินทนนท์จังหวัดเชียงใหม่ ได้พบกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพ และสัตว์นานาชนิด เสียงเพลงแห่งป่าไม้คอยขับกล่อมให้ทุกสรรพสิ่งดำเนินต่อไปอย่างมีความสุข นี่คือความสุขที่ได้รับจากธรรมชาติ การอาศัยอยู่ภายในป่าที่หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องที่ลำบากและไม่เหมาะที่จะเป็นแผนการท่องเที่ยวที่ทุกคนวาดไว้ในความคิด แต่ถ้าหากลองคิดดูสักนิด ลองห่างจากโลกออนไลน์มาสู่โลกแห่งความเป็นจริง โลกที่เราได้อยู่กับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เราจะได้ยินเสียงจากธรรมชาติได้บอกกับเราว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดระยะเวลา 7 วัน เป็นช่วงเวลาที่ได้พิสูจน์ความหมายแห่งธรรมชาติว่าคืออะไร เดินชมป่าไม้หลายประเภทพร้อมกับดำรงชีวิตในป่า ได้รับความรู้จากผู้พิทักษ์ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในประเทศไทย สิ่งที่ได้รู้ในตอนนั้นคือป่าไม้ไม่ได้รับการดูแลจากมนุษย์เท่าที่ควร จำนวนคนอนุรักษ์น้อยกว่าคนทำลายเป็นเท่าตัว เมื่อได้กลับมาสู่การดำเนินชีวิตที่เป็นปกติ รู้สึกคิดถึงธรรมชาติและหลงรักป่าไม้ทุกครั้ง อยากจะกลับไปหาทุกครั้งเมื่อมีเวลาและอยากจะส่งมอบความรู้สึกดีๆที่มีคุณค่าให้กับผู้อ่านทุกคน หากใครคิดว่าการเข้าป่าเป็นเรื่องที่อันตรายและไม่ใช่ตัวเลือกแห่งการพักผ่อนที่ดี ขอให้ลองให้เปิดใจและเปิดความคิด ธรรมชาติไม่เคยทำร้ายเรา เราต่างหากที่มักจะทำลายธรรมชาติอยู่เสมอ หากมีเวลาอยากจะขอเชิญชวนให้ทุกคนหันมาท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ใช้เวลาว่างกับครอบครัวในการศึกษาสิ่งแวดล้อมในสถานที่ทางธรรมชาติทั่วไปไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติหรือป่าไม้ ความสุขที่ยิ่งใหญ่จะคอยเป็นกำลังใจให้ทุกคนได้ก้าวเดินต่อไปอย่างมีความสุขพร้อมกับธรรมชาติและป่าไม้ที่งดงาม มาร่วมส่วนหนึ่งกับชาว Gen Wild อนุรักษ์ความหลากหลายในป่ากว้างไปพร้อมกัน เครดิตรูปภาพไฟป่าจาก เครดิตรูปภาพประกอบโดยผู้เขียน