ช่วงหน้าหนาวที่ไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ในไทยผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยือนเชียงใหม่เป็นครั้งแรกมา สามวันวันแรกพักในเมืองส่วนวันที่สองแน่นอนว่าต้องไปนอนบนดอยเอาบรรยากาศ ตรงนี้อยากแนะนำคนที่มีแพลนจะไปเที่ยวแบบนี้ว่าถ้าขับรถขึ้นเขาไม่เก่งอย่าเช่ารถขับเองเด็ดขาดค่ะ เข็ดขยาดมาก หาคนในพื้นที่จ้างรถให้ขับขึ้นไปส่งน่าจะดีกว่าในมุมของคนที่ขับรถชำนาญพอสมควรแต่กลัวความสูง การขับรถขึ้นเขาถือว่าไม่ง่ายเลย ฮ่าๆๆบรรยากาศบนดอยหนาวสมใจเลยเชียวค่ะ ม่อนดอยปงไคร้คือสถานที่ๆ ครอบครัวเราเลือกไปพักกัน เจ้าของใจดีมาก ตอนไปถึงอากาศเย็นพอสมควรเลย ยิ่งดึกคือยิ่งหนาว ทั้งๆ ที่ในเมืองตอนไปดอยสุเทพไม่หนาวเลยยังคิดว่ามาถึงที่นี่เราไม่เจออากาศหนาวอย่างที่หวังที่ไหนได้ ตกดึกหนาวจนมือเย็นเท้าเย็นไปหมดแม้แต่เครื่องทำน้ำร้อนยังสู้ความเย็นไม่ได้จนน้ำแทบไม่อุ่นเลยตอนที่อาบ เรานอนค้างที่นั่นหนึ่งคืนและกินหมูกระทะบนดอยกันในตอนหัวค่ำ ชุดละ 500 บาทแต่ให้คุ้มมาก หลังจากตื่นเช้ามาซึมซับบรรยากาศบนดอยสมใจด้วยอุณหภูมิ 13 องศาแล้ว พวกเราก็เตรียมตัวกลับจากที่พัก แน่นอนว่ามีแพลนเที่ยวเช็คอินที่ต่างๆ ต่อจากนั้นหลังจากลงมาจากม่อนดอยปงไคร้เราก็ตระเวนแวะเที่ยวตามทางเพราะทางลงเขาจะมีไร่สตอเบอรี่ รวมทั้งร้านอาหาร และคาเฟ่ตลอดเป็นช่วงๆ ดังนั้นพวกเราจึงแวะซื้อและเก็บสตอเบอรี่กันเล็กน้อยก่อน จากนั้นก็มุ่งขับรถลงไปตามทางเรื่อยๆ และจุดหมายคือคาเฟ่สักแห่งเพื่อแวะดื่มกาแฟและรับประทานอาหารเนื่องจากเป็นช่วงเที่ยงและเริ่มร้อน แต่ก็ใช่ว่าจะแวะได้ทุกที่นะคะ เพราะทริปของเรามีผู้สูงอายุด้วยดังนั้นที่แรกที่คิดจะแวะไปเป็นคาเฟ่ที่มีน้ำตกตามรีวิวท่านอื่นๆ เป็นอันต้องพับเมื่อไปถึงพบว่าต้องเดินลงบันไดไปเพื่อข้ามสะพานแขวนแน่นอนว่าเพราะมีผู้สูงวัยและผู้กลัวความสูงอย่างดิฉัน ดังนั้นจึงพับที่แห่งนี้ไปโดยปริยายเพราะสมาชิกทุกคนไม่สามารถเข้าไปยังคาเฟ่แสนสวยนั้นได้ รวมทั้งร้านอาหารริมน้ำตกที่น่านั่งเหล่านั้นด้วย แต่เราก็ยังมีอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันนั่นคือริมนาราคาเฟ่ ที่อยู่ถัดออกไปหลังจากผิดหวังกับร้านแรกๆ เราก็มุ่งตรงต่อไปเพื่อเข้าไปยังร้านที่เหมาะสมกับสมาชิกของเรา เกือบขับเลยเพราะซอยเข้าค่อนข้างจะไม่สะดุดตาเท่าไหร่แต่เมื่อเข้าไปแล้วที่นี่สะดวกสบายมากเราสามารถจอดรถแล้วเดินเข้าคาเฟ่ได้เลยแม้ทางเข้าจะต้องเดินข้ามสะพานเหล็กสีดำ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคเพราะสะพานไม่ได้สูงแต่อย่างใดบรรยากาศร้านนี้ตกแต่งได้สวยงามร่มรื่นออกแนวๆ สไตล์ยุโรปนิดๆ หลังจากที่เราเดินผ่านสะพานก็จะเจอทางเดินซุ้มต้นไม้อยู่ด้านหน้าเมื่อผ่านตรงนี้ไปจะเจอบ้านสไตล์นอร์ดิกหลังใหญ่ซึ่งตรงนั้นเป็นจุดที่ขายกาแฟและขนมหวานค่ะ พอเดินเข้าไปน้องพนักงานก็จะพาเราไปที่โต๊ะนั่งริมน้ำ ซึ่งบรรยากาศร้านตอนที่ไปนอกจากร่มรื่นมากแล้วยังประดับตกแต่งธีมวันคริสต์มาสอีกด้วยเนื่องจากช่วงที่ผู้เขียนไปเพิ่งผ่านเทศกาลปีใหม่ไปไม่นานนอกจากกาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ และของหวานแล้ว ที่นี่ยังมีอาหารคาวไว้บริการหลากหลายเลยค่ะ ส่วนราคาก็ไม่แพงมากอยู่ที่ xx - 2xx บาท ต่อเมนู ซึ่งเทียบกับบรรยากาศร้านและบริการแล้วถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว อาหารมีให้เลือกหลากหลายเมนูทั้งอาหารจานเดียวและเมนูที่สั่งเป็นกับข้าวสำหรับทานทั้งครอบครัว ทุกเมนูมาแบบจานใหญ่มากๆ สมราคาเลยรสชาติดีใช้ได้ทุกจาน เมนูเด่นของที่นี่ได้ยินว่าเป็นพวกเค้ก เบเกอรี่ที่ขึ้นชื่อมาก ขอไม่คอมเม้นแบบลงลึกเรื่องกาแฟนะคะเพราะเราไม่ใช่คอกาแฟ แต่เท่าที่สั่งมาดื่มสำหรับคนไม่ค่อยชอบดื่มกาแฟเท่าไหร่ถือว่าอร่อยดีค่ะสำหรับเราคือรสชาติไม่หวานไป ซึ่งหลังจากทานของคาวแล้วแน่นอนว่าต้องสั่งของหวานมาลิ้มลอง และเมื่อได้ชิมก็พูดได้คำเดียวว่าสมคำร่ำลือจริงๆ สังเกตว่าหลายเมนูจะถูกประดับด้วยดอกนางพญาเสือโคร่งเพราะเป็นช่วงที่ดอกไม้ชนิดนี้บานพอดีทางร้านจึงนำมาใช้ประดับตกแต่งเพิ่มความสวยงามให้เมนูเครื่องดื่มและเมนูของหวานค่ะ จริงๆ ดอกไม้กินได้นะ แต่เราไม่กล้ากินเอง ^^ ต้องบอกว่าเมนูเค้กที่นี่ค่อนข้างจะโดดเด่นส่วนผสมต่างๆ หอมหวานละมุนใช้วัตถุดิบอย่างดีทุกอย่างรสชาติอร่อยทุกจานจนทานเพลินกันเลยทีเดียวค่ะ เค้กมะพร้าวก็หอมละมุนลิ้น หวานกำลังดี เค้กช็อกโกแลตอันนี้ไม่แน่ใจว่าเมนูที่ร้านเรียกตัวนี้ว่าอะไรแต่อร่อยเข้มข้นหวานหอมกลมกล่อมมากๆ ตัดรสด้วยสตอเบอรี่สดและเบอรี่ที่ตกแต่งมา รูปแบบตัวเค้กก็สวยงามหรูหราน่าเอ็นดู เรียกว่าเมนูของหวานนี่อร่อยสมราคาทุกจาน ส่วนฮันนี่โทสนี่คือจานใหญ่มากกินกันได้ทั้งบ้านผลไม้สดที่ใส่มามาแบบจัดสุดๆ ข้อดีอีกอย่างคือเหมือนร้านรู้ใจว่าจะแบ่งกันชิมนั่นนิดนี่หน่อยดังนั้นแต่ละจานจะเตรียมช้อนมาเผื่อให้เลยพร้อมจานแบ่งสำหรับตัดแบ่งกันทานเองค่ะไฮไลท์อีกอย่างคือน้องหมาประจำร้านที่เดินตัวอ้วนไปมารอบๆ ร้านเป็นที่เอ็นดูของคนรักสุนัขมาก ไม่รู้ว่าน้องอยู่ประจำที่นี่ทุกวันหรือเปล่า คนไม่ชอบก็ไม่ต้องกลัวว่าน้องจะวุ่นวายนะคะค่อนข้างเรียบร้อยเลยทีเดียวน้องอายุมากแล้วไม่ซนเหมือนลูกมาเล็กๆ ค่ะ สอบถามน้องพนักงานบอกว่าชื่อมูมู่ค่ะ เป็นน้องหมาพันธุ์คอร์กี้ก้นดุ๊กดิ๊กที่ขี้อ้อนพอสมควรเลยถ้าใครเล่นด้วย ลูกค้าในร้านหลายคนเอ็นดูนางเวลามีคนเข้ามาน้องจะเดินไปต้อนรับอย่างดี ถ้าผ่านไปแถวแม่ริม หรือแวะเที่ยวแวะพักแถวม่อนดอยปงไคร้ไม่รู้จะแวะทานอาหารที่ไหนแนะนำร้านนี้เลยนะคะ ไม่ผิดหวังแน่นอนบรรยากาศดี พนักงานให้บริการดีมาก ดูเมนูต่างๆ เพิ่มเติมได้จากเพจร้านเลยค่ะมีอีกหลายเมนูมากที่น่าทานเครดิตภาพถ่ายทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียนเพจร้าน ริมนารา คาเฟ่ เชียงใหม่พิกัด https://goo.gl/maps/bbNXqpK47yKzLYmf8ห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป