สวัสดีผู้อ่านทุกท่านค่ะ วันนี้เราจะพาไปเที่ยววันหยุดเดือนสิงหาคม One Day Trip เชียงใหม่ ดูหมอก ชมดอกไม้ ช่วงวันหยุดยาว 12 - 14 สิงหาคม 2565ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ คนส่วนใหญ่ก็คงอยากจะไปสัมผัสบรรยากาศดี ๆ กันบนดอย เราเลยจะพาทุกคนไปแบบได้รับทั้งบรรยากาศดี ๆ ภาพสวย ๆ และอิ่มบุญด้วยค่ะโดยแผนการเดินทางของเราคือ เดินทางมาถึงสนามบินจ.เชียงใหม่ ในช่วงเช้า หาอะไรทานที่สนามบินก่อนเช่ารถแดงแถวประตูท่าแพขึ้นไปดอยปุย ขึ้นไปพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ขึ้นไปไหว้พระที่วัดพระธาตุดอยสุเทพวรวิหาร เดินทางกลับเราจะเริ่มจากการมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ก่อนนะคะ เมื่อมาถึงเราได้ทำการหารถแดงที่จะเหมาขึ้นดอย โดยสามารถหาจองทางออนไลน์ได้ค่ะ แต่เรามาหาเอาที่เชียงใหม่เลย ได้ตกลงราคากับลุงรถแดง โดยเหมาทั้งวัน 1,200 บาท ซึ่งเราหารกับเพื่อน 2 คน คนละ 600 บาท แต่ถ้าใครมากันหลายคนก็จะถูกลงค่ะ คุณลุงแนะนำให้ไปดอยปุยเป็นจุดแรก เนื่องจากไกลสุด แล้วก็มาที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ และมาที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ เป็นสถานที่สุดท้าย ซึ่งทุกที่อยู่ในเส้นทางเดียวกันค่ะมาเริ่มที่ดอยปุยกันก่อนเลยเมื่อมาถึงคุณลุงก็จะจอดรถรอเราอยู่ด้านล่างค่ะ แล้วเราก็ขึ้นไปในบริเวณสวนดอกไม้ ซึ่งเป็นจุดที่ห้ามพลาด! ในช่วงนี้ฝนตก ดอกไม้ก็จะค่อนข้างมีให้เห็นเยอะค่ะ ส่วนระหว่างทางก็จะมีของขาย ร้านอาหาร ที่กลุ่มคนในบริเวณนี้นำมาขายกัน มีทั้งเสื้อผ้า ชุดเด็กดอย กระเป๋า อาหารเหนือ เครื่องดื่มต่าง ๆ รวมไปถึงอัญมณีต่าง ๆด้วย สามารถแวะพักกันได้ตามสะดวกเลยค่ะเมื่อหาอะไรรับประทานเพื่อเพิ่มแรงแล้ว เราก็เดินขึ้นไปยังบริเวณสวนดอกไม้เลยค่ะ โดยราคาเข้าชมอยู่ที่ 10 บาท เนื่องจากเราตั้งใจมาถ่ายภาพโดยเฉพาะเลย บรรยากาศก็ค่อนข้างอึมครึม เนื่องจากมีฝนปรอยลงมาเป็นระยะ ต้องระวังลื่นกันหน่อยนะคะ แต่ภาพที่ได้มาถือว่าใช้ได้เลย นอกจากนี้บรรยากาศที่นี่ก็ดีมาก ๆ เลยค่ะ เย็นสบาย สดชื่น ออกซิเจนเต็มปอด เราชอบที่นี่มาก ๆ จนไม่อยากกลับเลยค่ะ พิกัด อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ถนน ห้วยแก้ว อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200เมื่อเราเที่ยวดอยปุยเป็นที่เรียบร้อย ก็นั่งรถลงมาและมาต่อที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ กันค่ะเมื่อมาถึง ก็มาลงทะเบียนเข้าพื้นที่ จ่ายค่าบัตรเข้าชม ราคา 20 บาท และเข้าไปเที่ยวชมได้เลยค่ะ เนื่องจากที่นี่เป็นตำหนักของเชื้อพระวงศ์ ดังนั้นก็จะมีกฎในการเข้าชมโดยเฉพาะเรื่องการแต่งกายที่เข้มมากค่ะ ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ห้ามใส่กางเกงขาสั้น นุ่งกระโปรงสั้น เสื้อผ้าวาบหวิว เปิดไหล่โชว์เรือนร่าง หากแต่งกายมาเช่นนี้ทางการจะไม่อนุญาตให้เข้าชม แต่ในบริเวณทางเข้าจะมีเสื้อผ้าให้เช่าอยู่นะคะ สามารถเช่าได้เมื่อเราเข้ามาไม่ถึง 3 นาที ฝนก็ตกค่ะ ตกแรงมากด้วย