บทความนี้ผมเขียนก่อนเกมที่หงส์แดงจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของจ่าฝูงอาร์เซนอล แต่ก็เขียนหลังเกมที่ทั้งแมนยู นิวคาสเซิลและสเปอรส์ต่างก็มีชัยชนะด้วยกันทั้งสิ้น ทำให้ก่อนแข่งคืนนี้หงส์แดงจะมีแต้มตามพื้นที่ท้อปโฟร์อยู่ 13 แต้ม หากชนะอาร์เซนอลได้ก็อาจจะเหลือ 10 แต้ม ขณะที่หากแพ้ ก็จะห่าง 13 แต้มและแข่งมากกว่าทั้งนิวคาสเซิลและแมนยู 1 เกมหากท็อปโฟร์คือเป้าหมาย ก็ต้องบอกว่าด้วยเวลา ระยะทาง และความพร้อมของพาหนะ การจะเข้าเป้าหมายได้นั้นคงยากมาก ๆ หากเป็นผู้ป่วย ก็คงประเภทหยอดน้ำข้าวต้มรอแล้ว ถ้าพูดกันตรง ๆ การลุ้นอันดับที่ 5 เพื่อไปเล่นยูโรป้าลีกยังดูจะมีความหวังเล็ก ๆ มากเสียกว่าสถานการณ์ต่างจากปี 2020-2021หงส์แดงเคยทำได้แล้ว อาจจะกำลังทำยู่ และคงต้องทำต่อไป จนกว่าในเชิงทฤษฎีมันจะเป็นสูญ ในแง่ของความเป็นไปได้ ลิเวอร์พูลในปีนี้ยังมีโอกาสติดท้อปโฟร์เหมือนปี 2020-2021 ที่ 10 เกมสุดท้ายหงส์แดงชนะ 8 เสมอ 2 จากที่อยู่อันดับ 8 ก็สามารถจบอันดับ 3 ได้ย้อนกลับไปในปี 2020-2021 หลังเล่นไป 28 เกม หงส์แดงชนะ 12 เสมอ 7 และแพ้ 9 เกม มี 43 แต้ม มันคือผลงานที่เท่ากับปีนี้แบบเปะ ๆ เลย และปีนั้นหงส์แดงสามารถจบอันดับสามได้ด้วยคะแนน 69 คะแนน คำถามคือ ในสถานการณ์เดียวกันนี้ ฤดูกาลนี้หงส์แดงจะสามารถทำได้หรือไม่ภาพจาก Facebook/ Liverpool FC คำตอบคือยากกว่ามาก ต่อให้เก็บได้ 69 แต้มเท่าปี 2020-2021 ก็อาจจะยังไม่พอให้ทีมจบอันดับ 4 ในฤดูกาล เนื่องจากสถานการณ์การลุ้นแชมป์ในปีนั้นกับปีนี้ต่างกันมาก ตอนนั้นแข่งไป 28 เกม เราตามพื้นที่ท้อปโฟร์อยู่ 7 แต้ม แต่ปีนี้อาจจะตาม 10-13 แต้มในความหมายหนึ่งคือ สถานการณ์มันไม่อยู่ในมือของหงส์แดงแล้ว ต่อให้ชนะอีก 10 นัดที่เหลือ หงส์แดงก็อาจจะไม่ติดท็อปโฟร์ เพราะหงส์แดงต้องแช่งให้นิวคาสเซิลองแพ้มากกว่า 3 นัด ลิเวอร์พูลจึงจะมีโอกาส แค่มีโอกาสนะครับ ที่สำคัญคือ หงส์แดงไม่มีเกมที่จะต้องเจอกับนิวคาสเซิลหรือแมนยูแล้ว โอกาสจะตัดแต้มกันเองก็น้อยลงมากตัวเลขกับความเป็นจริงลิเวอร์พูลต้องชนะเกมที่เหลือทั้งหมด โดยต้องหวังให้ทีมอื่น ๆ ที่อยู่ด้านบนของตัวเองพลาดกันระเนระนาดเช่นกัน เพราะไม่ใช่แค่นิวคาสเซิลหรือแมนยู แต่ยังมีสเปอร์ส แอสตัน วิลล่า และไบร์ทตันขวางทางอยู่เบื้องหน้า พวกเขาไม่ได้ตั้งเป้าไปท็อปโฟร์ก็จริง แต่พวกเขาจะสู้เพื่อเวทียุโรปแน่ ๆ ไม่ว่า ยูโรป้าลีก หรือ คอนเฟอเร้นซ์ลีก ก็ตามเอาละในทางคณิตศาสตร์มันเป็นไปได้ แต่ในความเป็นจริงมันคงยาก จาก 3 ปัจจัยที่ผมวิเคราะห์ ปัจจัยแรกคือ ฟอร์มการเล่นของหงส์แดงที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ โดยเฉพาะในเกมเยือน ปีนี้หงส์แดงเล่นเกมเยือนไปแล้ว 15 เกม ชนะได้แค่ 3 เกม เสมอไป 4 เกม และแพ้ไปมากกว่า 8 เกมภาพจาก Facebook/ Liverpool FCหากนับตารางคะแนนเฉพาะเกมเยือน หงส์แดงจะหลุดลงไปอยู่อันดับที่ 12-13 ของตารางเลยดีเดียว เก็บแต้มจากการเป็นทีมเยือนได้น้อยกว่าทีมบ๊วยอย่างเซาแธมป์ตันเสียอีก มีผลประตูได้เสียติดลบในเกมเยือนถึง 10 ลูก และหงส์แดงยังเหลือเกมเยือนให้เล่นอีกตั้ง 4 เกม โดนจะเจอกับทีมจากโซนหนีตกชั้นทั้งนั้น ทั้งลีสด์, เวสต์แฮม, เลสเตอร์ และ เซาแธมป์ตัน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามันจะยากขนาดไหนปัจจัยที่สองคือ นักเตะเริ่มถอดใจกันแล้ว เหมือนกับว่าพวกเขาได้ทุ่มเทใจทั้งหมดไปที่เกมชนะแมนยู 7-0 ก็พอ และนั่นอาจจะเป็นเป้าหมายสุดท้ายที่พวกเขาบรรลุไปแล้ว หลังจากนั้นมา ก็แพ้ 2 และเสมอ 1 เกม เก็บได้แค่ 1 แต้มจาก 9 แต้ม แต่นี่ก็ยังไม่เท่ากับปัจจัยที่สามคือ แม้แต่คล็อปป์เองก็ถอดใจแล้วว่า การลุ้นท็อปโฟร์ของทีมมันจบลงแล้ว และคงเป็นไปไม่ได้ ด้วยปัจจัยทั้งสามนี้ โอกาสที่หงส์แดงจะคว้าอันดับที่ 4 ได้จึงยากมากแสงริบหรี่และตัวแปรที่ชื่อสเปอร์ในฐานะแฟนบอลเราคงไม่อยากเชียร์ทีมใน 11 เกมที่เหลือโดนไม่มีอะไรลุ้น ในปี 2020-2021 นั้นสถานการณ์เรื่องฟอร์มการเล่นของหงส์แดงเองก็หนักหนากว่านี้เยอะ หากยังจำกันได้ตอนนั้นหงส์แดงแพ้ในบ้านมาต่อเนื่องกัน 6 เกม ผลงานโดยภาพรวม 10 เกมก่อนเกมที่ 29 (เกมที่ 19-28) ลิเวอร์พูลแพ้ถึง 7 เกมและชนะได้แค่ 3 เกมเท่านั้น แต่ปีนี้ 10 เกมก่อนหน้า หงส์แดงแพ้เพียง 3 เกม ชนะ 4 เสมอ 3 เรียกว่าปีนั้นอาการหนักกว่านี้เยอะลิเวอร์พูลกำลังจะได้นักเตะตัวหลักของทีมทั้งติอาโกละดิอาชกลับมาลงสนามในช่วงโค้งสุดท้าย ก็อาจจะมาช่วยเรื่องผลงานของทีมให้ นิ่ง ขึ้น ก็ได้ และโปรแกรมแข่งของหงส์แดงที่เหลือ นอกจากอาร์เซนอลกับสเปอร์ส แล้ว ทีมอื่น ๆ หงส์แดงก็สามารถชนะได้ทั้งหมดตีซะว่าหงส์แดงทำได้ในระดับเดียวกับปี 2020-2021 คือชนะ 8 เสมอ 2 ก็จะจบด้วย 69 คะแนนเท่าเดิม คะแนนเท่านี้อาจจะดีพอให้หงส์แดงติดท็อปโฟร์ก็ได้ หากสเปอร์ส ที่เป็นตัวแปรสำคัญของโค้งสุดท้ายนี้หากกางตารางการแข่งขันของสเปอร์ พวกเขามีโปรแกรมต้องเจอกับนิวคาศเซิล, แมนยู และต่อด้วยลิเวอร์พูล เป็นสามเกมติดกัน ในกรณีที่ดีสุดคือ สเปอร์สเอาชนะได้ทั้งนิวคาสเซิลและแมนยู แต่แพ้ลิเวอร์พูล