เข้าสู่หน้าฝนกันแล้ว ถึงแม้ว่าฝนอาจไม่ตกตามฤดูเลย แต่อย่างไรก็เป็นอีกฤดูที่อากาศดีสุด ๆ เหมาะกับการผักผ่อนอยู่ที่บ้าน บางคนอาจจะอ่านหนังสือ บางคนอาจจะฟังเพลง หรือบางคนอาจจะดูหนังหรือซีรีส์ ซึ่งเราก็เป็นอีกคนที่มักจะอยู่บ้านเพื่อดูหนังหรือซีรีส์อยู่บ่อย ๆ และช่องทางการรับชมที่ถือกำลังมาแรงในช่วงนี้คงหนีไม่พ้น Netflix สัญชาติอเมริกาที่เพิ่งเปิดตัวมาไม่นาน แต่ได้รับกระตอบรับดีเกินคาด คนแห่มาสมัครสมาชิกเพื่อดูกันทั้งบ้านทั้งเมือง เพื่อจะไม่ได้เป็นการตกเทรนด์ วันนี้เราก็มี Playlist ซีรีส์และซิตคอมที่น่าดูช่วงหน้าฝนนี้มาฝากทุกคนกันค่ะ บอกก่อนว่าอาจจะเป็นหนังหรือซีรีส์ที่ทุกคนเคยดูแล้วหรืออาจจะยังไม่เคยดู แต่เราจัดให้เป็นหนังหรือซีรีส์ที่เหมาะกับช่วงนี้เอามาก ๆ เลยค่ะ จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย 1.Reply 1988 ✿เรื่องย่อ ★เรื่อง Reply 1988 จะเป็นเรื่องราวครอบครัวเด็ก 5 คนที่ย้อนกลับไปในปี 1988 ได้แก่ ด็อกซอน ดงรยง ซอนอู จองฮวันและแทค โดยพวกเขาอาศัยอยู่ในซอยระแวกเดียวกัน ในแต่ละวันของพวกเขา มีเรื่องราวต่าง ๆ มากมายเกิดขึ้น ความใกล้ชิดและความผูกพันธ์ทำให้เด็กทั้งห้ามีความรู้สึกที่ดีต่อกัน โดยด็อกซอนเมื่อถูกเพื่อนชี้แนะว่าซอนอูนั้นแอบชอบ ก็มองซอนอูเปลี่ยนไป จากเพื่อนเป็นผู้ชายคนหนึ่งแล้วแอบชอบซะงั้น ส่วนจองฮวันก็เกิดแอบชอบด็อกซอนขึ้นมาเหมือนกัน โดยความใกล้ชิดที่ไม่รู้เกิดขึ้นตอนไหน แม้จะปากแข็งแต่ก็แอบยิ้มทุกครั้งที่รูัสึกดีกับเธอ แต่ไม่ได้มีแค่จองฮวันเท่านั้นที่มีใจให้ด็อกซอน แทคหนุ่มขี้อายคนนี้ก็เหมือนจะมีใจให้ให้ด็อกซอนเช่นกัน โดยเมื่อวันหิมะแรกของเกาหลีเขาได้ชวนด็อกซอนไปดูหนังด้วย นอกจากความรักแบบวัยรุ่นของเด็กทั้งห้าแล้ว ความสัมพันธ์แบบฉันท์มิตรเพื่อนบ้านก็มีให้ปวดหัวอยู่ทุกวัน ในแต่ละวันมีเรื่องให้พวกเขาแก้ปัญหาและหาทางออกอยู่เสมอ ๆ ซึ่งแต่ละตอนก็จะแฝงข้อคิดและเรื่องราวดีดีให้เรากลับไปคิดอีกด้วย เรื่องราวต่าง ๆ ของพวกเขาจะมีตอนจบเป็นอย่างไรต้องไปติดตามชมกันให้ได้นะคะ ข้อมูลตัวละคร ★ด็อกซอน รับบทโดย ฮเยริ สาวน้อยอารมณ์ดี เด็กผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม เป็นเด็กที่ยากจนที่สุดจึงอาศัยอยู่ชั้นล่างของบ้านจองฮวัน มีพี่สาวจอมโหดที่เรียนมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งในเกาหลีและน้องชายที่มีรูปร่างหน้าตาเกินอายุ ในเรื่องเธอแอบชอบซอนอูและเข้าใจผิดว่าซอนอูก็ชอบเธอเหมือนกัน แต่ก็มีคนแอบมีใจให้เธออยู่เหมือนกันนะดงรยง รับบทโดย อีดงฮวี เป็นเด็กที่ครอบครัวรวยที่สุด พ่อของเขาเป็นอาจารย์ใหญ่ในโรงเรียน ใส่แว่นอยู่ตลอด มีนิสัยติดการ์ตูน ไม่ชอบตั้งใจเรียนเท่าไหร่ เมื่ออยู่กับเพื่อน ๆ จะเป็นคนที่ชอบตดใส่เพื่อน ๆ อยู่บ่อย ๆ ( กลิ่นแรงด้วยนะ >< ) และมักจะสร้างเสียงฮาในกลุ่มมากที่สุดอีกด้วย ซอนอู รับบทโดย โกคยองพโย เป็นเด็กที่เรียนเก่งที่สุดในกลุ่มและดูปกติสุดในกลุ่ม มีนิสัยอบอุ่น สุขุมเอามาก ๆ มีน้องสาวตัวน้อยแสนน่ารักชื่อจินจู ในเรื่องเขาได้แอบชอบพี่สาวของด็อกซอน