จนเราต้องหลบฝนกับพี่ ๆ ทหารที่ดูแลทางเข้าเกือบชั่วโมงเลย หลังจากฝนตกแล้วเราจึงตัดสินใจที่จะเที่ยวกันแค่พื้นที่ของสวนดอกกุหลาบและสวนดอกไม้ใกล้เคียงค่ะ เพราะเวลามีจำกัด หลังจากฝนหยุดหมอกก็หนามากเลยค่ะ ถือว่าได้ชมหมอกแบบเต็มอิ่มกันเลยทีเดียว หลังจากนั้นเราก็เดินมาที่สวนดอกกุหลาบค่ะ ดอกกุหลาบที่นี่มีหลายพันธุ์มาก มีทั้งดอกเล็กและดอกโต เราผู้คลั่งไคล้ในดอกกุหลาบอยู่แล้วก็ใจบานเลยค่ะ ใช้เวลาถ่ายภาพอยู่แถวนี้ค่อนข้างนานเลย เราว่าสำหรับคนที่ต้องการได้ภาพสวย ๆ โดยมีดอกกุหลาบเป็นพื้นหลัง ที่นี่เป็นจุดสำคัญที่ห้ามพลาดเลย! หลังจากที่เดินถ่ายภาพแถวสวนกุหลาบเสร็จแล้ว เนื่องจากเรายังเหลือเวลาอยู่อีกนิดหน่อย จึงมาหาถ่ายภาพแถวสวนดอกไม้ข้าง ๆ กันค่ะ ตรงนี้ก็จะมีสวนดอกไม้หลากหลายแบบเลย สวย ๆ ทั้งนั้น ถ้าฝนไม่ตกก็จะหาที่ไว้ถ่ายภาพได้เยอะเลยค่ะ แต่พอฝนตกที่นั่งสำหรับถ่ายภาพก็แฉะไปหมดเลย แอบเสียดายนิดนึงพิกัด พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ 1223 ถนน ศรีวิชัย ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200ทริปสุดท้ายของวัน เดินทางมาที่วัดพระธาตุดอยสุเทพวรวิหารค่ะ มาเอาบุญกันสักหน่อย หลังจากอิ่มกับหมอกและดอกไม้แล้ว ตอนนี้บรรยากาศดีขึ้นแล้วค่ะ แดดออกแล้ว ร้อนเลยทีเดียว เราก็ขึ้นรถกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปบนวัด เนื่องจากเดินไม่ไหวค่ะ ราคารกระเช้าไฟฟ้าไปกลับราคา 20 บาท เมื่อมาถึงแล้วเราก็ตรงดิ่งไปไหว้พระก่อนเลยค่ะ บรรยากาศวันนี้คนเยอะมากเลย เราต้องรีบไหว้และรีบออกเลยค่ะ หลังจากไหว้พระเสร็จแล้ว เราก็เดินไปจุดชมวิวของทางวัดค่ะ ซึ่งสามารถชมวิวเมืองเชียงใหม่ได้ไกลมากเลย ตรงนี้บรรยากาศค่อนข้างดีค่ะ ถึงจะมีแดด แต่ลมก็พัดเย็นสบาย และสามารถถ่ายภาพเรากับวิวเมืองเชียงใหม่สวย ๆ ได้ค่ะ พิกัด วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร 9 หมู่ที่ 9 อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200สรุปค่าใช้จ่าย one day tripในครั้งนี้ของเรา- ค่าเครื่องบินไปกลับ ดอนเมือง - เชียงใหม่ 2,560 บาท - ค่าเหมารถแดง 600 บาท (หารกับเพื่อน)- ค่าเข้าชมสวนดอกไม้ดอยปุย 10 บาท- ค่าอาหาร - น้ำดื่ม ระหว่างพักกลางวันที่ดอยปุย 70 บาท- ค่าเข้าชมพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ 20 บาท - ค่ารถกระเช้าไฟฟ้าที่ดอยสุเทพ 20 บาท- ทำบุญ 50 บาท - ค่าน้ำดื่มระหว่างทาง 30 บาท รวมทั้งสิ้น 3,360 บาทแต่ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการเดินทางมา และค่าอาหารการกินของแต่ละบุคคลนะคะ เรานั่งเครื่องบินมา จึงราคาสูงหน่อย เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ one day trip เชียงใหม่ ในช่วงวันหยุดเดือนสิงหาคมของเรา หวังว่าทุกคนจะชอบและลองไปตามแพลนที่เราวางไว้นะคะ ขอให้ทุกคนสนุกกับการเดินทางในช่วงวันหยุดเดือนสิงหาคม และอย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะภาพถ่ายจาก นักเขียน*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565