เนื่องจากเจ้าโควิด-19 ทำให้ผู้คนเริ่มตะหนักถึงปัญหาการขาดแคลนทางอาหาร และด้วยสาเหตุที่การช่วยเหลือทางภาครัฐอาจจะไม่ทั่วถึง จึงแนะการกินแบบใหม่ที่มีชื่อว่า OMAD หรือ 1 มื้อต่อวัน ซึ่งการกินเพียงหนึ่งมื้อต่อวัน ไม่ได้เหมาะสมกับทุกคนนัก แต่อย่างน้อยหากใครสามารถทำได้จะส่งผลดีต่อสุขภาพด้วย แถมยังประหยัดเงินในช่วงวิกฤตแบบนี้ได้ และเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน OMAD คืออะไร? มันคือ Intermittent fasting หรือที่เราเรียกกันว่า IF โดยมีวิธีการกินคือ จะกำหนดช่วงเวลาในการรับประทานอาหาร โดยที่เราไม่ต้องไปสนใจเลยว่าจะกินไปแล้วเท่าใด หรือมานั่งกลุ้มใจว่ากินไปแล้วกี่แคล ดังนั้นใน OMAD เป็นการกำหนดช่วงเวลาคือ 23:1 ไม่กินอะไรเลย 23 ชั่วโมง และกินภายใน 1 ชั่วโมง ต่อวัน (อย่าสลับกันเชียวล๊า เดียวอย่าหาว่าไม่เตือน) ทำไมต้องทำ OMAD ด้วย? หากเราย้อนดูการวิวัฒนาการของบรรพบุรุษเรา เราจะพบว่าจริงๆแล้วเราไม่ได้กิน 3 มื้อต่อวัน ซึ่งเราจะกินอาหารได้ก็ต่อเมื่อไล่ล่าสัตว์มาได้ แล้วใครเป็นคนกำหนดว่าต้องกิน 3 มื้อต่อวัน นั้นสิ!! Anyway อย่าได้สนใจเลยว่าใครกำหนด หากตอนนี้เราทราบธรรมชาติของเราแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะมาบอกเคล็ดลับในการทำ OMAD กัน (เพิ่มเติม คุณเคยลองอดอาหารแล้วรึยัง บางคนชอบที่จะอดมัน ชอบที่จะเจ็บปวด) แต่เราไม่ได้ตั้งใจจะมาตอบสนองneed ของคนซาดิสนะ เพียงแค่ว่า เวลาเราหิวมากๆ กับ อิ่มแล้ว อันไหนทำให้เราทำงานช้ากันแน่ เท่าที่สังเกตตัวเองมาซึงเราคือหนึ่งในคนที่ทำ OMAD พบว่า การไม่ทานข้าวไปทำงาน ทำให้เราทำงานเสร็จไว เนื่องจากเราบอกสมองว่า ถ้าทำงานเสร็จจึงจะได้กิน พอหลังจากได้ทานเรียบร้อย....ใช่ เรียบร้อยจริงๆ ความง่วงเข้ามาแทนทันที่ ความต้องการ ณ ตอนนั้นคือ เตียงหนึ่ง หมอนใบ ประโยชน์ของการทำ OMAD? ปรับระดับการทำงานของ Insulin (อย่าพึ่งหยุดอ่านนะ เดียวค่อยลงรายละเอียดอีกครั้ง) ไขมันถูกนำไปใช้ และแปลงเป็นพลังงานในรูปของ Ketobody จากที่เราทานไม่บ่อยนัก ดังนั้นการเผาผลาญจึงต่ำ ต่ำแล้วดียังไง เปรียบเสมือน โรงงานที่มีการเผาถ่านเอาเชื้อเผลิงหากมีการเผาบ่อยก็จะเกิดการสึกหรอของโรงงานได้ง่ายกว่าโรงงานที่นานๆทีมีการเผาครั้งหนึ่ง ร่างกายจะปรับตัวอัตโนมัติ หากทำไปเรื่อยๆ ดังนั้นความยากอยู่ที่การเริ่มทำมันและไม่หยุดทำมันในช่วง 10 วันแรก(จากประสบการณ์ ใช้เวลาประมาณนี้ ซึงคนอื่นอาจจะน้อยกว่านี้หรือมากกว่านี้ก็ได้) ประสบการณ์ที่เคยได้ทำมาเป็นเวลา 3 เดือน ยอมรับว่าใน 2 อาทิตย์แรกแทบจะบ้าตายมันสั่น ปวดหัว เหมือนคนอยากยา(แต่เราก็ไม่เคยลองยานะ) แต่เรากินน้ำเยอะมากซึ่งพอช่วยได้บ้าง เราจะกำหนดเวลากินอาหาร 1 มื้อคือตอน 17.00 น. แล้วเราจะกินอะไรก็ได้ตามใจปากภายในหนึ่งมือ แต่ขอให้มีผักและเนื้อในมื้อนั้นก็พอ grapfood หรือ foodpanda สามารถช่วยคุณได้และแน่นอนว่ามื้ออาหารคุณจะสั่งเป็น 150 บาท ก็ถือว่าน้อยหากเทียบว่าคุณต้องกินสามมื้อต่อวัน หลังจากได้ทำ น้ำหนังจาก 75 เป็น 63 Kg ช่วงโควิดนี้ จากค่าใช้จ่ายกับอาหาร 8000 บาท/เดือน เหลือ 5000 บาท/เดือน ทุกครั้งที่กินมื้ออาหารเพียงมื้อเดียวของวันนั้น มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขมากๆ ไม่ต้องมานั่งคำนวณแคลให้ปวดหัว กินอะไรก็ได้ กินเท่าไรก็ได้ แต่ภายใน 1 ชั่วโมง 1 มื้อนั้น รู้สึกว่าเวลาชีวิตมากขึ้น ไม่ต้องกังวลว่ากินข้าวแล้ว จะเอาอะไรมาดูระหว่างกินดี ถ้า 3 มื้อ เวลาชีวิตคุณจะหายไป 3 ซม. ตอนนี้มี sixpace แล้วโดยไม่มีอะไรกั้น(ออกกำลังกายแค่วิดพื้น) กระฉับกระเฉงมาก และที่สำคัญ เงินเหลือ เอาไปเข้ากองทุน Easy invest (ไว้จะมาเล่าอีกหัวข้อนะครับ ^^ วิธีทำจะฝึกทำ OMAD อาหารในหนึ่งมื้อจะต้องมีครบทุกอย่างคือ โปรตีน คาร์โบ ไขมัน รวมทั้งแร่ธาตุวิตามินและไฟเบอร์ ซึ่งเน้นผักกับไข่หน่อยนะ (ถ้าจะทานมาม่า จะต้อง full option นะ เช่น ใส่ผักหมูไข่) ให้เวลาทานภายใน 1 ชั่วโมงสำหรับอาหารประเภทเคี้ยวนะ (ระหว่างวัน กินน้ำได้ หรือน้ำผลไม้ ก็พอได้ แรกๆจะกินน้ำหนักหน่อย) โดยส่วนใหญ่ จะนิยมทานหนึ่งมื้อในช่วงเวลา 16.00-18.00 โดยประมาณ ซึ่งแล้วแต่บุคคล เน้นย่้ำอีกครั้ง กินน้ำบ่อยๆ hydration ข้อนี้สำหรับคนกลัวสารอาหารไม่ครบ ก็ทานอาหารเสริมได้ (แต่ช่วงนี้ อาหารเสริมน่าจะเพิ่มค่าใช้จ่าย หากเราต้องประหยัด ก็ไม่จำเป็นก็ได้) อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่สำคัญในร่างกายเราซึ่งเป็นตัวช่วยในการลำเลียงกลูโคสไปยังเซลล์ร่างกาย ร่างกายของเราจะเผาผลาญกลูโคสเป็นเชื้อเพลิงและเพิ่มการสะสมไขมันของเรา ขอขอบคุณภาพจาก หน้าปก : pexels ขอขอบคุณภาพจาก ภาพแรก : pexels ขอขอบคุณภาพจาก ภาพสอง : Pixabay ขอขอบคุณภาพจาก ภาพสาม : ภาพวาดของผู้เขียนเอง