ที่ทำเอาด็อกซอนเข้าใจผิดว่าชอบตัวเองอยู่พักหนึ่ง จองฮวัน รับบทโดย รยูจุนยอล หนุ่มตาตี๋ที่มีพี่ชายสอบไม่ติดมหาวิทยาลัยมาหลายปีซ้อน บ้านถูกรางวัลที่ 1 จนรวยขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์ และเมื่อเขารู้ตัวเองว่าชอบด็อกซอน ก็เก็บความรู้สึกไว้ไม่ยอมบอกไป แต่ก็แอบเป็นห่วงอยู่ใกล้ ๆ เสมอแทค รับบทโดย พัคโบกอม เด็กชายที่มีความสามารถพิเศษในเรื่องหมากล้อม โดยเขากวาดรางวัลชนะเลิศมากมายจากการแข่งหมากล้อม อาศัยอยู่กับพ่อสองคน เพราะแม่ของเขาได้จากไปเมื่อตอนเขายังเด็ก เขาค่อนข้างเก็บตัวและไม่ค่อยพูด เป็นคนสุดท้ายที่เข้ามาอยู่ในกลุ่มเพราะเขาพึ่งย้ายเข้ามาหลังแม่เสีย เขาเป็นคนโชคดีที่ได้รับกำลังใจดี ๆ จากเพื่อน ๆ เสมอ รีวิวจากนักเขียน ★Reply 1988 เป็นซีรีส์ในดวงใจอีกเรื่องที่ทำเอาน้ำตาแตกได้เกือบทุกตอน การดำเนินเรื่อง ในทุก ๆ ตอนนั้นจะสอดแทรกข้อคิดและเรื่องราวดีดีต่าง ๆ เอาไว้ให้เรากลับไปคิด ไม่ว่าจะเรื่องครอบครัว ความรักวัยรุ่น ความสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อน มีฉากน้ำตานองที่ตราตรึงอยู่ในใจผู้เขียนเสมอคือ ฉากที่พ่อด็อกซอนซื้อเค้กมาเซอร์ไพรส์เพราะไม่เคยเคยซื้อให้ด็อกซอนเลย ต้องอาศัยเค้กพี่สาวอยู่ตลอด เป็นฉากที่ทำให้ทั้งสองปรับความเข้าใจกันและเข้าใจกันมากขึ้น อีกฉากก็คือฉากที่แทคแข่งหมากล้อมแพ้กลับมา แต่เพื่อน ๆ ก็มาหาแทคทั้งที่ไม่ได้นัดกันเลยและทุกคนก็ปลอบใจแทคและทำให้แทคยิ้มได้ ทำเอาน้ำตาไหลแบบไม่ทันตั้งตัวเลย ซาบซึ้งกินใจมาก ๆ ถือว่าการดำเนินเรื่องราบรื่นดีมาก ไม่ติดขัด ลำดับเหตุการณ์ได้ดี ทำให้คนดูเข้าใจสิ่งที่ตัวละครต้องการจะสื่อได้ง่าย บทของแต่ละคนก็จัดมาได้เหมาะสม เข้ากับนักแสดงแต่ละคน ทำให้ทุกคนแสดงออกมาได้สมจริงและเป็นธรรมชาติ ในเรื่องของฉากและการถ่ายทำ ทางผู้กำกับเลือกสถานที่ถ่ายทำได้เข้ากับโทนของซีรีส์ สถานที่ทุกที่ให้ความรู้สึกนึกถึงยุค 80 ไม่ว่าจะเป็นบ้าน เครื่องมือสื่อสาร อุปกรณ์ต่าง ๆ หรืออาหารการกิน ส่วนการจัดการเรื่องคอสตูมก็ทำได้ดีมาก ๆ เช่นกัน การแต่งกายของตัวละคนแต่ละคนเป็นคนละสไตล์ ให้ลุคที่แตกต่างกันตามอุปนิสัยและสื่อถึงยุค 80 ได้ดี โดยรวมแล้วนักเขียนให้คะแนนเรื่องนี้ 10 / 10 ครบรสทุกองค์ประกอบเลยค่ะ สรุป ★ซีรีส์ Reply 1988 เป็นซีรีส์ที่ควรค่าแก่การรับชมมาก ๆ อีกเรื่อง ด้วยความที่ซีรีส์เป็นซีรีส์ที่อบอุ่น นอกจากเราจะได้ความเพลิดเพลิน ความสนุกสนาน ยิ้มตามแล้วเรายังได้รับข้อคิดดีดีกลับไป ทำให้หัวใจพองโตและมีความสุขแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จึงเป็นเรื่องที่ผู้เขียนอยากจะแนะนำทุกคนให้ไปรับชมกันในฤดูฝนนี้ค่ะ เหมาะกับช่วงเวลาว่าง ๆ จากการทำงานหรือว่างจากภารกิจต่าง ๆ สามารถดูได้ทุกเพศ ทุกวัยในบ้าน รับรองทุกคนจะได้รับช่วงเวลาดีดีกลับไปแน่นอน Reply 1988 สามารถรับชมทาง Netflix ผ่านกล่อง True ID ได้นะคะทุกคน อย่าลืมไปติดตามกันนะคะ 2. Friends ✿เรื่องย่อ ★Friends เป็นละครซิตคอมสัญชาติอเมริกันที่สร้างโดยเดวิด เครน และมาร์ทา คอฟฟ์แมน