นั่นหมายความว่าสเปอร์สจะช่วยตัดแต้มทีมอันดับสามและสี่ให้หงส์แดงภาพจาก Facebook / Liverpool FCฉากจบที่หงส์ต้องการตอนนี้นิวคาสเซิลกับแมนยูมี 56 แต้มเท่ากัน หมายความว่าหากหงส์แดงจะเข้าป้ายที่ 4 จะต้องเบียดทีมใดทีมหนึ่งลง และนิวคาสเซิล (เหลือ 9 เกม มี 56 แต้ม) ก็ดูจะเป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้มากที่สุดของหงส์แดง แม้จะไม่ต้องเจอกับหงส์แดงแล้ว แต่ 9 เกมที่เหลือ พวกเขาต้องเจอทั้ง สเปอร์ส, อาร์เซนอล และเชลซีและต้องเจอกับทีมหนีตกชั้นอื่น ๆ ทั้งเลสเตอร์, เอฟเวอร์ตัน, ลีดส์ และ เซาแธมป์ตันด้วย หงส์แดงต้องคาดหวังให้ 3 ทีมใหญ่ชนะนิวคาศเซิลให้ได้ และหวังให้สดุดกับอีกสัก 2 ทีมที่หนีตกชั้น นิวคาศเซิลต้องเก็บแต้มได้ไม่เกิน 13 แต้ม (รวมไม่เกิน 69 แต้ม) พวกเขาต้องแพ้ 3 เสมอ 3 ชนะ 3 ก็จะเก็บเพิ่มอีก 12 คะแนน บวกกับ 56 แต้มตอนนี้จะมี 68 แต้มเช่นกันกับสเปอร์ส ตอนนี้พวกเขาแข่งมากกว่าหงส์แดง 2 เกม มีเกมในมืออีก 8 เกม มี 53 แต้ม พวกเขาต้องเก็บแต้มได้ไม่เกิน 16 แต้ม นอกจากภารกิจที่ต้องชนะอาร์เซนอลกับแมนยูและต้องแพ้หงส์แดงแล้วที่เหลืออีก 5 เกม พวกเขาก็ไม่เจอโปรแกรมหนักมาก แต่เป็นเกมกับทีมหนีตกชั้นและทีมที่ลุ้นพื้นที่ยุโรปด้วยกันเอง สิ่งที่ลิเวอร์พูลอยากเห็นจากสเปอร์สคือชนะ 4 เสมอ 3 แพ้ 1 จะเก็บเพิ่ม 15 แต้มมี 68 แต้มภาพจาก Facebook / Liverpool FCในกรณีของแมนยูพวกเขามีโอกาสดีที่จะติดท้อปโฟร์ค่อนข้างสูง จากผลงานและขุมกำลังหลักที่กำลังจะกลับมาช่วยทีมได้ทั้งอีริคเซ่น , กาเซมิโร่ แต่จากการที่พวกเขาเพิ่งเสียแรชฟอร์ดไปจากเกมชนะเอฟเวอร์ตัน และการมีโปรแกรมแข่ง ยูโรป้าอีก อาจจะทำให้พวกเขาต้องมีการโรเตชั่นนักเตะ ซึ่งอาจจะมีผลต่อการลุ้นแย่งอันดับ 4 ในช่วงท้าย ๆ ก็ได้แน่นอนว่าหากให้เด็กหงส์เลือกได้ การแย่งอันดับ 4 จากคู่แค้นแสนรักมาได้ คงจะเป็นความสำเร็จที่ชื่นใจไม่น้อย แต่นั่นก็มีโอกาสน้อยมากเมื่อเทียบกับการเบียดนิวคาสเซิลกับสเปอร์ส ที่โอกาสก็ยากเต็มทีเหมือนกันผมเขียนบทความนี้ก่อนเกมกับอาร์เซนอล และผมคิดว่ากว่าที่ทุกคนจะได้อ่านงานนี้ ก็คงรู้ผลระหว่างหงส์แดงกับอาร์เซนอลแล้ว หากหงส์แดงแพ้จ่าฝูงก็ถือว่าเป็นการตอกเสาเข็มตัวเองไปได้เลย แต่หากหงส์แดงชนะอาร์เซนอลได้ มันก็เพียงพอแค่ยังลอยคอหายใจได้ จนกว่า สถานการณ์ของทีมอื่น ๆ จะเอื้ออำนวยนั่นแหละ...เครดิตภาพFacebook Liverpool FCภาพปก Liverpool FCภาพประกอบ Liverpool FC, Liverpool FC, Liverpool FC, Liverpool FC ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !