วันสงกรานต์ หรือวันปีใหม่ของคนไทยเรา ที่เราถือว่าเป็นการเถลิงศกใหม่ในแบบโบราณที่เรานับถือสืบเนื่องกันมา เช่นเดียวกับชาวล้านนา หรือชาวเหนือ ที่ถือว่าวันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่เช่นกัน คนเหนือจะเรียกวันติดปากว่า "ประเพณีปี๋ใหม่เมือง" ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน ไปจนถึงวันที่ 15 เมษายน โดยวันที่ 13 เมษายน คนเหนือจะเรียกว่าวันสังขารล่อง (ความหมายของสังขารล่อง คือสิ่งเก่า ๆ ทั้งหลายได้ผ่านพันไป) วันนี้จะพากันทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถูกบ้านเรือนให้สะอาด วันที่ 14 เมษายน คนเหนือเรียกว่าวันเนา วันนี้เขาห้ามพูดในสิ่งที่ไม่ดี จะเป็นอัปมงคลแก่ชีวิตตลอดทั้งปีเลยทีเดียว วันนี้ทุกบ้านจะมีการเตรียมทำข้าวปลาอาหาร ขนมนมเนย เพื่อไปถวายวัดในวันรุ่งขึ้น เย็น ๆ ชาวบ้านจะไปขนทรายเข้าวัดกัน นำไปก่อเป็นเจดีย์ทราย นำทรายไปคืนวัด เพราะในความเชื่อพวกเราจะเชื่อกันว่า เวลาที่เราไปวัดเราก็จะเหยียบเอาเม็ดทรายติดเท้าออกมาด้วย เราต้องเอาทรายไปคืนวัด วันที่ 15 เมษายน คนเหนือเรียกว่าวันพญาวัน ถือเป็นวันเถลิงศกใหม่ เปลี่ยนศักราชใหม่ วันนี้ทุกคน ทุกบ้านจะไปวัดแต่เช้าตรู่ นำข้าวปลาอาหารไปถวายพระที่วัดกัน และนอกจากข้าวปลาอาหารที่นำไปถวายแล้ว ชาวบ้านจะเอา "ตุง" ไปปักที่กองทรายกลางลานวัดด้วย "ตุง" ก็คือธงกระดาษ ที่ตัดเป็นรูปต่าง ๆ ซึ่งจะมีหลาย ๆ แบบแต่ละแบบก็จะมีลักษณะและชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป ซึ่งตุงที่ใช้ในประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรือสงกรานต์ จะใช้กันอยู่ 3 แบบดังนี้ครับ ตุงชนิดแรกคือ ตุงประจำปีเกิด คนเหนือเรียกว่า "ตุงตัวเปิ้ง" ตัวเปิ้งคือรูปสัตว์ 12 ราศี หรือสัตว์ประจำปีเกิดนั่นเอง ซึ่งตัวแรกจะเริ่มที่รูป หนู และสุดท้ายที่รูปช้าง ซึ่งการเรียกปีทั้ง 12 ราศี หรือ 12 นักกษัตร ตามแบบคนล้านนา หรือคนเหนือ เป็นแบบนี้ ปีฉวด (หนู) คนเหนือเรียก ปีไจ้, ปีฉลู (วัว) คนเหนือเรียก ปีเป้า, ปีขาล (เสือ) คนเหนือเรียก ปียี, ปีเถาะ (กระต่าย) คนเหนือเรียก ปีเหม้า, ปีมะโรง (งูใหญ่) คนเหนือเรียก ปีสี, ปีมะเส็ง (งูเล็ก) คนเหนือเรียก ปีไส้, ปีมะเมีย (ม้า) คนเหนือเรียกปีสะง้า, ปีมะแม (แพะ) คนเหนือเรียก ปีเม็ด, ปีวอก (ลิง) คนเหนือเรียก ปีสัน, ปีระกา (ไก่) คนเหนือเรียก ปีเร้า, ปีจอ (หมา) คนเหนือเรียก ปีเส็ด, ปีกุน (ช้าง, หมู) คนเหนือเรียก ปีไก๊ จุดประสงค์ของการถวายตุงปีเกิดก็เพื่อเสริมดวง เสริมบุญบารมีประจำปีเกิดให้ผู้ที่ทำบุญพบแต่สิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิตนั่นเอง ตุงไส้หมู จะเป็นการนำกระดาษว่าวหลากสีมาซ้อนทับกัน และมีวิธีการพับ แล้วก็ตัดตามแบบและลวดลาย พอคลีออกมาก็จะมีลักษณะคล้าย ๆ กับเจดีย์ ตุงไส้หมูชาวล้านนาทำขึ้นมาเพื่อเป็นการบูชาพระธาตุประจำปีเกิดของแต่ละคนนั่นเอง ตุงเทวดา จะตัดคล้าย ๆ กับรูปคน ตุงชนิดนี้จะทำขึ้นมาเพื่อบูชาเทวดาประจำตัว คนล้านนามีความเชื่อว่า แต่ละคนจะมีเทวดาประจำตัว ดังนั้นพอถึงวันสงกรานต์ หรือวันปี๋ใหม่เมือง ก็จะต้องทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ หรือเพื่อขอขมาลาโทษทีได้พลังเผลอทำในสิ่งที่ไม่ดีไม่งามในปีที่ผ่านมาเพื่อให้เทวดาประจำตัวได้ยกโทษให้ และจะได้มาปกปักรักษาคุ้มครองตลอดไป นี่เป็นความหมายของตุงทั้ง 3 แบบมีแสดงถึงจิตวิญญาณของคนล้านนา หรือคนเหนือที่มาที่ไป ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ "ตุง" หรือธงกระดาษที่สวยงามเท่านั้น ปัจจุบันชาวล้านนา หรือคนเหนือยังสืบสานใช้ตุงในการประกอบพิธีการของประเพณีสงกรานต์หรือประเพณีปี๋ใหม่เมืองอยู่เรื่อยมา และคงรักษาประเพณีไว้อย่างเหนียวแน่นสืบต่อยังรุ่นสู่รุ่น เพราะอย่างน้อยวันนี้ ผู้คนที่จากบ้านถิ่นฐานไปทำงานที่อื่นก็จะกลับบ้าน กลับไปหาครอบครัว ญาติพี่น้องที่ไม่ค่อยได้พบปะกัน การมาทำบุญที่วัดก็จะได้พรจากพระ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เพื่อเป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป และช่วงสาย ๆ ก็ถึงเวลาที่ลูกหลานจะนำข้าวของที่ตระเตรียมไปขอพรจากผู้ใหญ่ที่นับถือต่อไป เรื่องราว ตุง จิตวิญญาณของชาวล้านนา โดย Kru_Tong