บอกเลยว่าเป็นซิตคอมที่ทำเราฮาจนน้ำตาเล็ดเลยก็ว่าได้ โดยเนื้อเรื่องจะสื่อถึงชีวิตในประจำวันของเหล่าแก๊งเพื่อน 6 คน คือ เรเชล กรีน, มอนิก้า เกลเลอร์, ฟีบี บุฟเฟย์, โจอี ทริบเบียนี, แชนด์เลอร์ บิงและ รอสส์ เกลเลอร์ ซึ่งทั้งห้าอาศัยในอะพาร์ตเมนต์เดียวกันที่ย่านเวสต์วิลเลจ ยกเว้นรอสส์ที่อาศัยอยู่คนเดียว รอสส์และมอนิก้าเป็นพี่น้องกัน ในห้องห้องมอนิก้ามีฟีบีและเรเชลที่พึ่งย้ายมาอยู่ด้วยหลังหนีงานแต่งงานมา แต่ภายหลังฟีบีก็ย้ายออกไปอยู่กะแฟนใหม่และแชนด์เลอร์ก็ย้ายเข้ามาอยู่แทนหลังจากแต่งงานกับมอนิก้า เรเชลได้ย้ายไปอยู่กับโจอี ส่วนรอสส์นั้นอยู่คนเดียว ทั้งหกคนนั้นอยู่ในวัยทำงานและมีการงานที่ค่อนข้างมั่นคง มีความรู้ติดตัว ยกเว้นฟีบีที่มีเรื่องราวติดตัวทำให้เปลี่ยนงานอยู่บ่อย ๆ ซึ่งเรื่องราวของพวกเขาก็ดูว้าวุ่นอยู่ทุกวัน ในแต่ละวันจะมีเรื่องให้ปวดหัวอยู่ตลอด เช่น เรื่องวุ่น ๆ เมื่อฟีบีแต่งงาน เมื่อรอสส์มีแฟนใหม่ เมื่อจัดงานวันขอบคุณพระเจ้าช้าไป เป็นต้น แต่พวกเขาก็สามารถผ่านไปได้ และพวกเขามักจะไปรวมตัวกันเพื่อแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ ที่ร้านกาแฟเซนทรัลเพิร์กในย่านแมนฮัตตัน เนื้อเรื่องส่วนมากจะเน้นตลกเสียมากกว่า เน้นเหตุการณ์ที่เรียกเสียงฮาได้ดีจากผู้ชม แต่ก็สอดแทรกเรื่องราวความรัก มิตรภาพ ระหว่างเพื่อนที่แน่นแฟ้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ใครที่ชอบสไตล์คอมเมดี้ ต้องเรื่องนี้เลยค่ะ สามารถติดตามเรื่องราวฮา ๆ พวกเขาไปได้ตลอดถึง 10 Season เลยข้อมูลตัวละคร ★เจนนิเฟอร์ อนิสตัน รับบทเป็น เรเชล กรีน หญิงโสดที่สวยที่สุดในแก๊ง มีโอกาสเจอหนุ่มทีไร เธอมักจะได้มาควงอยู่ตลอด ๆ แต่ลึก ๆ แล้วเรเชลนั้นก็แพ้ในความสัมพันธ์แบบเพื่อน เธอมักจะตกหลุมรักกับเพื่อนในแก๊งตัวเองอย่างรอสส์และโจอี้ (ในช่วงเวลาที่ต่างกันนะ) เธอทำงานในห้างสรรพสินค้าชื่อดังและอาศัยอยู่กับโจอี้คอร์ตนีย์ คอกซ์ รับบทเป็น มอนิก้า เกลเลอร์ หญิงที่อายุมากสุดในแก๊ง คอยจัดการเรื่องอาหารการกินของเพื่อน ๆ เธอทำอาหารเก่งสุดในหมู่เพื่อน ๆ และมักจะจู้จี้ในเรื่องความสะอาดของบ้านอยู่เป็นประจำ ( ใครได้เป็นแฟนต้องรับเรื่องนี้ให้ได้ ) เธอทำงานเป็นเชฟในร้านอาหารและพึ่งได้แต่งงานกับแชนด์เลอร์ได้ไม่นาน ลิซา คูโดรว์ รับบทเป็น ฟีบี บุฟเฟย์ หญิงสาวที่รักในการเล่นกีตาร์และร้องเพลงที่แต่งเอง แต่เสียงของเธอนั้นเพี้ยนเอามาก ๆ และที่สำคัญนั้นเธอเคยเป็นคนเดินข้างถนนมาก่อนด้วย แต่ในปัจจุบันเธอได้เป็นหมอนวดในโรงพยาบาล ที่ระดับการงานดีขึ้นมากทีเดียวแมตต์ เลอบลังค์ รับบทเป็น โจอี ทริบเบียนี นักแสดงตกอับที่เคยแสดงบทหมอเดรก รามอเรย์ ในละคร ' เดส์ออฟอาวร์ไลฟส์ ' แต่เขาก็มีความพยายามที่อยากโลดแล่นในวงการบันเทิงมากขึ้นและมักจะมีแฟนสาวที่คบกันสั้น ๆ หลายคนด้วยแมตธิว เพร์รี รับบทเป็น แชนด์เลอร์ บิง ผู้บริหารด้านการวิเคราะห์สถิติและข้อมูลที่ทำงานให้บริษัทหนึ่ง เขามักจะบอกอยู่เสมอว่าไม่ชอบอาชีพนี้และอยากจะลาออกอยู่บ่อยครั้ง เขาแต่งงานกับมอนิก้าจึงย้ายมาอยู่ด้วยกันและวางแผนเรื่องการมีลูกในอนาคตไว้แล้วด้วย เดวิด ชวิมเมอร์ รับบทเป็น รอสส์ เกลเลอร์ น้องชายของมอนิก้าที่ตอนนี้เป็นพ่อหม้ายเต็มตัว หลังอดีตแฟนของเขาพบรักกับเพศเดียวกัน โดยเขามีลูกด้วยกันหนึ่งคนชื่อว่า เบน เกลเลอร์ ( น่ารักมาก ๆ เลย >< ) เขาเป็นอาจารย์ด้านบรรพชีวินวิทยาที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เป็นคนเดียวที่เชิดหน้าชูตาในหมู่แก๊งเลยก็ว่าได้ รีวิวจากนักเขียน ★เป็นซิตคอมที่น่าดูอีกเรื่องและเก็บไว้ใน Playlist ตลอดเลยสำหรับ Friends เรื่องนี้ถ่าดทอดความสนุกและเรียกเสียงฮาได้แทบทุกฉาก บอกไม่ได้เลยว่าฉากไหนน่าดูที่สุด เพราะน่าดูไปหมดทุกฉาก เรื่องนี้มีการดำเนินเรื่องที่เป็นไปได้เร็ว ไม่เอื่อย ทำให้ทุกเหตุการณ์ในเรื่องจบเร็วในหนึ่งตอนที่มีเพียง 30 นาที มีแค่บางเหตุการณ์ที่พ่วงไป 2 - 3 ตอน ส่วนตัวประทับใจเรื่องบทหรือคาแรกเตอร์ของแต่ละตัวละครมาก ๆ ตัวละครแต่ละตัวมีความโดดเด่นเท่า ๆ กัน ในคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันไป ผู้กำกับเลือกบทได้ตรงและสมบทบาท เสมือนพวกเขาเป็นคนคนนั้นจริง ๆ และถ่ายทอดความเป็น 90 ได้ออกมาดีทีเดียว ในเรื่องของฉากและการถ่ายทำถือเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะร้านกาแฟเซนทรัลเพิร์กและห้องพักของมอนิก้าที่ย่านเวสต์วิลเลจที่ใช้ถ่ายทำในทุก ๆ ฉากล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่แห่งความทรงจำและมีความหมายสำหรับเรื่องนี้มาก ๆ ให้ความเป็นยุค 90 ที่สมจริงสุด ๆ ถือว่าผู้กำกับเลือกโลเคชั่นได้ดีทีเดียว ส่วนในเรื่องคอสตูมเป็นอีกเรื่องที่ประทับใจ ด้วยความที่มีการเปลี่ยนเสื้อผ้าแทบทุกฉากทำให้เสื้อผ้ามีความหลายหลายสไตล์ เลือกดูได้แบบไม่ซ้ำ ใครที่ชอบแต่งกายแบบยุค 90 ต้องดูเลยค่ะ รับรองเลือกเสื้อผ้าได้แบบไม่ซ้ำใครแน่นอน เรื่องนี้รับหัวใจเราไปเต็ม ๆ เอาไปเลย 10 / 10 ค่ะ สรุป ★ด้วยความสัมพันธ์ของแก๊งเพื่อนทั้ง 6 คนทำให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี แต่พวกเขาก็จับมือกันก้าวผ่านมาได้และมอบเสียงหัวเราะให้ผู้ชมทุกคนจนอิ่มอกอิ่มใจกันถ้วนหน้า ถือว่านักแสดงทั้ง 6 คนทำได้ดีมาก ๆ คู่ควรแก่การรับชมเป็นที่สุดค่ะ ทั้ง 10 Season หลังจบการถ่ายทำแล้ว พวกเขาคงกลายเป็นครอบครัวครอบครัวหนึ่งที่รักกันมาก ๆ แน่เลยเนาะ ทุกคนคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง เรื่องนี้น่าดูไหมคะ ? ให้ Friends เป็นซีรีส์ที่อยู่เป็นเพื่อนคุณช่วงฤดูฝนนี้นะคะ แม้เสียงฝนจะทำเราเศร้าแค่ไหนแต่เสียงของพวกเขาทั้งหกคงทำให้เรายิ้มได้แน่นอน ถ้าทุกคนมีเวลาว่างล่ะก็ตามไปดูที่ Netflix ผ่านกล่อง True ID กันได้ มีครบทั้ง 10 Season เลย หากดูคนเดียวไม่จุใจ สามารถชวนเพื่อน แฟนหรือคนในครอบครัวมาดูด้วยกันเลยนะคะ แบ่งปันความสุขให้ผู้อื่นกันค่ะ 3. Mad For Each Other ✿เรื่องย่อ ★หนังรักคอมเมดี้ จาก Kakao TV แม้ต้นเรื่องจะไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ แต่เมื่อไปดูหลาย ๆ อีพีแล้วรู้สึกว่าเรื่องนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะ อยากจะแนะนำให้ทุกคนดูช่วงหน้าฝนปรอย ๆ นี้ เนื้อเรื่องจะถ่ายทอดให้เห็นถึงความรักของโนฮวีโอและอีมินคยอง ที่ทั้งคู่ไปพบจิตแพทย์เพื่อรักษาปัญหาเรื่องอารมณ์ โดยโนฮวีโอมีปัญหาด้านรมณ์ที่รุนแรง ระเบิดอารมณ์ชั่วคราวและควบคุมตัวเองไม่ได้ ส่วนอีมินคยองมีปัญหาในเรื่องการคิดไปเอง ไม่เชื่อใจใครและย้ำคิดย้ำทำ ซึ่งทั้งสองก็มีเรื่องบังเอิญที่ต้องเจอกันอยู่ตลอด ๆ โดยทั้งสองก็ได้เจอกันที่โรงพยาบาลนี้ แถมยังเป็นเพื่อนหอพักที่ห้องอยู่ติดกันอีกด้วย แล้วแบบนี้จะห้ามไม่ให้เจอกันได้ไงใช่ไหมคะ เมื่อสองคนเจอกันครั้งแรกก็เกิดเรื่องเลย ไม่ว่าจะเรื่องหมาที่อีมินคยองเก็บมาเลี้ยง เรื่องที่คิดไปเองว่ามีคนตามหลังบ้าง เป็นต้น ด้วยบุคลิกที่แตกต่างของโนฮวีโอ จึงถูกอีมินคยองมองว่าแปลก เป็นโรคจิตบ้าง เป็นโจรบ้าง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ ขึ้น กลับเป็นโนฮวีโอที่เข้ามาช่วยอีมินคยองอยู่เสมอ เมื่อเวลาผ่านไป อีมินคยองก็มองโฮวีโอต่างออกไป จนเกิดเป็นความรักขึ้นมา แต่ความรักครั้งนี้ก็มีอุปสรรคอยู่เช่นกัน ด้วยเรื่องป่วน ๆ ของสมาคมแม่บ้านแห่งหอพักที่พวกเขาอาศัยอยู่หรือจะเรื่องของซูฮยอนและซังยอบที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ด้วยอนุภาพของความรักนี่แหละค่ะทำให้คนที่มีปัญหาด้านอารมณ์ทั้งสองดีขึ้นละหายในที่สุด เรื่องราวความรักของทั้งคู่จะเป็นเช่นไร สมหวังหรือไม่ ลองไปติดตามกันนะคะ ข้อมูลตัวละคร ★จองอู รับบทเป็น โนฮวีโอ นักสืบสายอาชญากรรมที่โดนพักงานเนื่องจากระงับอารมณ์ไม่ได้แล้วทำให้เพื่อนร่วมงานได้รับบาดเจ็บ เป็นอีกคนที่โชคร้ายไม่แพ้นางเอก เพราะพบแต่เรื่องน่าปวดหัวและทำให้หัวร้อนอยู่บ่อย ๆ ( จะขำหรือสงสารดี >< ) แต่ได้มาเจอนางเอกบ่อย ๆ ก็ไม่ปวดหัวแล้วล่ะค่ะ โอยอนซอ รับบทเป็น อีมินคยอง สาวสวยหน้าตาดี หน้าที่การงานก็ดี แต่สุดท้ายก็ต้องออกเพราะว่าถูกมองเป็นมือที่สามจนทำงานไม่ได้และเข้ารับการรักษาโรคไม่เชื่อใจใคร ภายนอกอาจจะดูเหมือนคนบ้า แต่จริง ๆ แล้วเธอเพียงแค่กำลังรักษาบาดแผลภายใจจิตใจของเธอแค่นั้นเอง ( แอบสงสัยพระเอกรึเปล่าที่มารักษาให้ ^^' ) เธอพักอยู่ห้องข้างโนฮวีโอคือ 506 อีซูฮยอน รับบทเป็น ซูฮยอน สาวน้อยพาร์ทไทม์ที่ทำงานแทบจะทุกงานในเขตฮงจินและที่เห็นอยู่เป็นประจำคือในร้านสะดวกซื้อที่โนฮวีโอและอีมินคยองไปบ่อย ๆ จนได้รู้จักกันมากขึ้น เธอมีความฝันที่อยากเข้ารับราชการแต่ด้วยความที่เธอมีความสามารถด้านการร้องเพลงและมีเสียงที่ไพเราะเอามาก ๆ จึงทำให้ยกเลิกความฝันการสอบราชการไป เธอมาสร้างสีสันให้กับเรื่องนี้ไม่น้อยเลยล่ะ อันอูยอน รับบทเป็น ซังยอบ เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมเมอร์อัจฉริยะคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เขามีความสามารถด้านการแต่งตัวและแต่งหน้า มีบุคลิกที่ลึกลับชอบแต่งหญิงไปเที่ยวกลางคืนและเขานั่นเองที่เป็นคนทำให้ซูฮยอนแจ้งเกิดในการเป็นนักร้องชื่อดัง รีวิวจากนักเขียน ★ส่วนตัวติดตามผลงานของ จองอู มาบ้างแล้ว ชื่นชมผลงานการแสดงเขามาก