สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านทุกคน ถ้าให้นึกถึงการใช้ชีวิตของคนพิการแล้วละก็ ภาพที่หลายๆคนมักจะเห็นก็คงจะเป็นเรื่องของความยากลำบากในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะด้านการเดินทาง การมองเห็น การสื่อสารด้วยการฟังกับพูด และอีกมากมายแล้วถ้าให้ลองนึกภาพว่าถ้าคนพิการจากบ้านมาเรียนมหาวิทยาลัย ต้องรับผิดชอบดูแลตัวเองทั้งเรื่องเรียนและเรื่องการใช้ชีวิต พวกเขาจะใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยกันยังไง ต้องจ้างผู้ดูแลมาช่วยมั้ย หรือจะโดนบูลลี่จากสังคมเพื่อนหรือเปล่า มหาวิทยาลัยมีสวัสดิการอะไรให้บ้างบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับการเป็นนักศึกษาพิการในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านสายตาของ JustAOEI ที่เป็นนักศึกษาพิการทางการได้ยินและสื่อความหมายประเภทหูตึงค่ะ เกริ่นก่อนเลยว่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นมหาวิทยาลัยที่หลายๆคณะมีความเปิดกว้างในเรื่องของสภาพร่างกายที่ไม่ได้กระทบต่อการเรียนการสอนในคณะ ผู้พิการที่มีความรู้ความสามารถผ่านเกณฑ์ของคณะจึงสามารถเข้ามาเรียนได้เช่นเดียวกันกับคนทั่วไปโดยนักศึกษาพิการทุกคนในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการศึกษาและหอพัก หรือพูดง่ายๆคือไม่ต้องจ่ายค่าเทอมและค่าหอพักค่ะ แต่ต้องอยู่หอพักที่กำหนดถึงจะได้รับการยกเว้นค่าหอ คือหอ 3 หญิงซึ่งมีโซนห้องพักสำหรับนักศึกษาพิการ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกคือทางขึ้นห้องพักสำหรับนักศึกษาที่มีอุปสรรคในเรื่องของการเคลื่อนไหว เช่นคนที่นั่งวีลแชร์ หรือคนที่ใช้เครื่องค้ำยัน และใต้หอก็มีสำนักงานเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านการดูแลนักศึกษาพิการโดยเฉพาะคอยให้บริการด้วยนักศึกษาพิการทุกคนจะมีพี่เลี้ยงที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆอย่างใกล้ชิด 1 คนค่ะ ซึ่งใครจะได้พี่คนไหนก็ขึ้นอยู่กับประเภทของความพิการและโควตาที่พี่ผู้ดูแล 1 คนสามารถดูแลได้ เพราะพี่เลี้ยง 1 คนจะดูแลนักศึกษาพิการหลายคน โดยที่พี่เลี้ยงของเด็กหูอย่างเรา นอกจากคอยดูแลและให้คำปรึกษาในด้านต่างๆแล้ว ยังมีความสามารถในการเป็นล่ามภาษามือได้ด้วยในกรณีของเด็กหูที่ต้องใช้ภาษามือในการสื่อสารซึ่ง JustAOEI เป็นคนพิการหูตึงโดยกำเนิดค่ะ มีช่วงโทนเสียงที่ได้ยินชัดเจนค่อนข้างจำกัดโดยเฉพาะโทนเสียงสูง แยกเสียงหลายๆเสียงออกจากกันไม่ได้ถ้าให้เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายคือถ้าคนอื่นเห็นว่าสีเขียวมาจากน้ำเงินผสมเหลือง เราจะเห็นและเข้าใจแค่สีเขียว ไม่สามารถเข้าใจได้ว่ามาจากสีอะไรผสมอะไรเมื่อมีเสียงรบกวนเช่นการคุยกันข้างถนน ใต้แอร์ หรือในที่ที่คนพลุกพล่าน เราไม่สามารถแยกเสียงรบกวนออกจากเสียงของคู่สนทนาได้เลย เบาไปก็ไม่ได้ยิน เร็วไปก็ฟังไม่ทัน โทนเสียงที่ไม่คุ้นเช่นโทนเสียงของคนแปลกหน้าก็จะฟังไม่รู้เรื่อง ทำให้ต้องอ่านปากประกอบเสียงเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น โดยเรามีอุปกรณ์ช่วยคือเครื่องช่วยฟังรุ่นที่สามารถตั้งค่าให้ขยายเสียงเฉพาะในช่วงความถี่ที่ปกติเราไม่ได้ยิน ตัดเสียงรบกวน และเบาเสียงที่ดังเกินไปค่ะแต่ถึงอย่างนั้น ก็ลำบากอยู่ดีในการสื่อสาร โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เกิดโรคระบาดแบบทุกวันนี้ ทุกคนใส่หน้ากากอนามัยปิดปากกันหมด ทำให้การสื่อสารลำบากขึ้น 10 เท่าเลยค่ะ ก็ได้แต่ภาวนาให้เหตุการณ์นี้ผ่านไปเร็วๆ เราจะได้อ่านปากทุกคนได้เต็มที่ ซึ่งจากประสบการณ์ของผู้เขียนที่เป็นนักศึกษาหูตึง สิทธิแรกในมหาวิทยาลัยที่ได้ใช้คือการได้ทำข้อสอบพิเศษแทนการทำข้อสอบ listening ในวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน โดยที่ทุกเทอมของการเรียนการสอน ทางสำนักงานของมหาวิทยาลัยจะออกหนังสือสำหรับแจ้งอาจารย์ผู้สอนทุกวิชาให้เรานำไปยื่นให้อาจารย์ทราบถึงความพิการของเรา เพื่อที่อาจารย์จะได้รับรู้และเข้าใจว่าต้องสอนเรายังไง เพราะในหนังสือแจ้งจะระบุไว้ เช่นของเราจะระบุให้อาจารย์อยู่ในจุดที่เราสามารถอ่านปากอาจารย์ได้ เป็นต้น และอาจารย์จะทำเรื่องให้เราได้ทำข้อสอบพิเศษแยกจากคนอื่นๆในกรณีที่เป็นข้อสอบ listening เพื่อไม่ให้เกิดการเสียเปรียบในการทำข้อสอบ ส่วนความช่วยเหลือเรื่องถัดมาจะเป็นในส่วนของการให้บริการจัดหาครูสอนพิเศษมาติวให้ในวิชาที่ไม่ถนัดโดยนักศึกษาไม่เสียค่าใช้จ่ายในการติวเลยค่ะ มาในส่วนของการรีวิวชีวิตในการเรียนมหาวิทยาลัยร่วมกับคนหูดี สำหรับเราแล้วอาจจะมีปัญหาในเรื่องของการสื่อสารที่มีอุปสรรค แต่ว่าทุกคนต่างก็พยายามใจเย็นๆและพยายามพูดให้เราเข้าใจ อาจจะมีเหวี่ยงใส่บ้างในเวลาที่รีบๆแต่เราก็เข้าใจค่ะ เพราะเป็นเราก็คงมีหัวเสียบ้างแหละถ้าต้องพูดอะไรซ้ำไปซ้ำมา แต่หลักๆทุกคนจะไปในทางพยายามช่วยเหลือเวลาเราขอเสียมากกว่า ซึ่งปัญหาเรื่องของการกลั่นแกล้ง bully แบบในสื่อบันเทิงต่างๆเราไม่เจอเลยค่ะ และกิจกรรมต่างๆเช่นการเข้าเป็นสมาชิกชมรม ก็สามารถเข้าร่วมได้อย่างไม่มีการปิดกั้นใดๆเอ๊ะ ถ้าเด็กหูตึงได้ความช่วยเหลือแบบนี้ แล้วเด็กพิการทางด้านอื่นๆจะได้รับความช่วยเหลือแบบไหนนะเรามาไล่ไปทีละประเภทของความพิการกันเลยค่ะ 1. ถ้าเป็นนักศึกษาพิการทางการมองเห็น หรือที่จะเรียกกันสั้นๆในหน่วยงานว่าเด็กตา ทางมหาวิทยาลัยมีบริการให้ยืมเครื่อง mp3 เพื่อใช้ในการบันทึกเสียงที่อาจารย์สอนในคาบกลับไปทบทวน มีการผลิตหนังสือเรียนเป็นอักษรเบรลล์ให้ทั้งเล่ม2. ส่วนเด็กที่พิการทางด้านการเคลื่อนไหว หรือที่เรียกสั้นๆว่าเด็กร่างกาย ทางมหาวิทยาลัยก็มีให้บริการซ่อมและจัดหาอุปกรณ์ เช่นรถวีลแชร์ ไม้ค้ำยัน เป็นต้นทั้งเด็กตาและเด็กร่างกายที่ประสบความลำบากในการเดินทางไปตึกเรียน มหาวิทยาลัยก็มีรถไฟฟ้าไว้บริการนักศึกษาพิการทางด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักศึกษา3. ส่วนเด็กออทิสติก ทางมหาวิทยาลัยก็มีนักจิตวิทยาคอยดูแลพูดคุยอย่างใกล้ชิดค่ะ โดยรวมแล้วการเป็นเด็กนักศึกษาพิการในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ค่อนข้างเป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขมากๆเลย เพราะหลายๆคนในมหาวิทยาลัยต่างก็โตเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถรับรู้และเข้าใจในความแตกต่าง สามารถเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันและช่วยเหลือกันในแบบเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง เพราะพวกเขารู้ว่าคนพิการไม่ได้ต้องการความสงสารค่ะ เราต้องการความช่วยเหลือในบางเรื่อง ที่เหลือเราก็คือคนเท่าเทียมกัน ที่มาของรูปภาพ : ภาพปกโดย ALBERTO H. FABREGAS จาก Pixabay / ภาพประกอบที่ 1 โดย klimkin จาก Pixabay / ภาพประกอบที่ 2 โดย kalhh จาก Pixabay / ภาพประกอบที่ 3 โดย ALBERTO H. FABREGAS จาก Pixabay อัปเดตบทความไลฟ์สไตล์โดนๆ ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !