เมื่อนึกถึงจังหวัดเชียงใหม่ หลายๆ คนก็มันจะนึกถึงธรรมชาติ การไปเที่ยวสุดยอดดอย ชมทะเลหมอก เที่ยวน้ำตก เดินป่าปีนเขา ชมวิธีชีวิตชาวไทยท้องถิ่น หรือสำหรับบางคนที่ชอบเที่ยวในเมือง ก็อาจนึกถึงห้าง คอมเพลกซ์รูปแบบใหม่ๆ ในเมืองแถวเส้นนิมมาเหมินทร์ แต่รู้หรือไม่ว่า เชียงใหม่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวสุดฟิน บรรยากาศเงียบสงบ คนไม่พลุกพล่าน และเป็นส่วนตัว ให้ได้ผ่อนคลายความเมื่อยล้ากับแบบเต็มที่ อย่าง ออนเซ็น แอท ม่อนแจ่ม (Onsen @ Moncham) สำหรับผู้เขียนเองได้เดินทางมา Business trip และเช่ารถเที่ยวต่อคนเดียวสามารถเปิด Google map ขับตามมาได้อย่างไม่ลำบากแต่อย่างใดสำหรับเส้นทางการเดินทางมายัง ออนเซ็น แอท ม่อนแจ่ม (Onsen @ Moncham) จะตั้งอยู่ระหว่างทางสำหรับเดินทางขึ้นม่อนแจ่ม สามารถตั้ง GPS มาได้เลย สำหรับการเดินทางถ้าขับรถมาเองก็ไม่ได้ลำบากอะไร เส้นทางไม่ได้น่ากลัวขับชมธรรมชาติเรื่อยๆมาได้ มาจากในตัวเมืองก็ไม่นานเช่นกัน ที่ตั้งของที่นี่อยู่ริมทางสังเกตได้ไม่ยากเนื่องจากสถานที่สวยมากๆ ที่จอดรถมีสถานที่ให้จอดไม่ลำบากอยู่หน้ารีสอร์ทเลย สำหรับใครที่ต้องการเดินทางขึ้นมาแบบไม่ค้างเหมือนผู้เขียน แนะนำให้ขึ้นไปเที่ยวบนม่อนแจ่มตั้งแต่เช้าตรู่ชมธรรมชาติและดอกไม้สวยงาม แล้วขาลงก็ลงมาแวะแช่ออนเซ็นที่นี่ก็ฟินมากๆ เลยหล่ะ"อ้อเกือบลืมไป สำหรับคนที่ต้องการมาแช่ออนเซ็นนั้น ควรทำการสอบถามกับเจ้าหน้าที่ผ่าน line @OnsenMoncham ก่อนนะ จะได้ไม่มาเสียเที่ยวหรือรอเก้อ สำหรับการจองรอบล่วงหน้าจะให้จองเฉพาะแขกที่เข้าพักเท่านั้นครับ"หลังจากจอดรถเสร็จเรียบร้อยก็จะมีเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทแต่งกายให้บรรยากาศแบบเรียวกังญี่ปุ่นแท้ๆมาต้อนรับพาเดินตลอดเวลาไม่มีหลง และให้บริการดีมากๆ หลังจากติดต่อ ชำระเงินและเซ็นต์ Consent ต่างๆ เรียบร้อยที่แผนก Reception ด้านหน้าแล้ว ในกรณีที่มาใช้เฉพาะบริการออนเซ็น ไม่ได้เข้าพักแบบผู้เขียน ทางเจ้าหน้าที่ Reception ก็จะตามให้เจ้าหน้าที่ของออนเซ็นต์มารับเราพาเดินต่อไปอีกที สำหรับราคาค่าใช้บริการคือ 750 บาท ต่อคน รวมเครื่องดื่ม 1 แก้ว มีให้เลือกเป็น ชา กาแฟ ซอฟดริ๊ง น้ำอัดลมต่างๆ และเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์สำหรับบรรยากาศภายใน บอกได้เลยว่า นี่มันคือการเนรมิตรญี่ปุ่นมาแท้ๆ การตกแต่งทุกมุมให้บรรยากาศสงบเงียบ ไม่พลุกพล่าน แม้เดินทางไปในวันเสาร์ อาทิตย์ รวมกับสถานที่ตั้งของรีสอร์ทออกจะเป็นหุบเขาบริเวณที่มีลมผ่าน ความรู้สึกของผู้เขียนเองรู้สึกว่ามีลมพัดมาตลอดและเย็นกว่าข้างบนม่อนแจ่มซะอีกทางเจ้าหน้าที่จะพาเราเดินลงมายังบริเวณส่วนที่เป็นออนเซ็น ซึ่งจะแยกอาคารกับส่วนอื่นๆ ของทางรีสอร์ท ให้บรรยากาศร่มรื่นเป็นส่วนตัว แต่ด้วยกฏและมารยาทของทางรีสอร์ทและออนเซ็นทั่วๆไป ทำให้ไม่สามารถเก็บภาพภายในมาให้ชมได้ครับเมื่อเข้าไปในอาคารออนเซ็นแล้วก็จะมีสถานที่ให้เราเปลี่ยนรองเท้า เจ้าหน้าที่ออนเซ็นก็จะนำกุญแจล๊อกเกอร์มาให้เราเปลี่ยนเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องซึ่งแยกเป็นห้องชายหญิงเอาไว้ให้ ต้องขอบอกอีกทีว่าสถานที่ของที่นี่ทำไว้ดีมากๆ แม้กระทั่งในห้องล๊อกเกอร์ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก็สะอาดมากๆ สำหรับใครที่มาแช่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องขนอุปกรณ์มารุงรัง ที่นี่มีเตรียมไว้ให้หมดไม่ว่าจะเป็น ไดร์เป่าผม หรืออุปกรณ์จัดแต่งทรงผมต่างๆ ก็มีเตรียมไว้ให้เช่นกัน สำหรับเสื้อคลุมยูกาตะ และผ้าเช็ดตัว จะมีใส่ไว้ให้ในล๊อกเกอร์ และสำหรับที่นี่แน่นอนว่า สำหรับผู้ชายต้องถอดทั้งหมดนะครับ ส่วนคุณผู้หญิงมีชุดชั้นในอนามัยของทางรีสอร์ทไว้ให้บริการ โดยสามารถนำผ้าขนหนูผืนเล็กเข้าไปเช็ดหน้าซับเหงื่อได้เท่านั้นครับเมื่อถอดเสื้อผ้าเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว เข้าไปด้านในก็จะมีโซนอาบน้ำล้างตัวก่อนลงบ่อซึ่งมีแชมพูสระผม และสบู่เตรียมไว้ให้ เป็นโซนอาบน้ำแบบนั่งอาบครับสำหรับบ่อออนเซ็นของที่นี่จะมีบ่อใหญ่ๆ 2 บ่อ เป็น Indoor 1 บ่อ และ Outdoor 1 บ่อ และมีอ่างน้ำเย็น 2 อ่าง โดยวิธีการแช่ จะแช่จากบ่อที่ร้อนที่สุดไปจนถึงบ่อที่เย็นที่สุด สำหรับบ่อร้อนจะแนะนำให้แช่ 5-10 นาที ส่วนอ่างน้ำเย็นแช่ 1-3 นาที แล้วพักล้างตัว ดื่มน้ำ หากต้องการแช่ซ้ำก็วนลูปอีกรอบสำหรับคนที่พึ่งเคยแช่ครั้งแรก หรือแช่ไม่เป็นไม่ต้องกังวลไป เพราะก่อนเปลี่ยนเสื้อผ้าเจ้าหน้าที่ของออนเซ็นจะพาเข้าไปแนะนำวิธีการและกฏกติกามารยาทให้ก่อน ซึ่งไม่ต้องกังวล สำหรับห้องผู้ชายก็จะมีเจ้าหน้าที่ผู้ชายดูแล ส่วนห้องผู้หญิงก็จะมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงดูแลเช่นกันครับจริงๆแล้ว ทางรีสอร์ทก็มีบ่อออนเซ็นส่วนตัวและสปาไว้ให้บริการด้วย แต่จากการถามเจ้าหน้าที่แล้ว ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะให้บริการสำหรับผู้ที่มาเข้าพักเท่านั้นครับในกรณีที่คนใช้บริการมาก