สมัยก่อนเวลาเรียนดาราศาสตร์ การขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ การสำรวจดาวอังคารแล้วพบว่ามีลักษณะคล้ายโลกของเรา วางแผนให้มนุษย์ไปตั้งถิ่นฐานบนดาวเหล่านี้ได้ หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว เพราะผ่านมาหลายสิบปีเราก็ยังคงอาศัยอยู่บนโลกใบเดิม แต่ในบทความนี้ผู้เขียนได้รวบรวมข่าวสาร งานวิจัย และบทวิเคราะห์จากหลายองค์กรทั่วโลก เพื่อจะนำมาเล่าสู่กันฟังว่าอนาคตอันใกล้นี้ การตั้งอาณานิคมบนดวงจันทร์ (Colonization Of The Moon) เพื่อจะพัฒนาเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ของมวลมนุษยชาติ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป การย้ายมนุษย์จากโลกขึ้นไปอยู่บนดวงจันทร์มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง ลองดูกันว่าการตื่นตัวเกี่ยวกับประเด็นนี้ขององค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกนั้นเป็นไปอย่างไรบ้าง ประเด็นร้อนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เกิดขึ้นเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศต่อสาธารณชนว่าจะนำธงชาติสหรัฐอเมริกาไปปักบนดวงจันทร์อีกครั้ง เพื่อแสดงเจตนารมในการทำอาณานิคมบนดวงจันทร์ ซ้ำยังมีข่าวออกมาว่า สหรัฐอเมริกากับชาติพันธมิตรที่กำลังทำโครงการสำรวจดวงจันทร์ กำลังหารือเพื่อจับจองและแบ่งพื้นที่บนดวงจันทร์ ตามเงื่อนไขในข้อตกลงที่ชื่อว่า Artemis Accords ซึ่งเป็นการต่อยอดโครงการที่นาซ่า (NASA) ได้ลงทุนร่วมกับบริษัทสำรวจอวกาศของเอกชนอย่าง SpaceX, Blue Origin เพื่อสร้างสถานีอวกาศขนส่งมนุษย์ไป-กลับโลกและดวงจันทร์ ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ยังสอดคล้องกับการตื่นตัวของ Amazon เมื่อผู้บริหารสูงสุดได้เปิดตัวยานอวกาศที่ชื่อว่า Blue Moon ไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา พร้อมกับประกาศว่าจะตั้งอาณานิคมมนุษย์บนดวงจันทร์ให้ได้ภายในปี 2024 จากเดิมที่การเดินทางไปดวงจันทร์ของมนุษย์เป็นไปเพียงเพื่อการสำรวจ แต่เมื่อการสำรวจนั้นเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกจนแน่ใจว่ามนุษย์สามารถอาศัยอยู่บนดวงจันทร์ได้ มันจึงถึงเวลาแล้วที่เราจะย้ายจากโลกไปอาศัยอยู่บนดวงจันทร์ ฟังดูน่าตื่นเต้นไม่เบาสำหรับโครงการที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่หลายคนไม่เคยรู้นั่นคือ นอกจากการสร้างอาณานิคมบนดวงจันทร์จะเป็นไปเพื่อเป็นบ้านหลังใหม่ของมนุษย์แล้ว เบื้องหลังของบรรดาประเทศอำนาจที่ต้องการจับจองพื้นที่บนดวงจันทร์ นั่นเพราะในอนาคตมันจะเป็นแหล่งทำเงินมหาศาลให้กับประเทศเหล่านั้นนั่นเอง หลายคนคงสงสัยว่าบนดวงจันทร์มีอะไร เพราะสมัยที่เราเรียนเราก็จะเห็นเพียงพื้นผิวขรุขระที่ไม่น่าจะสร้างบ้านหรือเพาะปลูกได้ด้วยซ้ำ แต่ความจริงดวงจันทร์จะกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ทั้งทางอำนาจการเมืองและเศรษฐกิจ เพราะการสำรวจพบแร่มีค่าบนดวงจันทร์ ไม่ว่าจะเป็นแร่ฮีเลียม-3 ที่นำมาใช้ในการผลิตพลังงานทั้งชาติก็ไม่หมดไป อีกทั้งยังมีแรร์เอิร์ธที่เป็นประเด็นโด่งดังไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา รวมทั้งบรรดาแร่ธาตุอีกหลายชนิด ที่สามารถนำมาผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ถึงกระเหี้ยนกระหือรืออยากจะครอบครองพื้นที่บนดวงจันทร์ จนสร้างข้อตกลงระหว่างประเทศขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะ แม้การตั้งอาณานิคมจะไม่เกิดขึ้นในวันสองวันนี้ แต่เราต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีอวกาศที่ก้าวหน้าขึ้นทุกวัน ทำให้ความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ใกล้เข้ามาทุกที แม้เราจะอยู่ในประเทศที่ไม่ได้เป็นพันธมิตรสำรวจดวงจันทร์กับสหรัฐอเมริกา แต่เราก็จำเป็นต้องตระหนักถึงเรื่องราวนี้ เพื่อเตรียมตัวกับโลกที่จะเปลี่ยนไปในอนาคต อาณานิคมบนดวงจันทร์ไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงเฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่ง แน่นอนว่ามันเริ่มต้นที่ชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ทุกมิติบนโลกทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมในอนาคต จะต้องเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้ รูปภาพหน้าปก โดย NASA : Unsplash ภาพประกอบที่ 1 โดย NASA : Unsplash ภาพประกอบที่ 2 โดย WikiImages : Pixabay ภาพประกอบที่ 3 โดย WikiImages : Pixabay