เนื่องจากดิฉันเป็นคนชอบทำขนมเบเกอรี่อยู่บ่อยๆ ดิฉันได้ค้นหาวิธีทำขนมเบเกอรี่ต่าง ๆ มาหัดทำอยู่เสมอ ในการทำขนมเบเกอรี่แต่ละชนิดมาทำนั้น ดิฉันจะปรับสูตรที่สำคัญก่อนคือในเรื่องของรสชาติ สิ่งแรกคือ ในเรื่องของรสชาติความหวาน ดิฉันจะลดสัดส่วนของน้ำตาล และดิฉันจะปรับเปลี่ยนวัตถุดิบ เน้นไปทางวัตุดิบที่มีผลดีต่อรางกายมากกว่า เช่น จากการแป้งขาว เป็นแป้งโฮลวีทแทน เป็นต้น ซึ่งดิฉันได้ทดลองทำหลาย ๆ ครั้ง โดยแบ่งให้คนอื่น ๆ ได้ลองชิม จนปรับสูตรจนเข้าที่เข้าทาง CREDIT PHOTO: OAT MEAL ก่อนที่ดิฉันจะเริ่มทำคุกกี้ Oat Meal ดิฉันได้ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของข้าวโอ๊ต ว่าข้าวโอ๊ตนั้นมีประโยชน์อย่างไร ประโยชน์ของข้าวโอ๊ตที่ดิฉันสนใจเป็นอันดับแรกเลยคือ ข้าวโอ๊ตสามารถช่วยในเรื่องการคุมน้ำหนักได้ , ลดคลอเลสเตอรอล , รักษาระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อีกมากมายค่ะ แต่ด้วยความที่ดิฉันเคยได้ทานข้าวโอ๊ตกับโยเกิร์ตมาก่อนหน้านี้ ต้องบอกเลยว่าดิฉันไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ของข้าวโอ๊ต ดิฉันเลยไม่ค่อยชอบในเรื่องของรสชาติของข้าวโอ๊ต แต่เมื่อพอมาถึงจุดที่เราต้องการคุมน้ำหนัก ดูแลสุขภาพเรามากขึ้น เราต้องหันมาทานสิ่งนี้ แล้วดิฉันก็คิดว่า เราจะสามารถนำข้าวโอ๊ตไปทำอะไรได้บ้าง ไอเดียของการเริ่มทำ คุกกี้ Oat Meal ก็ได้เริ่มขึ้นค่ะ CREDIT PHOTO: WHOLE WHEAT FLOUR ก่อนอื่นเราต้องเตรียมวัตถุดิบ ดังนี้ค่ะ 1. เนยสด 80 กรัม 2. ไข่ไก่ เบอร์ 1 จำนวน 2 ฟอง 3. แป้งโฮลวีท 100 กรัม 4. กลิ่นวนิลา 2/4 ช้อนโต๊ะ 5. ข้าวโอ๊ต 100 กรัม 6. Baking Soda 2 ช้อนโต๊ะ 7. อบเชยป่น 2/4 ช้อนโต๊ะ 8. น้ำตาล 70 กรัม 9. ช็อคโกแลตชิพ 30 กรัม 10. ลูกเกด 10 กรัม ( ใครอยากจะใส่ Topping อะไรใส่ได้ตามใจชอบเลยนะคะ) วิธีทำ *เปิดเตา วอร์มเตาก่อนทุกครั้งก่อนทำขนม ใช้ไฟอุณหภูมิ 180 องศา* 1. นำน้ำตาลและเนยสดตีจนเนื้อฟูนุ่ม ตีให้เข้ากัน (ใช้เครื่องตี) 2. จากนั้นนำไข่ไก่มาผสม ตีให้เนื้อเข้ากัน 3.เทแป้งโฮลวีท, กลิ่นวนิลา, Baking Soda และอบเชย ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จนเป็นเนื้อเดียวกัน 4. นำข้าวโอ๊ตมาเทกับส่วนผสมทั้งหมด คนส่วนผสมให้เข้ากัน 5.นำช็อคโกแลตชิพ และลูกเกด เทผสม และคนส่วนผสมให้เข้ากัน 6. เตรียมแม่พิมพ์คุกกี้ ตามใจชอบ หรือถาดหลุมสำหรับใส่คุกกี้ 7. เทส่วนผสมใส่แม่พิมพ์คุกกี้ นำเข้าเตาอบใช้เวลาประมาณ 20-25 นาที ( ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเตาแต่ละบ้านนะคะ) 8. เมื่ออบคุกกี้เสร็จแล้วนำมาพักไว้ให้เย็น 9. จากนั้นนำเก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด เก็บไว้ในอุณหภูมิห้องได้นานค่ะ ประมาณ 1 เดือน หากเก็บในตู้เย็นเก็บได้ถึง 2 เดือนค่ะ CREDIT PHOTO BY ผู้เขียน CREDIT PHOTO BY ผู้เขียน