คนเดียวก็เที่ยวได้ หนีความวุ่นวายในเมืองกรุง ไปใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์กับธรรมชาติบนดอยกันดีกว่าภูเขา ท้องฟ้า สายหมอก บางครั้งเราแค่อยากเอาตาไปมอง เอาเท้าไปเดิน เอาตัวไปสัมผัสความเย็น ไปอยู่ในที่ ทีความเจริญเข้าถึงน้อยที่สุด ในการเดินทาง บางครั้งไม่จำเป็นต้องพร้อมทุกอย่าง ไห้มีการใช้ชีวิตเข้าไปเสริมสร้างภูมิคุ้มกันบ้าง หากเราจะมองแค่ปลายทาง โดยไม่มองระหว่างทาง มันก็ไม่ได้ลิ้มรสการเดินทางที่แท้จริงน่ะซิครั้งนี้เด็กหญิงกระดาษ จะมาแนะนำวิธีการเดินทาง ไปเที่ยวเชียงใหม่ฉบับ คนไม่มีเพื่อนแต่อยากเที่ยว การเดินทางครั้งนี้จะเป็นการเดินทางโดยรถประจำทาง การเดินทาง Day 1 : เราเดินทางโดยรถทัวร์ กรุงเทพ-เชียงใหม่ เวลา 21.05 ถึง สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.เชียงใหม่ แห่งที่ 3 (อาเขต) เวลาประมาณ 07.00 เวลาการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง เมื่อถึงเราก็นั่งรถแดงโดยบอกลุงว่าไป คิวรถช้างเผือก พอถึงเราก็มาเช็คตารางเดินรถกันก่อนเลยจ้า เราต้องนั่งรถ เชียงใหม่-ฝาง -ท่าตอน น่ะ และต้องจำไห้ขึ้นใจว่าต้องลงปากทางแม่ตะมาน ถ้าไม่มั่นใจบอกลุงคนขับรถได้ เราเลือกขึ้น ตอน 12.00 เพื่อจะไปถึงปากทางแม่ตะมาน ก่อน 14.00 เพราะเวลาการเดินทาง 1 ชั่วโมงโดยประมาณ ด้วยความมาถึงเช้ามาก เราก็ล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนชุดงามๆ ไปแอ่วในเมืองเชียงใหม่กันหน่อย เราเดินตาม Google map ไปตามที่ต่างๆ เห็นวัดสวยเราก็แวะถ่ายรูป และที่พลาดไม่ได้เลย ก็คือประตูท่าแพ ที่ต้องมาถ่ายรูป Check in กับนกพิราบ ในการเดินทางเราสามารถโบกรถแดง ได้ตลอดทางน่ะ แต่เราชอบเดิน เราเลยเลือกเดินทางโดยการเดินเป็นส่วนใหญ่ด้วยอากาศที่เย็นสบายเราเดินได้เพลินๆ เลยแหละ พอถึงเวลาเราก็เดินกลับที่คิวรถช้างเผือกเพื่อเตรียมตัวขึ้นรถไปบ้านห้วยกุ๊บกั๊บกัน นี้คือรถสีส้ม เชียงใหม่-ท่าตอน ที่เราจะเดินทางไปกัน และจำไห้ขึ้นใจว่าเราต้องลงปากทางแม่ตะมานเท่านั้น ถ้าไม่รู้ว่าตรงไหน แนะนำบอกลงคนขับรถไว้เลยค่ะ ว่าถึงแล้วบอกหนูด้วย หลายคนสงสัยทำไมต้องลงปากทางแม่ตะมาน เพราะเรานัดกับ โฮมสเตย์ไว้ค่ะ พอเรามาถึง ก็จัดการโทรไห้ ทางโฮมสเตย์ มารับค่ะ เด็กหญิงกระดาษเลือกพักกับ Anarahoo ม่อนกุ๊บกั๊บ Facebook: Anarahooม่อนกุ๊บกั๊บบรรยากาศระหว่างทางที่ขึ้นหมู่บ้านน่ะค่ะ ต้องนั่งรถยกสูง 4x 4 กับทางโฮมสเตย์เท่านั้น เนื่องจากทางหมู่บ้านไม่อนุญาติ ให้ขับรถขึ้นไปเอง ถ้าไม่ชินกับถนนก็จะเป็นอันตรายได้ค่ะเรามาถึงประมาณ 15.30 น. นั่งกินข้าวพักผ่อน เดินชมหมู่บ้าน ที่นี่เขามีกิจกรรมเดินไปชมพระอาทิตย์ตก ที่ดอยผาสามเหลี่ยมโดยมีไกด์นำทาง สำหรับเราชอบป่าอยู่แล้วก็ไปกัน โดยค่าใช้จ่ายก็ ค่าไกด์ 500 บ. ค่ารถรับ-ส่ง ทางขึ้นดอยคนล่ะ 250 บ. ถ้าไปคนเดียวก็ไปแชร์กับกลุ่มที่เขาไปหลายคนก็ได้น่ะหารกันถูกๆดอยผาสามเหลี่ยมมีความสูง 1,600 m จากระดับน้ำทะเล ระยะทางเดิน 1.7 km ดูเหมือนระยะทางจะไม่ไกลแต่ด้วยความชัน ก็ต้องเดินไปกลับ 3-4 ชั่วโมงเลยล่ะ แต่พอไปถึงหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เนื่องจากด้วยบรรยากาศที่เย็นสบาย และวิวทิวเขา 360 องศา มองเห็นยอดดอยหลวงเชียงดาวไกลๆ พอถึงช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกคือช่วงที่ท้องฟ้ากลายเป็นสีส้มเรานั่งมองจนลืมเวลาเลยล่ะ พอถึงเวลาก็ต้องเดินกลับเพราะเกรงว่าถ้าฟ้ามืดก็กว่านี้จะเดินทางลำบาก พอมาถึงก็อาบน้ำ กินข้าว อากาศก็เย็นขึ้นเรื่อยๆ ก็มีการก่อกองไฟ นั่งผิงไฟ กินมันเผ่าคือดีมากๆ Day 2 : 06.00 น. เราตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อมาดูทะเลหมอก ในที่สุดสายหมอกในยามเช้าก็พัดผ่านมาตาม ซอกซอยของภูเขาที่สลับซับซ้อน เนื่องจากเมื่อคืนลมแรงทำไห้หมอกไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ก็สวยไปอีกแบบ นั่งกินข้าวต้มร้อนๆ กาแฟอุ่นๆ บอกตามตรงมันคือพลังบวกของชีวิตเลยล่ะ เหนื่อยมาจากไหนแค่เซมาที่นี่ คือได้ชาร์ตแบตแล้ว09.00 น. เราต้องบอกลาบ้านห้วยกุ๊บกั๊บ เพราะเราจะต้องเดินทางไป ดอยหลวงเชียงดาว อ.เชียงดาวต่อ โดยให้ทางที่พักขับรถลงมาส่งเราที่ปากทางแม่ตะมาน และเราก็โบกรถเมล์ต่อเลยจ้า เรานั่งรถสีส้มเหมือนเดิม จากนั้นพอถึงก็มีคนมารับเพื่อเดินทางต่อ ไปยังบ้านระเบียงดาว เชียงดาว Facebook: บ้านระเบียงดาว เชียงดาว พอเรามาถึงเราก็รู้สึกว่า ทำไมที่นี้มันดีต่อใจจัง ด้วยวิวดอยหลางเชียงดาว ไม่ว่าใครมาที่นี้ต้องหลงรักและนี่เองคือวิวหน้าที่พักของเรา ราคาหลักร้อยแต่วิวหลักล้าน รวมอาหารฟรี 2 มื้อด้วยน่ะนี้คืออาหารเย็นของวันนี้ คือเยอะมากขนาดเรามาแค่คนเดียวเขาก็ยังจัดไห้เต็มที่ เรานั่งมองวิวดอยหลวงเชียงดาวจนค่ำ ก็ถึงเวลาที่ต้องพักผ่อน อากาศที่นี่ยิ่งดึก ยิ่งเย็น แนะนำไห้พกเสื้อแขนยาวมาไห้เพียงพอ Day 3 : เราตื่นเช้าเหมือนเดิมเพื่อมาเสพบรรยากาศ และถึงเวลาที่เราต้องบอกลาที่แห่งนี้อีกครั้ง จากบอกลาไม่ใช่การจากลา แล้วเราจะพบกันอีกครั้งน่ะ ดอยหลวงเชียงดาว การเดินทางกลับ ทางโฮมสเตย์ขับรถลงไปส่งที่ในเมืองอำเภอเชียงดาว และเราก็นั่งรถเมล์สีส้มคันเดิม เพื่อไปยังคิวรถช้างเผือกและเดินทางกรับกรุงเทพมหานครต่อไปการเดินทางไปบ้านห้วยกุ๊บกั๊บ : รถทัวร์ กรุงเทพ-เชียงใหม่ , รถเมล์เชียงใหม่-ท่าตอน (ลงปากทางแม่ตะมาน)ที่พัก : Anarahoo ม่อน กุ๊บกั๊บที่พักมีคนรับส่งกรณี นั่งรถประจำทาง Facebook: Anarahooม่อนกุ๊บกั๊บพิกัด: แผนที่การเดินทางไปดอยหลวงเชียงดาว : รถเมล์ เชียงใหม่-ท่าตอน (ขึ้นปากทางแม่ตะมาน) ลงอำเภอดอยหลวงเชียงดาวที่พัก : บ้านระเบียงดาว เชียงดาว ที่พักมีคนรับส่งกรณี นั่งรถประจำทาง Facebook: บ้านระเบียงดาว เชียงดาว พิกัด: แผนที่สิ่งที่ควรเตรียมไป : เพาเวอร์แบงค์และแบตเตอรี่กล้องให้เพียงพอเนื่องจากที่พักส่วนมาใช้ไฟจากโซล่าเซลล์ทำให้บางครั้งไฟไม่พอ , เสือแขนยาว, ยารักษาโรค , เครือข่ายโทรศัพท์คลื่นอ่อนมากไปถึงไม่มี , สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่ไปคนเดียวคือขาตั้งกล้อง เมื่อใจพร้อม กายพร้อม เราออกไปเที่ยวกันเถอะ #คนเดียวก็เที่ยวได้ภาพทั้งหมด:โดยเด็กหญิงกระดาษวันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !