ประวัติของเสื้อยูกาตะ(湯帷子) นั้น เดิมทีมีที่มาจากประเทศญี่ปุ่น และคำว่า 湯 (Yu) แปลว่าการอาบน้ำ และ 帷子(Katabira) ที่แปลว่า เสื้อผ้าที่ใส่ไว้สำหรับภายใน ซึ่งในสมัยก่อนขุนนางชั้นสูงจะสวมใส่ชุดนี้หลังจากอาบน้ำเสร็จเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง และต่อมาได้มีการแพร่หลายไปยังผู้คนต่างๆ ในหลายฐานะ ชุดยูกาตะนั้น จะแตกต่างกับชุดกิโมโนหลายอย่าง เช่น จำนวนชิ้นในการสวมใส่ของชุดยูกาตะจะน้อยกว่าชุดกิโมโนมาก ชุดยูกาตะค่อนข้างที่จะสวมใส่ง่าย แต่ถ้าเป็นชุดกิโมโน การสวมใส่ด้วยตัวเองเพียงคนเดียวจะมีความยากลำบากอยู่พอสมควร ลักษณะของชุดยูกาตะ : ยูกาตะจะมีลักษณะเป็นชุดผ้าฝ้ายตะเข็บตรง มีแขนกว้าง โดยชุดยูกาตะของผู้ชายจะมีแขนเสื้อสั้นกว่าของผู้หญิง ตามธรรมเนียมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นนั้น ชุดยูกาตะจะเป็นผ้าฝ้ายสีน้ำเงิน แต่ปัจจุบันนี้ได้มีการออกแบบสีสันและลวดลายเพื่อให้เข้ากับยุคสมัย เสื้อยูกาตะ เป็นเสื้อที่ได้รับความนิยมมากในช่วงฤดูหนาวของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสามารถกันหนาวได้พอสมควรและสามารถกันร้อนได้ สวมใส่สบาย ไม่ว่าท่านจะใส่อยู่บ้านหรือไปทำงาน และยังเหมาะกับทุกเพศทุกวัยอีกด้วย หลายจังหวัดทางภาคเหนือปัจจุบันนี้ ก็ได้รับวัฒนธรรมบางส่วนของเสื้อยูกาตะมาปรับใช้ให้เข้ากับการแต่งตัว เพราะวัยรุ่นหนุ่มสาวมักจะหาแฟชั่นอะไรใหม่ๆมาสวมใส่ และชุดยูกาตะนั้น ก็เป็นสิ่งที่วัยรุ่นมีความนิยมกันมาก เพราะการออกแบบผ้ามีความทันสมัย มีสีสันให้เลือกหลากหลาย และยังสามารถซื้อเป็นของฝากให้กับคนในครอบครัวและเพื่อนๆได้อีกด้วย สำหรับฤดูหนาวที่กำลังผ่านเข้ามานี้ ชุดยูกาตะก็เป็นแฟชั่นอีกหนึ่งสไตล์ที่สามารถหาซื้อได้ง่ายและราคาถูก โดยสามารถหาได้ทั่วไปจากอินเตอร์เน็ตและร้านขายเสื้อผ้าในจังหวัดเชียงใหม่ สุดท้ายนี้ อย่าลืมไปเที่ยวต้อนรับลมหนาวกันนะครับ :)