ทางรีสอร์ทอาจจะกำหนดเวลาการใช้บริการต่อคน ไม่เกิน 45 นาที เข้าใช้บริการได้ไม่เกิน 8 คนต่อรอบ หมดห่วงเรื่องความสกปรกหรือความแออัดไปได้เลย แต่ถ้าหากคนน้อยทางรีสอร์ทก็จะอนุโลมให้ใช้ได้ตามอัธยาศัยนะครับหลังจากแช่เสร็จเรียบร้อยก็จะมีโซนอาบน้ำอีกโซนแยกไว้หลังจากขึ้นอีกที สามารถล้างตัวมีครีมอาบน้ำและแชมพูเตรียมไว้ให้อีกเช่นกัน เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย สถานีถัดไปเราก็จะไปรับ Soft drink ได้ที่ห้องอาหารที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ครับ แต่หากใครอยากได้บรรยากาศญี่ปุ่นอีกซักนิด สามารถใส่ชุดยูกาตะออกมาที่ร้านอาหารก่อนก็ได้เช่นกันบรรยากาศภายในจัดมาได้ญี่ปุ่นจริงๆประทับใจคุ้มกับเงินที่ได้จ่ายไปมากๆสำหรับห้องอาหารก็อยู่ในโซนเยื้องๆกัน เดินไปไม่ไกล มีทั้งเป็นส่วนที่เป็น Indoor (ห้องแอร์) และ Outdoor (ริมน้ำ) ซึ่งผู้เขียนเองนั่งที่ริมน้ำเนื่องจากบรรยากาศดีมากๆ ลมเย็นและปลอดโปร่งมากSoft drink ที่รับวันนี้ เป็นอเมริกาโน่เย็น และถึงเวลาอาหารพอดีก็เลยสั่งอาหารมาอีก 1 ชุด ต้องขออภัยที่จำราคาไม่ได้ ซึ่งราคาก็อาจจะไม่ได้เบาเมื่อเทียบกับราคาอาหารทั่วไป แต่ถ้าหากบวกกับบรรยากาศที่ได้แล้วบอกได้เลยว่าคุ้มสุดๆ และทีสำคัญ รสชาติดีครับสำหรับสถานที่นี้ค่าใช้จ่ายหมดไปคร่าวๆ (ไม่รวมค่าเดินทาง) อยู่ที่ประมาณ 1,200 บาท ซึ่งโดยส่วนตัวผู้เขียนเองถือว่าคุ้มครับ เพราะรู้สึกผ่อนคลายมากจริงๆ จนทริปถัดไปอยากจะมาพักที่นี่ซะเลยแต่ถ้าหากใครต้องการจองที่พัก ยิ่งโดยเฉพาะช่วงเทศกาลหรือช่วง High season แล้วละก็ เจ้าหน้าที่ของโรงแรมแนะนำให้จองกันข้ามปีเลย เนื่องจากห้องพักมีไม่มากครับ ทางรีสอร์ทเน้นให้ความสำคัญกับความสงบและเป็นส่วนตัวอย่างเต็มที่หวังว่าบทความนี้จะเป็นตัวช่วยให้ผู้อ่านที่กำลังหาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่มีไอเดียเพิ่มขึ้นนะครับ ต้องขอย้ำเลยว่า ออนเซ็น แอท ม่อนแจ่ม นี้ผ่อนคลายและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปจริงๆครับรายละเอียดสถานที่และการเดินทางมีที่จอดรถที่อยู่ : 3/3 หัสดิเสวี ซอย 8 ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่พิกัด : https://goo.gl/maps/cKF27KgdLhUradyu7โทร : 09-0328-7051Line : @OnsenMonchamเว็บไซต์ : https://www.onsenmoncham.comภาพถ่ายทั้งหมดถ่ายด้วยตัวผู้เขียนเองอยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !