เมืองเชียงใหม่เป็นเมืองของความมีเอกลักษณ์ นักท่องเที่ยวต่างชอบมาสัมผัสบรรยากาศ กลิ่นอายของความเป็นล้านนา มาท่องเที่ยวตามวัดวาอาราม ธรรมชาติที่เขียวขจี มาลิ้มลองอาหารเหนือรสชาติอร่อย และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ เมื่อมาเที่ยวเชียงใหม่ก่อนจะกลับก็ต้องแวะซื้อของฝากกันหน่อยเชียงใหม่มีของฝากมากมายทั้ง เสื้อผ้าพื้นเมือง สินค้าแฮนด์เมด อาหาร ขนม รวมไปถึงเครื่องปั้นดินเผา ส่วนที่จะแนะนำในวันนี้ก็คือ “เชียงใหม่ศิลาดล” ศูนย์รวมของฝากเป็นเครื่องปั้นดินเผาที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองและมีชื่อเสียง รูปภาพจาก : Suda , 2020 เครื่องปั้นดินเผาเคลือบเซลาดอน (Celadon)คำว่า “Celadon” เป็นชื่อที่มาจาก ภาษาฝรั่งเศส ซึ่งเดิมเราใช้เรียกทับศัพท์ ส่วนชื่อเรียกของไทยเราเรียกว่าเครื่องสังคโลก เมื่อมีบริษัททำเครื่องปั้นดินเผาสังคโลก เคลือบเซลาดอน เกิดขึ้น จึงได้ใช้ชื่อว่า ศิลาดล ในจังหวัดเชียงใหม่ปัจจุบัน มีการจดทรัพย์สินทางปัญญา ผลิตภัณฑ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ "GI" ศิลาดลเชียงใหม่ "คิดถึงศิลาดล คิดถึงจังหวัดเชียงใหม่" เป็นผลิตภัณฑ์ ประเภทสโตนแวร์ (Stoneware) ที่ได้เคลือบขี้เถ้าพืชผสมกับดินผิวหน้านา เมื่อเผาแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะออกเป็นสีเขียว แบบเซลาดอน มีความสวยงาม และคลาสสิคในตัวเองเป็นผลิตภัณฑ์ที่เลียนแบบสังคโลกส่วนน้ำเคลือบนั้นจะใช้ขี้เถ้าพืชที่ได้จากไม้ก่อ ไม้ฮกฟ้า มาผสมกับดินผิวหน้านา ซึ่งมักจะมีธาตุเหล็กสูง โดยปกติแล้ว เคลือบขี้เถ้า (Ashglaze) ถ้าให้สวยเป็นมันเงาดีมักจะเคลือบผลิตภัณฑ์ให้หนา ผิวเคลือบที่ได้จะรานตัว (Glazing) ซึ่งเป็นลักษณะหนึ่งของผลิตภัณฑ์ ประเภทเซลาดอน ที่รู้จักกันทั่วไป ขั้นตอนการผลิตเครื่องปั้นดินเผาเซลาดอนขั้นตอนที่ 1การเตรียมดินซึ่งดินสำหรับผลิตศิลาดลต้องเป็นดินดำที่ส่วนใหญ่จะหาได้จากในจังหวัดเชียงใหม่ โดยการนำมาย่อย บดให้ละเอียด แล้วนำมาร่อน เพื่อให้แน่ใจว่าดินที่ได้เป็นดินที่มีคุณภาพจริงๆขั้นตอนที่ 2นำดินที่ได้จากขั้นตอนที่ 1 ไปผสมน้ำ ล้างให้สะอาด ไม่ให้มีเศษขี้เหล็ก หรือวัตถุอื่นใดปะปนอยู่ แล้วนำไปใส่ในเครื่องอัดดิน เพื่ออัดเอาน้ำในดินออก ให้เหลือดินเป็นแผ่น ๆขั้นตอนที่ 3หลังจากผ่านเครื่องอัดดินแล้วจะต้องทิ้งไว้ในที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกชั่วครู่ เพื่อให้อินทรีย์สารในดินนั้นเกิดการรวมตัวขั้นตอนที่ 4นำดินที่ได้จากขั้นตอนที่ 3 มานวดเพื่อไล่ฟองอากาศรูปภาพจาก : Suda , 2020 ขั้นตอนที่ 5นำดินที่ได้มาขึ้นรูปด้วยวิธีการต่างๆ- ขึ้นรูปด้วยมือ Forming on the wheel- ขึ้นรูปด้วยใบมีด รูปภาพจาก : Suda , 2020รูปภาพจาก : Suda , 2020 ขั้นตอนที่ 6ปล่อยให้ชิ้นงานแห้งตามธรรมชาติ แล้วจึงให้ช่างตกแต่งรูปทรงอีกครั้งหนึ่งขั้นตอนที่ 7นำชิ้นงานที่ได้นั้นมาแกะสลักตามที่เราต้องการ (แกะในเนื้อดิน) รูปภาพจาก : Suda , 2020ขั้นตอนที่ 8นำชิ้นงานที่แห้งตามธรรมชาติแล้วไปเผาในเตา ใช้อุณภูมิในการเผา 800 องศาเซลเซียส 7-8 ชั่วโมง ได้ชิ้นงานสีน้ำตาลอ่อนเรียกว่า "บิสกิต" "Biscuit"ขั้นตอนที่ 9เช็ครอยร้าวหรือความบกพร่องของชิ้นงาน "บิสกิต" ถ้าไม่ต้องการเขียนลายก็เตรียมนำไปชุบน้ำเคลือบในขั้นตอนต่อไป ส่วนชิ้นงานที่ต้องการตกแต่งลวดลาย ก็นำไปเขียนลวดลายตามต้องการก่อนการเคลือบ รูปภาพจาก : Suda , 2020 รูปภาพจาก : Suda , 2020 ขั้นตอนที่ 10นำไปเคลือบด้วยน้ำเคลือบที่มีส่วนผสมของดินหน้านาผสมกับขี้เถ้าไม้ก่อ ไม้รกฟ้า หลังจากนั้นทิ้งไว้ให้แห้งแล้วตกแต่งเคลือบให้ละเอียด ไม่ให้มีฟองอากาศ รูปภาพจาก : Suda , 2020 ขั้นตอนที่ 11นำไปเผาที่อุณหภูมิ 1,260-1,300 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง ทิ้งให้เย็นตัวในเตาเผาประมาณ 8-10 ชั่วโมง ก่อนเปิดเตา กลายเป็นชิ้นงานสีเขียวคล้ายหุ้มด้วยหยก รูปภาพจาก : Suda , 2020