หลังจากที่การรถไฟได้ปิดการให้บริการรถไฟไปเนื่องจากสถานการณ์โรค COVID 19 มาช่วงระยะหนึ่ง ขณะนี้ก็ได้มีมาตรการเดินรถไฟบ้างในบางสาย ผมเป็นนักศึกษาที่ติดค้างอยู่ที่เชียงใหม่ ซึ่งโดยปกติผมมักจะเดินทางกลับบ้านที่นครสวรรค์ด้วยรถไฟเป็นประจำ วันนี้เราจะมารีวิวการนั่งรถไฟในช่วงสถานการณ์ที่ผ่อนปรนรวมถึงขั้นตอนต่างๆในการเดินทางของผมครั้งนี้กันครับ รถไฟขบวน 9052 เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ที่เปิดบริการเพียงขบวนเดียว สำหรับผู้ที่จะเดินทางจากภาคเหนือไปสู่จังหวัดทางตอนล่าง รถไฟที่เปิดให้บริการเป็นรถไฟขบวนที่ 9052 จากสถานีเชียงใหม่ ปลายทางสถานีกรุงเทพฯ แต่ผมลงที่สถานีปลายทางคือสถานีนครสวรรค์ ลักษณะของรถไฟจะเป็นตู้พัดลมธรรมดา มีตั๋วขาย 2 แบบคือ ตั๋วชั้น 2 สภาพเบาะก็จะคล้ายๆกับเบาะรถโดยสารทั่วไป ตั๋วชั้น 3 เป็นเบาะนั่งธรรมดาที่หันหน้าชนกัน ซึ่งทั้งสองแบบนี้ก็ถูกออกแบบการนั่งให้เป็นไปตามมาตรการการป้องกันโรค โดยจัดสรรที่นั่งให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ที่ใช้บริการและมีการเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย รถไฟขบวนนี้ออกเดินเมื่อเวลา 5.30 น. ถึงกรุงเทพฯเวลา 18.30 น. ส่วนผมลงสถานีนครสวรรค์ก็ถึงเวลาประมาณ 14.30 น. บรรยากาศบนรถไฟ ผู้คนนั่งเว้นระยะห่างตามมาตรการป้องกันโรค เบาะนั่งชั้น 3 ที่มีการทำสัญลักษณ์กากบาทเพื่อไม่ให้นั่งใกล้กัน ตารางเดินรถไฟ และจุดจอดตามสถานีต่างๆ มาถึงขั้นตอนการเดินทางที่หลายคนอยากทราบว่าต้องทำอย่างไรบ้าง สำหรับผมที่เดินทางกลับนครสวรรค์ก็ไม่มีอะไรมาก พอผมไปถึงที่สถานีก็มาผ่านจุดคัดกรองโรค ต้องสวมหน้ากากอนามัย เช็คอินการมาถึงผ่านแอปไทยชนะ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ และตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย จากนั้นจะมีสติ๊กเกอร์ติดที่เสื้อหนึ่งดวง จุดต่อไปก็จะมีเอกสารให้กรอก 2 ใบ คือใบคำร้องขอเดินทาง กับเอกสารรับรองการเดินทางหรือที่เรียกว่าใบ ต.8 ซึ่งข้อมูลที่กรอกก็ไม่มีอะไรยุ่งยากเป็นข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลที่พักปัจจุบัน และที่พักปลายทาง เหตุผลในการเดินทาง และอาการป่วยไข้(ถ้ามี) เพียง 5 นาทีก็เสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็เดินทางไปซื้อตั๋วรถไฟพร้อมทั้งแสดงบัตรประชาชน สถานีต้นทางจะเก็บใบคำร้องไว้ และออกตั๋วรถไฟแนบใบ ต.8 เพื่อใช้ประกอบในการเดินทางและส่งให้เจ้าหน้าที่สถานีปลายทางตรวจสอบต่อไป สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงอาจมีข้อปฏิบัติเพิ่มเติมสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บของการรถไฟซึ่งผมจะทิ้งไว้ตอนท้าย ผู้โดยสารจะต้องสวมหน้ากากเมื่อมาถึงยังจุดคัดกรองและตลอดการเดินทาง เมื่อผ่านจุดคัดกรองแล้วจะได้รับสติ๊กเกอร์ติดที่เสื้อดังรูป ตั๋วรถไฟ แนบพร้อมเอกสารรับรองการเดินทาง(ใบ ต.8) ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่จะเดินทางคือ ควรเดินทางมาถึงสถานีก่อนเวลารถออกสัก 20 นาที เพื่อเตรียมความพร้อมของการคัดกรองโรคและกรอกเอกสารต่างๆก่อนไปซื้อตั๋ว และมีเวลาทำธุระส่วนตัวก่อนขึ้นรถไฟ ควรเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไปให้พร้อม เพราะไม่มีลุงๆป้าๆมาเดินขายของบนรถไฟเหมือนในสถานการณ์ปกติ ผมมาซื้อเอาที่สถานีรถไฟจึงต้องจ่ายในราคาค่อนข้างแพงเพราะเป็นราคานักท่องเที่ยว โชคดีหน่อยที่พอถึงสถานีนครลำปางมีป้าคนหนึ่งมาขายข้าวกล่องข้างตู้รถไฟเลยชะโงกหน้าออกไปสั่งซื้อมาได้กล่องนึงเลยรอดตายไป มีข้าวกล่องขายที่สถานีนครลำปาง แต่สำหรับการเดินทางควรเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไปเองเพราะบนรถไฟไม่มีขาย ในการเดินทางครั้งนี้ผมถือว่าดีเลย ทั้งมาตรการคัดกรองโรคของการรถไฟที่มีอยู่ทุกสถานี ราคาก็ค่อนข้างถูกกว่ารถทัวร์หลายเท่าตัว การให้บริการประชาชนอย่างเป็นมิตร เช่นที่ผมเห็นคือ มีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำคุณป้าคนหนึ่งในการกรอกเอกสาร และมีเจ้าหน้าที่ช่วยพระสงฆ์วัยชรารูปหนึ่งหิ้วสัมภาระไปนั่งยังขบวนรถ เหล่านี้ล้วนเป็นภาพลักษณ์ที่น่าประทับใจสำหรับผู้ที่พบเห็นและอยากลองใช้บริการรถไฟสักครั้ง สำหรับใครที่อยู่ภาคเหนือแล้วคิดจะเลือกเดินทางในช่วงนี้ก็สามารถเลือกเดินทางด้วยรถไฟได้นะครับ พิกัด สถานีรถไฟเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053244795 เว็บไซต์เพิ่มเติมเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่สนใจ 1. https://www.thairailwayticket.com/eTSRT/ เว็บในการจองตั๋วออนไลน์ สามารถดาวน์โหลดเอกสารการเดินทางได้ พร้อมทั้งรายละเอียดมาตรการต่างๆ 2. http://www.railway.co.th/Home/Index การรถไฟแห่งประเทศไทย สามารถตรวจสอบเที่ยวรถ มาตรการของการถไฟ ข่าวสารประชาสัมพันธ์ต่างๆ 3. facebook สถานีรถไฟเชียงใหม่ (มีข่าวสารประชาสัมพันธ์) เครดิตภาพ 1.ตารางเดินรถ (การรถไฟแห่งประเทศไทย) 2.ภาพอื่นๆโดยผู้เขียน