ทุ่งข้าวบาร์เลย์ สีเหลืองอร่ามไกลสุดลูกหูลูกตาที่มีแสงดวงอาทิตย์เริ่มจะลาลับจากขอบฟ้า คงจะเป็นที่หลายๆ คนอยากจะได้เห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต และเราจะได้พบกับทุ่งข้าวสีเหลืองดั่งจินตนาการแห่งความฝัน ซึ่งสถานที่แห่งนี้คือสถานที่หนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา ที่นั่นก็คือทุ่งข้าวบาร์เลย์แห่งอำเภอสะเมิงนั่นเอง ที่นี่คือศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง ตั้งอยู่ที่บ้านปางดะ หมู่ที่ 10 ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นทุ่งข้าวบาร์เลย์ที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักและยังไม่เคยได้มาสัมผัสกับความสวยงามของที่นี่ สำหรับการเดินทาง : มาได้ 2 เส้นทางคือ เส้นทาง 1 : สายเชียงใหม่-แม่ริม-สะเมิง ตามทางหลวง 107 จากแยกไฟแดงเลี้ยวซ้ายเข้าสายแม่ริม-สะเมิง วิ่งผ่านน้ำตกแม่สาและทางขึ้นม่อนแจ่ม เข้าสู่อำเภอสะเมิง จะเจอทางแยกป้อมยามตำรวจปาง เลี้ยวขวาประมาณ 300 เมตรจะเจอ "ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง" จะเห็นทุ่งข้าวอยู่ด้านขวามือช่วงลงเนินก่อนถึงตัวอำเภอ เส้นทาง 2 : สายเชียงใหม่-หางดง ตามทางหลวง 108 (สามารถผ่านเส้นทางถนนเลียบคลองชลประทานได้) เพื่อไปอำเภอสะเมิง ซึ่งการเดินทางประมาณ 40 กิโลเมตร สามารถมาโดยทางรถยนต์ส่วนตัว หรือรถโดยสารสายสีเหลืองสายสะเมิง-เชียงใหม่ สามารถขึ้นรถได้ที่กาดหลวงและที่ช้างเผือก ช่วงที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะเข้าไปเยี่ยมชมได้ ก็คือระหว่างช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์-เดือนมีนาคม ของทุกปี โดยที่นี่จะเริ่มปลูกข้าวบาร์เลย์ประมาณช่วงเดือนมกราคม โดยราวๆ เดือนกุมภาพันธ์-เดือนมีนาคม จะกลายเป็นสีเหลือง สลับสีเขียวสวยงามไปอีกแบบ แล้วจะเริ่มออกรวงเป็นสีเหลืองอร่าม และพร้อมเก็บเกี่ยวกลางเดือนมีนาคม ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง อยู่สังกัดกรมการข้าว เป็นศูนย์ศึกษาวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าว เทคโนโลยีการผลิต การอารักขาการเก็บเกี่ยวผลผลิต ตรวจสอบและรับรองระบบการผลิตข้าวสาลีที่ดีและเหมาะสม อีกทั้งให้บริการวิชาการด้านข้าวสาลี เพื่อการศึกษา วิจัย และพัฒนาพันธุ์ข้าว การแปรรูปข้าว/ข้าวสาลี ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว/ข้าวสาลี ชั้นพันธุ์คัดและพันธุ์หลัก ตรวจสอบและรับรองระบบการผลิตข้าว/ข้าวสาลีที่ดีและเหมาะสม ที่นี่จึงเต็มไปด้วยพันธุ์ข้าวสาลี ข้าวฟ่าง ข้าวบาร์เลย์ ฯลฯ มากมายหลากหลายสายพันธุ์ สามารถมาศึกษาข้อมูลที่นี่ได้ ส่วนความเป็นมาของที่นี่ เรื่องก็มีอยู่ว่า ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2521 ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรัชกาลที่9 โดยมีพระราชประสงค์เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาวไทยภูเขาเผ่าต่างๆ และชาวไทยที่อาศัยอยู่บนพื้นที่สูงที่ประกอบอาชีพการเกษตร โดยอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก กรมป่าไม้ได้ยกพื้นที่ป่าสงวนให้จัดตั้งเป็นสถานีทดลอง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และกรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการในด้านวิจัยข้าว ปรับปรุงพันธุ์ข้าวไร่และธัญพืชเมืองหนาว ต่อมาเมื่อมีกรมการข้าว ในปี พ.ศ. 2549 ก็ได้กลาย “ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง” สำหรับพื้นที่ ของศูนย์วิจัยข้าวสะเมิงมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 308 ไร่ มีความสูงเฉลี่ยจากระดับน้ำทะเลประมาณ 735 – 830 เมตร ที่นี่นอกจากจะเป็นศูนย์วิจัยข้าวแล้ว ยังถือว่าเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบในการถ่ายภาพมาถ่ายรูปเล่น ท่ามกลางทุ่งข้าวบาร์เลย์สีเหลืองอร่าม พร้อมมีอากาศสบายๆ มีลมพัดโชยมา ถือว่าเป็นความสุขเป็นความสุขเล็กๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง หากใครสนใจมาเที่ยว แนะนำให้มาช่วงบ่ายแก่ๆ ถึงเย็น เพราะในเวลานี้เป็นช่วงพระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน จะเป็นแสงแดดอ่อนๆ สาดแสงมากระทบกับต้นข้าว ได้บรรยากาศอบอุ่นละมุน ใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูปบอกเลยว่ามาที่นี่ จะต้องได้รูปภาพที่ทำให้คุณประทับใจแน่นอน สำหรับใครกำลังมีแผนจะไปมาเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ลองใส่โปรแกรมเที่ยวทุ่งข้าวบาร์เลย์สะเมิงเข้าไปในโปรแกรมแล้วมาสัมผัสความสวยงามของทุ่งข้าวสีเหลืองอร่ามดั่งทองด้วยตาตัวเอง ว่าที่สร้างความสุขให้กับคุณได้มากเพียงใด ปิดท้ายด้วย ภาพดวงอาทิตย์กำลังจะลาลับสายตา