ในช่วงต้นปี 2562 ฉันได้มีโอกาสได้เจอกับเพื่อนชาวสวิซเซอร์แลนด์คนหนึ่ง เราเจอกันในฐานะพนักงานต้อนรับโฮสเทลและลูกค้าที่มาพักอาศัย เธอชื่อว่า "อิมาน" อิมานเป็นคนที่มีหน้าตาค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ทำให้ฉันรู้สึกประทับใจและอยากชักชวนเธอมาเป็นแบบถ่ายภาพ ผ่านไปสองวันฉันก็ยังคงไม่มีความกล้าพอที่จะชวนเธอไปเที่ยวแต่แล้ววันสุดท้ายฉันก็คิดได้ว่า "ถ้าเราไม่กล้าชวนตอนนี้เราคงไม่มีโอกาสตลอดชีวิต" ฉันจึงค้นหาอินสตราแกรมของเธอและทักชวนเธอเที่ยวด้วยกันในวันอาทิตย์ และเธอก็ตอบตกลง. เรานัดเจอกันที่โฮสเทลที่ฉันทำงานและขับรถพาเธอไปเที่ยวเล่นแบบไม่มีแพลน ที่แรกที่ฉันพาไปก็คืออ่างเก็บน้ำกาแล นี่เป็นภาพแรกที่ฉันถ่ายอิมานด้วยกล้องฟิล์ม และตอนนั้นฉันก็ได้ซื้อฟิล์ม kodak ให้เธอหนึ่งอันเพื่อเป็นของขวัญชิ้นแรกของการที่ได้รู้จักกัน เรานั่งคุยเพื่อละลายพฤติกรรมและทำความรู้จักกันอยู่สักพัก ถามถึงข้อมูลทั่วๆ ไป และทราบว่าเธอเด็กกว่าฉันหนึ่งปี กำลังท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ เพื่อค้นหาว่าตัวเองชอบอะไร ช่วยในการตัดสินใจเลือกเรียนต่อมหาวิทยาลัยนั่นเอง เราแลกเปลี่ยนข้อมูลและเล่ามุขตลกๆ ของบ้านเราให้เธอฟัง แต่เธอไม่เข้าใจเพราะวัฒนธรรมของเราค่อนข้างที่จะแตกต่างกันมากทำให้เธอไม่เข้าใจมุขตลกที่ฉันจะสื่อ หลังจากนั่งคุยกันสักพักพวกเราก็เริ่มหิวแล้ว การเลือกร้านอาหารที่จะพาเธอไปกินเป็นโจทย์ที่ยากที่สุดเพราะเราเพิ่งรู้ว่าเธอไม่ทานเนื้อสัตว์ เธอเป็นมังสวิรัติ และเธออยากลองกินอาหารสตรีทฟู้ด ตอนนั้นหัวโล่งมากเพราะนึกไม่ออกว่าจะไปกินอะไรดี สุดท้ายก็พาเธอไปร้านอาหารตามสั่งแห่งหนึ่งที่ฉันกินเป็นประจำ อิมานเลือกสั่งก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ต้มยำ (ที่ไม่ใส่หมู ใส่แต่ผัก) เธอบอกว่าอร่อยมากแต่เผ็ด สถานที่ต่อไปคือสถานที่ที่ไม่ว่าต้องการอะไรก็จะไปที่นี่เสมอ นั่นก็คือกาดหลวง (ตลาดวโรรส) นั่นเอง กาดหลวงจะขายของทุกสิ่งที่อย่างไม่ว่าจะเป็น ผ้า อาหาร ผลไม้ ของฝาก ดอกไม้ และอื่นๆ อีกมากมาย ฉันพาอิมานไปซื้อฝรั่งเพราะเป็นผลไม้โปรดของเธอ และสอนเธอพูดว่า "ฝรั่งชอบกินฝ้าหรั่งงง" รูปคู่รูปเดียวของเรากับอิมาน ถ่ายที่กระจกร้านขายของตกแต่งบ้านร้านหนึ่งในกาดหลวง พอเสร็จจากกาดหลวงแล้วเราก็พาอิมานไปหอศิลป์ฯ แต่โชคร้ายที่หอศิลป์มันดันปิดทุกวันอาทิตย์ ก็เลยต้องเปลี่ยนแพลนใหม่มาเป็นเที่ยวธรรมชาติแทน ที่ที่เราพาไปเป็นน้ำตกห้วยแก้วอยู่ตรงทางขึ้นดอยสุเทพฯ ใกล้กับมหาวิทยาลัยที่ฉันเรียนอยู่ พาอิมานมานั่งเล่นที่น้ำตกเพื่อฆ่าเวลาระหว่างรอให้แสงพอดีกับการถ่ายรูป ตอนนั้นเรานั่งแชร์เพลงที่ชอบให้กันและกัน และนอนฟังเสียงน้ำตกไปจนถึงสี่โมงเย็น พอได้เวลาที่เหมาะเจาะแล้วเราก็พากันย้ายไปยังสถานที่ที่เราจะพาไปถ่ายรูปนั่นก็คือไร่แม่เหียะ นี่ก็เป็นภาพฟิล์มที่เราถ่ายอิมาน เป็นโลเคชันไร่ข้าวโพดแห้งๆ ที่ทำให้รู้สึกเหงาแปลกๆ ถ่ายตอนพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า พอฟ้าเริ่มมืดเราก็พาอิมานไปหาอะไรกิน ซึ่งวันนั้นตรงกับวันอาทิตย์มีถนนคนเดินที่ท่าแพพอดี เราเลยพาอิมานไปหาอะไรกินที่นั่นจนถึงเวลาที่เราจะต้องแยกย้ายกันจริงๆ ฉันหยิบไดอารี่ของฉันให้อิมาน และบอกเธอว่าให้เขียนอะไรก็ได้ เธอเองก็ขอให้ฉันเขียนให้เธอเช่นกัน เธอบอกว่าจะเก็บไว้อ่านบนรถไฟพรุ่งนี้ สุดท้ายเราก็ต้องแยกย้ายกันจริงๆ ฉันขับรถไปส่งเธอที่โฮสเทล เรากอดร่ำลากัน พร้อมทั้งบอกว่าเราต้องได้เจอกันอีกครั้งแน่อาจจะเป็นที่สวิซเซอร์แลนด์บ้านของเธอ บทความนี้อาจจะไม่ได้แนะนำหรือให้ความรู้เกี่ยวกับที่ท่องเที่ยวอะไรมากมายนัก แต่อยากจะบอกเล่าถึงประสบการณ์ที่เราเคยไปพบเจอมาเท่านั้น มันเป็นความประทับใจอันดับต้นๆ ในชีวิตของเราที่ได้ลองทำในสิ่งที่เราอยากทำ การไปเที่ยวกับคนแปลกหน้าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครหลายๆ คนคิด แถมยังเป็นประสบการณ์ที่ดีเพราะจากคนแปลกหน้ากลายมาเป็นเพื่อนที่น่ารักของเราไปซะงั้น อิมานทิ้งท้ายไว้ในไดอารี่ว่า "good people you'll see twice" ส่วนรูปนี้เป็นรูปสุดท้ายที่เราถ่ายไว้ ปล. เรากับอิมานยังคงติดต่อกันผ่านทาง e-mail ภาพถ่ายโดยผู้เขียน