ๆ พอได้มาดูเรื่องนี้ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ผิดหวังเลยค่ะ Mad For Each Other เป็นอีกเรื่องที่น่าประทับใจในเรื่องการดำเนินเรื่อง มีการเริ่มความสัมพันธ์ของพระนางจากการมีปัญหาทางอารมณ์เหมือนกัน แล้วต้องมาปะทะกันในสถานการณ์ต่าง ๆ ทำให้เรามาลุ้นมาพระนางจะลงเอยแบบไหน บางช่วงบางตอนอาจจะมีฉากที่ทำให้คนดูหัวเสียตามไปด้วยอย่างตอนที่นางเองขอให้พระเอกเป็นคู่ซ้อมตีเข่า นางเอกขอร้องจนน่ารำคาญเลยล่ะ มีการเพิ่มสีสันของเรื่องที่แม้ตัวละครจะน้อยแต่ก็มีเนื้อหาที่น่าติดตามมากขึ้นจากน้องหมาที่มาร่วมฉาก ซูฮยอน ซังยอบ สมาคมแม่บ้านแห่งหอพักและคดียาเสพติดของนายยัง แต่โดยรวมแล้วการดำเนินเรื่องก็ไม่ลึกลับมากเท่าไหร่ อาจสอดแทรกเหตุการณ์สะท้อนสังคมไปด้วยในซีรีส์ซึ่งถือว่าดีมาก ๆ ในเรื่องของฉากและการถ่ายทำถือว่าอยู่ในระดับดี สมจริง หอพักของพระนางดูไม่หรูจนเวอร์ไปเหมือนซีรีส์เกาหลีทั่วไป ส่วนฉากอื่น ๆ ก็เหมือนซีรีส์ทั่วไปที่เห็นกันบ่อย ๆ ไม่ค่อยแปลกใหม่เท่าไหร่ แต่ทางผู้กำกับคงไม่ได้เน้นสถานที่อยู่แล้วเน้นนักแสดงมากกว่าค่ะ ด้าน Mood Tone สื่อถึงคนเกาหลีที่ใช้ชีวิตในหอพักและโทนจะไปในทางชีวิตทั่วไปของคนเกาหลีเป็นส่วนใหญ่ ส่วนเรื่องคอสตูมถืออยู่ในระดับดีเช่นกัน การแต่งกายของนักแสดงดูเข้ากับสถานการณ์ ประทับใจการเลือกชุดให้ซังยอบแต่งหญิง เลือกได้เข้ากับผู้ชายที่ชอบการแต่งหญิงมาก ๆ ปรบมือค่ะ โดยรวมแล้วเรื่องนี้ขอให้ไป 9 / 10 ล่ะกันค่ะ สรุป ★เรื่องนี้บอกเลยว่าเข้ากับช่วงหน้าฝนเอามาก ๆ ภายในเรื่องมีฉากที่ฝนตกอยู่หลายฉากเลย ทำให้ซีรีส์มีโทนที่เข้ากับหน้าฝนอย่างช่วงนี้ บวกกับเนื้อหาของซีรีส์ที่สอดแทรกเรื่องราวสะท้อนสังคมเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้น่าติดตาม ถึงแม้บางฉากจะทำให้ปวดหัวตามพระนาง แต่ก็มีฉากที่เรียกเสียงฮาได้อยู่เหมือนกันนะคะ เป็นซีรีส์ที่น่าติดตามลุ้นความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวที่มีปมปัญหาเหมือนกัน แต่ละตอนดำเนินเรื่องให้เราอยากรู้ว่าตอนต่อไปจะมีอะไรต่อ เหมาะมากที่จะดูและลุ้นคนเดียวอยู่ที่บ้าน อย่างไรก็ตามอยากให้ทุกคนลองรับชมซีรีส์เนื้อหาแปลกใหม่เรื่องนี้กันสักครั้งนะคะ รับรองไม่เสียเวลาได้อะไรกลับไปแน่นอน4. So Not Worth It ✿เรื่องย่อ ★So Not Worth It เป็นซิตคอมสไตล์วัยรุ่น เกี่ยวกับนักศึกษาหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งคนไทย เกาหลี ออสเตรเลีย อเมริกา สวีเดนและโตเบโก ในมหาวิทยาลัยนานาชาติแดฮัน โดยแต่ละคนก็มีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป เรื่องเริ่มต้นจากการที่ แซม เซวาน เจมี่ มินนี คาร์สัน ฮยอนมิน เทริส และ ฮันส์ได้มาเจอกันในหอพักแห่งมหาวิทยาลัยแดฮันนี้ พวกเขาต่างพบเจอปัญหาต่าง ๆ มากมายตั้งแต่การอยู่ในหอพักของฮยอนมิน ปัญหาของหายของคาร์สัน ปัญหาเรื่องเงินของเซวานหรือจะปัญหาเรื่องครอบครัวของเจมี่ เป็นต้น โดยแต่ละคนก็เหมือนจะมีปมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตัวเอง เมื่อมาอยู่ด้วยกันจึงเกิดเรื่องวุ่น ๆ ขึ้น ซึ่งในแต่ละวันเขาก็ได้มาร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยกัน สร้างความสนุกขบขันในเหล่าหมู่เพื่อน นอกจากเรื่องวุ่น ๆ ที่พวกเขาเจอแล้ว ยังมีเรื่องความรักที่เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มนักศึกษากลุ่มนี้ด้วย ไม่ว่าจะคู่เซวานกับเจมี่ที่พบรักกันระหว่างทำงานพาร์ทไทม์ คู่ของมินนี่กับแซมที่เริ่มรักกันจากการเป็นเพื่อนสนิทและคู่ของคาร์สันกับหนุ่มทหารในกรมที่จำใจต้องเลิกกันเพราะฝ่ายชายมีคนใหม่และด้วยความที่ทั้งสองอยู่ไกลกันเลยไม่ค่อยมีเวลาให้กันด้วย เรื่องวุ่น ๆ และความรักแบบวัยรุ่นของนักศึกษากลุ่มนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ต้องคอยติดตามกันนะคะ ข้อมูลตัวละคร ★พัคเซวาน รับบทเป็น เซวาน นักศึกษาหญิงสัญชาติเกาหลี เรียนอยู่สาขาบริหารปี 3 เธอทำงานพาร์ทไทม์อยู่หลายงานทั้งเป็นผู้ช่วยหอพัก ( งานนี้เซวานได้เงินเยอะสุดเพราะไถ่เงินจากเพื่อนด้วยกัน 55 ) พนักงานเสิร์ฟหรือยกของ ขยันและตั้งใจทำงานมาก ๆ ขอตั้งฉายาให้เลยว่า ' อึดถึกทน 'ชินฮยอนซึง รับบทเป็น เจมี่ นักศึกษาชายสัญชาติอเมริกัน เรียนอยู่สหวิทยาการ ปี 1 ตั้งฉายาให้ว่า ' หน้าหล่อ ' สาว ๆ คนไหนได้เจอเป็นต้องใจละลายทุกคน เขาต้องอยู่ในมหาลัยแบบลับ ๆ เพราะมีแม่เป็นถึงซุปตาร์ระดับโลกคาร์สัน อัลเลน รับบทเป็น คาร์สัน นักศึกษาหญิงสัญชาติอเมริกัน เรียนอยู่สาขาสถาปัตยกรรมปี 3 มีนิสัยค่อนข้างขี้โมโห แถมเป็นคนขี้เมา ชอบกินอาหารเกาหลีเอามาก ๆ ได้ฉายาสองฉายาเลยไม่ว่าจะ ' ไดโนเสาร์หลงยุค ' หรือ ' ตาลุงผสมยายแก่ ' ชเวยองแจ ( หนุ่มเสียงดีจาก GOT7 ) รับบทเป็น แซม นักศึกษาเกาหลีสัญชาติออสเตรเลีย เรียนอยู่สาขาออกแบบสหวิทยาการ น้องเล็กสุดในกลุ่มเพื่อน เป็นคนขี้โม้ ที่โม้ทีไรหูแดงแปร๋ทุกที บางทีก็ขี้มโนบ้าง เจ้าเลห์หน่อย ๆ แต่ก็น่ารักไม่เบาเลยล่ะมินนี่ ณิชา ( สมาชิกวง (G)I-DLE ) รับบทเป็น มินนี่ นักศึกษาชาวไทยคนเดียวในกลุ่ม เรียนอยู่สาขาคอนเทนต์เกาหลี ปี 2 เป็นแฟชั่นนิสต้า และเจ้าชู้มาก ๆ ชอบดูซีรีส์เกาหลีเป็นชีวิตจิตใจและชอบเที่ยวผับด้วยฮันฮยอนมิน รับบทเป็น ฮยอนมิน เด็กหนุ่มสัญชาติเกาหลี ( ชาวเกาหลีแท้ที่คอสเพลย์ชาวต่างชาติ ) เรียนสาขาเกษตรศาสตร์ ปี 2 มีคำฮิตประจำตัวว่า " ห้องนายคือห้องฉัน " เขาเดินทางจากอีชอนมามหาวิทยาลัย 5 ชั่วโมง และมักจะเจอเรื่องโชคร้ายเป็นชีวิตจิตใจ ( เป็นคนที่น่าสงสารมาก T^T ) เทอร์ริส บราวน์ รับบทเป็น เทอร์ริส เด็กหนุ่มสัญชาติตรินิแดดและโตเบโก เรียนปริญญาโทบริหารธุรกิจ ฉลาดเป็นกรด เจ้าของฉายา ' คาสโนว่า ' เพราะเก่งเรื่องผู้หญิงมาก ๆ แต่บางครั้งก็อวดฉลาดไปบ้างโจอาคิม โซเรนเซน รับบทเป็น ฮันส์ หนุ่มสัญชาติสวีเดน เรียนปริญญาโทมานุษยวิทยาด้านวัฒนธรรม รักเกาหลีมาก ๆ มีประโยคติดปากก็คือ " กฎก็คือกฎ " และ " ยกเว้นฉัน " เคร่งในวัฒนธรรมเกาหลีมาก ๆ แต่ตัวเองก็ไม่เคยปฏิบัติตามเลย รีวิวจากนักเขียน ★เรื่องนี้หลังจากดูแล้วได้อะไรเยอะมาก ๆ สะท้อนปัญหาสังคมเยอะพอสมควร