ใครหลงเสน่ห์ของสิงสาราสัตว์ ใครหลงรักทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ ใครอยากมากางเต็นท์พักใจ แบกเป้ไปเยือนดอยม่อนจองกัน การเที่ยวชมดอยเชยภูเขาเพื่อมาสัมผัสรับบรรยากาศของธรรมชาติอันแสนงดงามเป็นความสุขอันยิ่งใหญ่สำหรับมนุษย์ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่เมื่อมาถึงในยุคที่มนุษย์เริ่มโหยหาธรรมชาติ (ที่เหลือเพียงน้อยนิดในเมืองใหญ่ที่เจริญเติบโตไปด้วยสิ่งใหม่ ๆ ไม่หยุดหย่อน) อีกครั้งอย่างคลั่งไคล้มากขึ้น เพราะสิ่งที่รายล้อมตนในชีวิตประจำวันแต่ละวันล้วนเป็นวัตถุที่ถูกสรรสร้างด้วยน้ำมือมนุษย์แทบทั้งสิ้น ไม่เว้นเหล่าต้นไม้ดอกไม้ก็ล้วนเป็นของที่ถูกประดิษฐ์โดยมนุษย์เช่นเดียวกัน มนุษย์จึงรู้สึกว่าเริ่มห่างเหินสิ่งที่ทำให้ตนรู้สึกสบายใจ สิ่งที่เคยชินชา แต่ตอนนี้กลับเลือนรางหายไปอย่างเรื่อย ๆ จนน่าใจหาย การเดินทางของมนุษย์สู่ธรรมชาติจึงเกิดเป็นกระแสนิยมอย่างมากสำหรับในยุคปัจจุบัน เพราะธรรมชาติไม่เคยทำร้ายเรา แถมยังเป็นสิ่งที่เยียวยาใจเราในยามที่เราหมดกำลังใจได้ดีอีกด้วย การเดินทางมาที่นี่ดอยม่อนจองสามารถมาได้เฉพาะหน้าหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – 15 กุมภาพันธ์ พอหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะปิดไม่อนุญาตให้ท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมเด็ดขาด เนื่องจากป้องกันอันตรายจากไฟป่า การเที่ยวดอยม่อนจองจะมุ่งเน้นไปที่ธรรมชาติที่สวยสดงดงามเป็นหลัก ดอยม่อนจองมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1929 เมตร มีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ตาค่อนข้างอ่อนแอหน่อย ๆ ฉะนั้นช่วยกันระมัดระวังด้วยนะครับ รวมพื้นที่เหล่านี้ราว ๆ ประมาณ 765,000 ไร่ ซึ่งที่นี่ถือเป็นแหล่งสำคัญในการผลิตกินน้ำส่งต่อไปยังเขื่อนภูมิพลที่อยู่ข้างล่างยอดเขาแห่งนี้ การเริ่มต้นเดินทางดอยม่อนจองจะเริ่มที่จุดหน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอ กม. ที่ 42 เพื่อติดต่อนำทางพร้อมลูกหาบ เพื่อง่ายต่อเดินทางสู่ดอยอันสวยงาม แต่ต้องแลกด้วยเส้นทางที่ทุรกันดานบ้าง แต่การเดินทางไม่ใช่เป็นการเดินทางโดยเท้าเปล่าจนถึงปลายทาง เพราะที่นี่มีรถ 4WD มีไว้บริการด้วย ลดอัตราการเหนื่อยไปเยอะเลย เมื่อไปถึงยอดดอยคุณจะขอบคุณตัวเองที่สามารถยืนอยู่ในจุดที่สุดพิเศษได้ขนาดนี้ วิวเขาสวยกว้างไกล ผืนหญ้าพลิ้วไหวโบกทักทายเรา ยามเช้าชมไอหมอกที่ขาวนวลสสวย ลมเย็นสุดขั้วหัวใจ จิบกาแฟร้อน ๆ อุ่นใจ สุขสบายกายและใจที่สุดเลย ขอบคุณรูปภาพทั้งหมดจากรายการติดเขา (ผลิตโดย true) รูปภาพทั้งหมด