ปัจจุบัน การออกกำลังกายเป็นที่นิยมมากขึ้น และการวิ่ง ก็เป็นการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด ความนิยมที่มากขึ้น แต่สถานที่ที่ถูกจัดเป็นสนามแข่งขันมีจำกัด ทำให้นักวิ่งหลายคน เกิดความเบื่อที่ต้องวิ่งวนในสถานที่เดิมบ่อยๆ หากคุณอยากได้สนามที่ตื่นเต้นเร้าใจ วันนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ การวิ่งเทรล การวิ่งเทรล จะเป็นการวิ่งที่เน้นใช้เส้นทางธรรมชาติ อาจมีทางถนนบ้าง แต่หลักๆ คือการวิ่งในสภาพภูมิประเทศที่เป็นป่า หรือ ทุ่งหญ้า เทรลเป็นการวิ่งกึ่งผจญภัยที่ต้องใช้ทักษะทั้งทางร่างกายและจิตใจควบคู่กันไป ส่วนที่น่าตื่นเต้นคือ คุณอาจจะเจอสภาพภูมิอากาศที่ไม่ได้คาดคิด ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือ เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าเสมอ คุณอาจเจอฝนตก แดดแรง ลมหนาว วิ่งผ่านน้ำ ขาจมโคลน หินลอย พื้นทราย หลุมที่ต้องกระโดดข้าม กิ่งไม้ที่ต้องคลานลอด หรือเจอความชันของภูเขาในแบบที่ต้องยืนพักหายใจทุกนาที เพราะค่า HR ที่สูงจนแตะเพดาน ถ้าเราวิ่งบนถนน หรือวิ่งทางราบนั้น กล้ามเนื้อชุดเดิมจะถูกใช้ซ้ำๆ แต่สำหรับเทรล กล้ามเนื้อทุกส่วนบนร่างกายจะถูกใช้งาน การฝึกตัวเองเพื่อมาวิ่งเทรล จึงไม่ได้เน้นแค่ส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่ต้องฝึกวนไปจนครบทุกส่วน ดังนั้น คนที่เคยวิ่งทางราบในระยะไกลแบบต่อเนื่องมาก่อน ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถวิ่งเทรลได้ดี เพราะ เทรลไม่ใช่แค่การวิ่ง แต่เป็นการฝึกใช้ชีวิต คุณต้องเริ่มวางแผน เพื่อจะเข้าเส้นชัยให้ได้ตามเวลาที่กำหนด ตั้งแต่แผนสมัครให้ทัน วางแผนฝึกซ้อม ดูพยาการณ์อากาศ เพื่อวางแผนการจัดเตรียมสัมภาระสำหรับดำรงชีพกลางป่า แม้กระทั่งฝึกหรือจัดตารางการเติมพลังงานให้ร่างกาย เหล่านี้ล้วนแต่เป็นการฝึกตัวเองเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ในสนามทางราบที่ทุกคนสับขาทำความเร็ว แต่ในสนามเทรล คุณจะเห็นนักวิ่งเดินขึ้นเนิน แล้วแวะพักถ่ายรูปวิวข้างทาง ดังนั้น หากคุณกำลังโหยหาความตื่นเต้นเร้าใจ อยากได้บรรยากาศใหม่ๆ ลองพาตัวเองมาลงสนามเทรลดูซักครั้ง โดยเลือกระยะสั้นๆ ไม่เกิน 10 km ก่อน เพราะระยะนี้ ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์บังคับ ทางไม่ยาก ความชันไม่สูง แล้วคุณอาจตกหลุมรักการวิ่งเทลโดยไม่รู้ตัว