ทั้งเรื่องเชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรม บางคนอาจคิดว่าคนเกาหลีบางคนยังไม่เคร่งวัฒนธรรมมากเท่าคนต่างชาติ บางคนอาจยังไม่รู้ว่าชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศเกาหลีก็รู้จักวัฒนธรรมเกาหลีและเชื่อด้วยเหมือนกัน บางทีอาจจะรู้มากกว่าคนเกาหลีด้วยซ้ำเหมือนนักศึกษาที่ชื่อฮันส์ นอกจากนี้เรื่องนี้ยังทำให้คนดูรู้จักวัฒนธรรมเกาหลีมากขึ้น ไม่ว่าจะอาหารการกิน การเคารพซึ่งกันและกัน พิธีกรรมหรือความเชื่อต่าง ๆ ถ่ายทอดผ่านตัวละครทุกตัวในแต่ละฉาก ถือได้ว่ามีเนื้อหาที่ครบครัน ไม่ได้มีเพียงแต่ความฮาและความสนุกที่ปูเป็นพื้นฐานของเรื่อง ยังมีสอดแทรกความรู้ดีดีในเรื่องอีกด้วย ในเรื่องการดำเนินเรื่องเป็นไปด้วยดี ลื่นไหล ไม่ติดขัด ไม่มีฉากไหนที่คิดว่าไม่เข้ากัน ควบคุมเรื่องโทนและบรรยากาศของเรื่องได้ดี ให้ความรู้สึกสดใสตลอดทั้งเรื่อง ด้านฉากและการถ่ายทำถือว่าเลือกโลเคชั่นได้ดีเหมือนกัน ให้ความรู้สึกเป็นมหาวิทยาลัยนานาชาติในเกาหลีจริง ๆ ส่วนของประกอบฉากมีความสดใดและแปลกใหม่อยู่ตลอดทั้งเรื่อง ดูแล้วไม่รู้สึกเบื่อเลย สุดท้ายเรื่องคอสตูมถือว่าทำออกมาให้ภาพรวมดูดีมาก ๆ สมบูรณ์สุด ๆ ให้ลุคตัวละครแต่ละตัวมีคาแรคเตอร์ที่ต่างกันออกไป น่าสนใจ ดูสดใสไม่ซ้ำใครดีค่ะ รวม ๆ แล้วทุกอย่างทำออกมาได้เพอร์เฟกต์ให้ 9.5 / 10 ค่ะ สรุป ★สำหรับใครที่ชอบซีรีส์สดใส ๆ สไตล์วัยรุ่น เนื้อหาสอดแทรกเรื่องราวสะท้อนสังคมด้วย ต้องเรื่องนี้เลยค่ะ So Not Worth It ซีรีส์วัยรุ่นที่จะทำให้คุณอารมณ์ดีตลอดทั้งวัน เพราะไม่มีฉากที่ทำเราเสียน้ำตาเลย แถมเรียกเสียงฮาจากเราไปหลายฉาก เหมาะกับการดูช่วงว่าง ๆ ในหน้าฝนนี้สุด ๆ ค่ะ ทั้งบรรยากาศที่ดี ฝนตกปรอย ๆ บวกกับซีรีส์คุณภาพดีแบบนี้ห้ามพลาดเลยค่ะ สามารถติดตามได้แล้วตอนนี้ทาง Netflix มี 12 ตอน ตอนละ 30 กว่านาทีนะคะ แล้วไปพบกับความสนุกด้วยกันนะคะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 4 เรื่องที่น่าดูช่วงนี้ บอกเลยว่าตามไปดูแล้วจะมีความสุขแน่นอนค่ะ ทางเราชอบเรื่อง Reply 1988 มากที่สุดยกให้เป็นซีรีส์ในดวงใจเรื่องหนึ่งเลยค่ะ ด้วยความที่ทั้งสนุกปนฮาแถมมีฉากเสียน้ำตาด้วยแล้ว ถือว่าครบรสมาก ๆ ควรค่าแก่การดูค่ะ ส่วนเรื่อง Friends, Mad For Each Other และ So Not Worth It ก็ถือเป็นซิตคอมที่ฮาไม่แพ้เรื่องไหนเลย แต่ไม่ใช่แค่จะฮาอย่างเดียว ข้อคิดทางเรื่องก็มีแฝงอยู่ด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่งแต่ละเรื่องจะมีข้อคิดอะไรแฝงอยู่ล่ะก็ต้องตามไปดูนะคะ สุดท้ายแล้วหวังว่าซีรีส์ที่เรานำมาแนะนำทุกท่านวันนี้จะช่วยให้ทุกท่านมีความสุขในช่วงหน้าฝนนี้กันนะคะ รักนักอ่านทุกคนค่ะ ไปแล้ว ปิ๊ว ๆ ^3^ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก : Pixabay , Facebook ภาพปก, ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4 #Netflix #Netflixน่าดู #หน้าฝน #Reply1988 #Friends #MadForEachOther #SoNotWorthIt #หนังยุค90 #หนังยุค80 #GOT7 #ยองแจ #youngjaeเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !