ในวันที่เชียงใหม่อากาศร้อนจัด ช่วงบ่ายอุณหภูมิมีสูงถึง 40 องศาเซลเซียส การออกไปสัญจรนอกบ้านจึงเป็นเรื่องที่คิดหนักมากๆ เพราะเพียงยื่นแขนออกไปเฉียดไอแดดแค่นิดเดียวก็แสบแล้ว แต่ถ้ารู้สึกเบื่อๆ การจับเจ่าอยู่ในห้องนอนก็ไม่ใช่ไอเดียที่ดีนัก วันนี้จึงออกไปเดินเล่นที่ตลาดในสันกำแพงช่วงเช้าจนบ่ายคล้อยนิดๆ ชักจะเหนื่อย เริ่มจะล้า ร่างกายกระซิบเบาๆว่า ไปหาเครื่องดื่มเย็นๆดื่มกันดีกว่า พลันเกิดความคิดแวบขึ้นมาว่า ไปคาเฟ่นี้สิ สั่งเครื่องดื่มมาทาง Delivery Service แล้ว แต่ยังไม่เคยไปนั่งดื่มที่คาเฟ่จริงๆเลย ว่าแล้วก็บ่ายหน้าไปหา ใจบุญคาเฟ่ ทันที ใจบุญคาเฟ่ (Jaiboon Café) สาขาสันกำแพง ตั้งอยู่บนถนนสันกำแพงสายเก่า (หมายเลข 1006) ถ้าเดินทางมาจากถนนเจริญเมือง เมื่อมาถึงแยกหนองประทีปให้ขับตรงมาเรื่อยๆจนเจอป้ายใจบุญอยู่ทางขวามือ แต่ถ้าหากเดินทางมาจากทางคู่ขนานถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง เมื่อมาถึงแยกหนองประทีปให้เลี้ยวซ้ายและขับตรงมาเรื่อยๆจนเจอป้ายใจบุญอยู่ทางขวามือ (ใจบุญคาเฟ่มีอีกสาขาหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ที่ถนนศรีภูมิด้วยนะ ใกล้ที่ไหน แวะไปได้เลย) สำหรับสาขาสันกำแพง เมื่อเลี้ยวเข้ามาจะเจอกับลานจอดรถกว้างขวางมาก ขอเดาว่าในช่วงก่อน Covid-19 น่าจะมีลูกค้าแวะเวียนมาเช็คอินสั่งเครื่องดื่ม เค้ก และ อาหาร รับประทานกันอยู่เนืองๆ เมื่อลงจากรถ ความประทับใจแรกคือ มองเข้าไปยังบริเวณคาเฟ่ที่ล้อมรอบไปด้วยรั้วต้นไม้เขียวชอุ่ม ก็ทำให้รู้สึกสดชื่นแล้ว เมื่อเดินไปยังทางเข้ายิ่งรู้สึกสบายตา เริ่มตั้งแต่เถาพลูด่างขนาดใหญ่ที่เลื้อยทอดลงมาจากต้นไม้สูง ต้อนรับแขกผู้มาเยือน มีเจลแอลกอฮอล์บริการให้ทำความสะอาดมือก่อนเข้าไปในคาเฟ่ จากทางเดินเข้าไปทางด้านซ้ายจะพบกับสวนอันร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย ที่ปกคลุมและบังแสงแดดไม่ให้แผดเผาลงมายังพื้นล่างมากจนเกินไป ทางคาเฟ่จัดโต๊ะเก้าอี้ไว้จำนวนมากสำหรับลูกค้าไว้นั่งดื่มใต้ร่มไม้และริมน้ำ ผู้เขียนจึงหมายมั่นปั้นมือว่า สั่งเครื่องดื่มแล้วจะต้องออกมานั่งจิบเครื่องดื่มในสวนให้ได้ ทางด้านขวาของทางเดิน คือ ตัวเรือนไม้ของใจบุญคาเฟ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ การตกแต่งภายในของใจบุญคาเฟ่ที่เน้นการใช้ไม้ทั้งตัวเรือนและเฟอร์นิเจอร์ ประกอบกับการจัดแสงจากดวงไฟ และการใช้กระจกใสบางด้านเพื่อรับแสงจากภายนอกทำให้คาเฟ่ดูมีเสน่ห์ ให้ความรู้สึกวินเทจหน่อยๆ อบอุ่น และสบายใจ ยิ่งมีเสียงดนตรีคลอไปกับบรรยากาศ ทำให้ผ่อนคลายสบายอารมณ์ไปพร้อมๆกัน ภายในตัวเรือนคาเฟ่มีสเตชั่นการผลิตและเคาน์เตอร์บาร์สำหรับสั่งและเสิร์ฟกาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ ขนม และ เค้ก ให้กับลูกค้า โดยลูกค้าสามารถดูเมนูทั้งหมดได้บนผนังกระจก เลือกสั่งได้ตามใจชอบ และจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ได้เลย จากนั้นจะรอรับเครื่องดื่มเพื่อเดินไปนั่งดื่มในสวนหรือให้น้องพนักงานไปเสริ์ฟก็ได้เช่นกัน รวมทั้งมีโต๊ะเกาอี้ในตัวเรือนคาเฟ่ด้วย หากลูกค้าอยากนั่งดื่มในตัวเรือนหรือนอกชานของคาเฟ่เพื่อชมวิวสวน ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟและเครื่องดื่มต่างๆ ทั้งหน้าตาและรสชาติ ไข่มุกก็อร่อย เคี้ยวหนึบหนับด้วย รวมทั้งความอร่อยของเค้กใจบุญก็ขึ้นชื่อไม่แพ้กันโดยเฉพาะชีสเค้ก และถ้าหากคุณหิว ลองสั่งสปาเกตตีของที่นี่ดู แล้วจะติดใจ และหากใครเป็นแฟนของทั้งหมดที่ว่ามานี้ คุณคงไม่ผิดหวังแน่ๆ เพราะมีครบ จบในที่เดียว สนนราคากลางๆ เอื้อมถึงได้แน่นอนค่ะ ส่วนตัวผู้เขียนเอง เนื่องจากอิ่มมาจากการรับประทานอาหารมื้อเที่ยงและดื่มกาแฟที่ตลาดมาแล้ว ครั้งนี้จึงเปลี่ยนใจไปสั่งเครื่องดื่มอย่างอื่นดูบ้าง เครื่องดื่มที่เลือกสั่งในวันนี้เป็น “โกโก้เย็นใส่ไข่มุก” ที่เลือกเมนูนี้เพราะยังไม่เคยสั่งจากใจบุญมาก่อน แต่เครื่องดื่มอื่นๆใส่ไข่มุกของใจบุญคาเฟ่นั้น ผู้เขียนเคยได้ชิมมาก่อนแล้วและยังติดใจจนทุกวันนี้ นอกจากนี้ โกโก้ก็ยังเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่ง (ในความเห็นของผู้เขียนเอง) ว่า คาเฟ่นั้น ร้านนั้น จะเด็ดดวงจริงๆหรือไม่ เพราะบางร้านที่เคยสั่งมาดื่มมี ”ความงกโกโก้” ทำให้ขาดอรรถรสและความกลมกล่อมของเครื่องดื่มเมนูนี้ไปอย่างน่าเสียดาย ได้ “โกโก้เย็นใส่ไข่มุก” มาเรียบร้อยแล้ว จึงเดินลงจากเรือนไปหาที่นั่งในสวน ลองจินตนาการถึงการดื่มโกโก้เย็นๆ รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม ไม่หวานมากนัก (ตามที่สั่ง) สลับกับการเคี้ยวไข่มุกเหนียวหนึบหนับจนสาแก่ใจ ในสวนช่วงบ่ายของวันที่อากาศแสนจะร้อนอบอ้าว แล้วส่งเสียงเบาๆว่า อ่าซ!! ด้วยความชื่นใจ ก่อนวางเครื่องดื่มลงบนโต๊ะ เก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋า เอนตัวลงบนพนักพิงเก้าอี้ช้าๆ ทอดสายตามองออกไปยังทิวไม้ใหญ่น้อย ฟังเสียงนก ยินเสียงดนตรีเบาๆแว่วมา ทอดอารมณ์ไปเรื่อยเปื่อย ทั้งหมดนี้เป็นความสุขใจอย่างหนึ่งที่หาได้ไม่ยากจากใจบุญคาเฟ่ในบ่ายวันนี้ ผู้เขียนเองมองว่า ความลงตัวของใจบุญคาเฟ่ไม่ได้มีแค่รสชาติของสินค้าที่ขายให้กับลูกค้าเท่านั้น แต่ความเป็นใจบุญคาเฟ่ทั้งหมดถูกปั้นรวมกันไว้ในสถานที่นี้ รสชาติเพียงอย่างเดียวจะขาดความกลมกล่อมไปเมื่อไม่ได้นั่งดื่มในบรรยากาศนี้ ผู้เขียนเปรียบเทียบกับครั้งที่สั่งเครื่องดื่มจากใจบุญคาเฟ่ไปส่งที่ออฟฟิศ ครั้งนั้นความอร่อยยังไม่สู้ในครั้งนี้ เพราะนั่งดื่มที่ออฟฟิศกับนั่งดื่มในสวนใจบุญ ช่างต่างกันลิบลับ เทียบกันไม่ได้เลย อีกสิ่งหนึ่งที่อยากกล่าวถึง เมื่อไปเยือนคาเฟ่หรือร้านต่างๆ คือ ห้องน้ำห้องท่า บางร้านไม่ให้ความใส่ใจในจุดนี้ โดยเฉพาะเรื่องความสะอาดและความสะดวก ก็ต้องบอกว่าเสียคะแนนนิยมไปเยอะเลยทีเดียว ทั้งๆที่อาหาร เครื่องดื่ม และการบริการดีเยี่ยม แต่ที่นี่ ใจบุญคาเฟ่ ออกแบบห้องน้ำเป็นสไตล์ดิบๆ เท่ๆ และสะอาดมาก มีบริการกระดาษทิชชูให้ใช้ ในห้องน้ำมีชั้นวางของเล็กๆให้ เผื่อถือกระเป๋าหรือถือแก้วเครื่องดื่มไปด้วย จะได้ทำธุระสะดวก และมีพัดลมให้เปิดใช้ได้เผื่อรู้สึกร้อน มีอ่างล้างมือ พร้อมเจลสำหรับล้างมือให้เสร็จสรรพ แสดงถึงความเอาใจใส่ลูกค้าเป็นอย่างดี แต่อย่าเพิ่งเชื่อทั้งหมดที่เขียนมานี้ ถ้าหากคุณมีโอกาสลองมานั่งดื่มกาแฟ จิบชา ตักเค้กเข้าปากในสวนใจบุญคาเฟ่ดู จะได้พิสูจน์ให้รู้ว่าฟินแค่ไหน ใจบุญเปิดให้บริการ ตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็นค่ะ แต่ถ้าไม่สะดวกเดินทาง มีบริการ Delivery ด้วยนะ อย่ารอช้า ใจบุญคาเฟ่ รอคุณอยู่นะคะ ติดตามอัพเดตข้อมูลข่าวสารของใจบุญคาเฟ่ได้ที่ Facebook Fanpage สาขาสันกำแพง และ สาขาถนนศรีภูมิ ภาพถ่ายทั้งหมดในบทความนี้ถ่ายโดยผู้เขียนบทความค่ะ