อยากไปเที่ยวจังเลยคุณขา! หมด COVID19 กันเมื่อไหร่ หลายๆคนคงจะแพลนไว้ล่วงหน้าแล้วว่า "ฉันต้องได้เที่ยว" ใครอยากไปปลดปล่อยหัวใจ อยากไป "ล่องไพร" แต่ก็กลัวลำบาก ใจนึงก็อยากจะไปมโนชีวิตว่าเป็นคุณหญิงดาริน ในเพชรพระอุมา มารอพบพรานรพิณอยู่แคมป์ (หรู) กลางป่า ได้หัดขี่ช้าง ทำสปา มาค่ะมา วันนี้พี่เองจะมาเล่าสู่กันฟังกับประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ พักผ่อนสไตล์ "Glamping" หรูสุดๆของเมืองไทย มาลองสัมผัสประสบการณ์กลางไพร ณ โฟร์ ซีซันส์ เต็นท์ แคมป์ สามเหลี่ยมทองคำ จังหวัดเชียงราย เผื่อจะได้เป็นไอเดียสำหรับทริปหน้า ให้คุณๆ รอCOVID19 ปิดวิกเลิกฉายเมื่อไหร่ไว้ไปเที่ยวพักผ่อนกันนะคุณนะ (พี่ว่าเค้าต้องมีโปรฯไทยเที่ยวไทยกันไวๆนี้แน่นอนคุณ เพื่อเป็นการรีบูทการท่องเที่ยว เกาะหน้าwebของโรงแรมไว้ดีดี รอดูอัพเดทกันนะจ๊ะ) https://www.fourseasons.com/goldentriangle/ การจองและค่าใช้จ่าย: พี่ไปช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา - พี่เลือกแพคเกจ TWO-NIGHT ADVENTURE PACKAGE แพคเกจรวมที่พัก รถรับส่งจากสนามบิน พร้อมอาหาร เครื่องดื่ม (รวมแอลกอฮอล์) มีกิจกรรมต่างๆ (รวมสปาด้วยคุณ) แถมมินิบาร์ในห้องพักทั้งหลายนี่ก็รวม ไม่ต้องออกไปไหนกันแล้วคุณ แฮปปี้มาก! ไปคนเดียว(แบบพี่)ก็จะเปลี่ยวๆหน่อย ใครจะพาหวานใจไปอันนี้พี่รับรองค่ะ สวีทมดขึ้นป่าแน่นอน! 1. เริ่มต้นความเอ็กซ์คลูซีฟกับพาหนะเร้าใจ เข้ากับตีมล่องไพรสุดๆไปเลย! มาถึงสนามบินเชียงรายปุ๊บ คุณพนักงานขับรถก็มายืนรอรับเราปั๊บ ลิมูซีนของรีสอร์ทจะพาเรามุ่งสู่สามเหลี่ยมทองคำ เหนือสุดยอดแดนสยาม รถลิมูซีนหรูดูดีมีความไฮโซ มีน้ำดื่มผ้าเย็นไว้คอยบริการ จะชาร์ตแบตฯมือถือหรือจะต่อไวไฟก็ย่อมได้ นั่งสบายๆราว 45 นาทีก็จะถึงจุดถ่ายรูปยอดนิยมอมตะนิรันด์กาลของนักท่องเที่ยว สุดเขตแดนสยาม "สามเหลี่ยมทองคำ" น้องพนักงานจากทางรีสอร์ทจะมารับไม้ต่อจากคุณคนขับรถ แนะนำตัวเสร็จสรรพก็จะพาเราไปลงเรือท้องแบนหางยาวล่องตามลำน้ำโขงไปสู่ที่ตั้งของรีสอร์ทที่อยู่เหนือโค้งน้ำเงียบสงบ พี่นั่งเรือรับลมชิลล์ชิลล์ราวๆ 5 นาทีก็จะมาตีนบันไดทางขึ้นถึงรีสอร์ทที่หรูสุดแพงสุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย โฟร์ ซีซันส์ เต็นท์ แคมป์ สามเหลี่ยมทองคำ, จังหวัดเชียงรายนั่นเอง! (Four Seasons Tented Camp Golden Triangle) (ปล. ใครไม่อยากนั่งเรือ เค้าก็มีทางรถเข้าถึงเหมือนกันจ๊ะ แต่แหม มาทั้งทีแล้ว ต้องล่องเรือสิคุณ ได้รสชาติ!) มาถึงก็รับ Welcome Drink เย็นๆชื่นใจกันก่อน Camp Host ของเรา (หรือก็คือผู้จัดการรีสอร์ทนั่นแหละจ้า) ก็จะมาแนะนำตัว บอกกล่าวโปรแกรมในแต่ละวัน ที่ดีงามไปกว่านั้นก็คือบรรยากาศยามเย็นเหนือโค้งน้ำอย่างนี้ ถ้าไม่ติดว่าอยากเห็นหน้าตาเต๊นท์สุดหรูกลางป่าที่เขาโฆษณานักหนาว่า "หรู" สุด ก็อยากจะนั่งอยู่ตรงนี้ไปจนพระอาทิตย์ตกดินเหมือนกันล่ะคุณ ยานพาหนะถัดไปของเรา ตอนแรกนึกว่าจะให้นั่งช้างไปที่ห้องเสียอีก อิอิ! เค้าพาเราไปนั่งรถจี๊ป ดูมีความเอ็กซ์ตรีมสมกับตีมล่องไพรเป็นอย่างยิ่ง รถจี๊ปประจำตำแหน่ง เป็นเหมือนรถ Shuttle Service ที่เราสามารถเรียกใช้ได้ตลอดเวลา แต่ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ พี่ใช้เดินเอาตลอดเลย ด้วยทางที่เค้าทำเป็นทางเดินลดเลี้ยวตามเนินเขาในป่า อากาศดีดี เสียงนกร้องจิ๊บจั๊บธรรมชาติสุดๆ สรุปได้ใช้บริการสารถีรถจี๊ปแค่รอบเดียวตอนเช็คอินเท่านั้นเองจ้า เจ้ารถนี่เค้ามีโปรแกรมพาไปเที่ยวรอบนอกด้วยนะ ใครอยากจะเที่ยวหมู่บ้านชาวเขา หรือสามเหลี่ยมทองคำ หรือจะข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเค้าก็มีบริการ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) สามารถติดต่อกับทางรีสอร์ท หรือแจ้ง Camp Host ได้เลยจ้ะ ดูมีความล่องไพรดีเนอะ นี่พี่ก็มโนไปว่าเป็นคุณหญิงดาริน นั่งรถจะไปห้างส่องสัตว์กับไชยยันต์และมาเรีย! (ใครแฟนเพชรพระอุมาคงจะเข้าใจพี่) 2. ที่พักสุดเอ็กซ์คลูซีฟแบบเต๊นท์กลางป่าแต่สเกลความหรูหราระดับโรงแรม5 ดาว! ด้วยความที่ที่พักเป็นเต๊นท์ถาวรที่ถูกปลูกสร้างอยู่ตามเนินเขากลางป่า ฉะนั้นหนทางเดียวที่จะเข้าสู่ประตูห้องพักของท่านได้คือด้วยการเดิน! ออกกำลังไปในตัว พอได้หนึ่งยกหายใจเข้าลึกๆหายใจออกยาวๆ แต่พอเปิดประตูเข้าไปเท่านั้นแหละคุณ...หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เต๊นท์ที่พี่พักเป็น Superior Tent หมายเลข 7 The Opium Tent. อลังการงานสร้างมากคุณเอ๊ย! เข้าห้องพักแล้วจะไม่อยากออกไปไหนกันเลยทีเดียวค่ะคุณ เตียงใหญ่นอนสบายมีเมนูหมอนผ้าห่มผ้าปูให้เลือกก่อนเช็คอิน ใส่ใจสุดๆ มีอ่างน้ำกลางบ้าน กลางวันดูสวยดีกลางคืนมีแอบเกะกะเวลาจะเดินไปเข้าห้องน้ำอยู่บ้าง แต่ไม่เป็นไร ถ่ายรูปสวย อภัยให้ ถ้าเป็น Deluxe Tent เค้าจะมีอ่างให้ตรงระเบียงด้านนอกด้วยคุณ! ห้องสุขาจะอยู่ภายในเต๊นท์ เข้าออกก็ใช้รูดซิปสองชั้นเอาคุณ Shower แบบ Open Air นะคุณ แนะนำอาบน้ำก่อนพระอาทิตย์ตกจะดีที่สุดเพราะลองอาบตอนกลางคืนแล้วมันวิเวกวังเวงเบาๆยังไงก็ไม่รู้สิ พี่เลือกแพคเกจ TWO-NIGHT ADVENTURE PACKAGE เค้ารวมที่พัก พร้อมรวมอาหาร เครื่องดื่ม (รวมแอลกอฮอล์) มีกิจกรรมต่างๆ (รวมสปาด้วยคุณ) แถมมินิบาร์นี่ก็รวม เหล้าเอยไวน์เอย น้ำผลไม้ โซดา น้ำซ่ากระป๋องต่างๆ กาแฟ ชา ขนมกรุบ รวมหมดในแพคเกจแล้วคุณ ไม่ต้องออกไปไหนกันแล้ว แฮปปี้มาก! ชงเครื่องดื่มเย็นๆ หรือจะชากาแฟมานั่งจิบริมระเบียงนอกเต๊นท์ ฟังเสียงป่า เสียงธรรมชาตื (นานๆทีมีเสียงพี่ช้างเล่นน้ำกันด้วยคุณ) เพลินมาก แบตเตอรี่ชีวิตชาร์จเต็มสิบมากคุณ 3. อาหารเครื่องดื่มสุดอลังการ สั่งได้ไม่อั้นกันไปเลยคุณขา! อาหารการกินที่นี่ไม่เป็นรองใคร อาหารสามมื้อกินดีอยู่ดี เครื่องดื่มก็เช่นกัน! อยู่กับเค้าสามวัน ซัดcocktailsที่เป็นsignature ของเค้าทุกวัน! อาหารเช้าเบาๆ จะรับที่ห้องอาหารหรือจะจัด Room Serviceมารับประทานที่ระเบียงเต๊นท์ก็ย่อมได้ เมนูมีหลากหลายให้เลือก แต่พี่เน้นอาหารไทย สั่งRoom Service สำหรับอาหารกลางวันมาลองดูก็ถือว่าใช้ได้จัดมาน่ารักน่าเอ็นดู (เห็นกระจุ๋มกระจิ๋มแต่อิ่มมากค่ะคุณ) อันนี้ที่เด็ดสุด!!!! คือนอกจากเค้าจะรวม Wine & Cheese tasting ที่ Wine cellar ของรีสอร์ทแล้วเนี่ย เค้ายังรวม Sundowners ที่ Burma Bar ทุกวันอีกด้วย จิบค๊อกเทล หรือไวน์ (หรือจะเบียร์!) พร้อมชมพระอาทิตย์ตกน้ำ มีอาหารว่างขบเคี้ยวเบาๆเพลินๆแบบไม่อั้นเนี่ย... บางคืนพี่ถึงกับไม่กินข้าวเย็นเลยจ๊ะ Sundowners กับเค้าจนบาร์ปิดไปเลย ฮ่าๆๆ (สรุปพี่แฮปปี้กับเครื่องดื่มมากกว่าอาหารนะคุณ อาหารพี่เฉยๆ แต่เครื่องดื่มนี่ให้10คะแนน) 4. สัมผัสประสบการณ์สปากลางไพร เป็นส่วนตัวและเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ หนึ่งในเซอร์วิสที่รวมมาในแพคเกจก็คือ "สปา" คุณเอ๊ย.. สปาของ Four Seasons นี่ก็นับว่าขึ้นชื่อ ยิ่งมาอยู่ในโลเคชั่นกลางป่าวนาลีแบบนี้ ประสบการณ์ดีดีในชีวิตจริงๆคุณ! หรือถ้าใครไม่อยากไปนุ่งลมห่มฟ้า เขินเจ้าป่าเจ้าเขา ทางรีสอร์ทก็สามารถจัดสปามาบริการที่เต๊นท์พักได้เช่นกันค่ะคุณ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการมาจัดที่เต๊นท์พักค่ะ (ในแพคเกจจะรวมแค่ 1 สปาแพคเกจ สามารถจองแพคเกจสปาเพิ่มได้ที่รีสอร์ทค่ะ) 5. สัมผัสประสบการณ์ใกล้ชิด "เพื่อนรักตัวโต" สุดใจดี กับกิจกรรมที่เฟรนด์ลี่แบบ encounter กับพี่ช้าง ประสบการณ์ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ที่สุดของการได้มาพักที่ Four Seasons Tented Camp Golden Triangle ก็คือกิจกรรมการได้ลองเป็นคนเลี้ยงช้าง! ชุดคนเลี้ยงช้างเค้าก็มีเตรียมไว้ให้จ้า สนใจอยากได้กลับบ้านเป็นที่ระลึกเค้าก็มีขายนะคุณ กิจกรรมแรกเช้ามาประเดิมด้วยการรับประทานอาหารเช้า โดยมีพี่ๆช้างเค้ามาร่วมกินข้าวด้วย ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่บนโต๊ะเดียวกันค่ะคุณ เค้าจะมีจุดให้ป้อนอาหารพี่ๆเค้าใกล้ๆกับห้องอาหารที่เราลงมารับประทานข้าวเช้าจ้า ข้าวเราก็ข้าวเราข้าวพี่เค้าก็คือข้าวพี่เค้า โอเคนะ แยกกัน ฮ่าๆๆ กิจกรรมครึ่งวันที่รวมในแพคเกจ ชื่อว่าโปรแกรม MY ELEPHANT & I พี่เลี้ยงช้างผู้เชียวชาญและมากไปด้วยอารมณ์ขันจะสอนเราถึงวิธีการสื่อสารกับพี่ช้างเบื้องต้นง่ายๆ ประทับใจสุดๆคือความฉลาดของพี่ช้างที่ฟังภาษาคนอย่างเราได้อย่างรู้เรื่องที่สุด ความเป็นมิตร อ่อนโยน และฉลาด พี่ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชาวต่างชาติ (รวมถึงคนไทยด้วยคุณ) ถึงตกหลุมรักเจ้าเพื่อนสี่ขาตัวเท่าสิบล้อจนถึงขั้นหอบผ้าหอบผ่อนย้ายบ้านมาอยู่กับช้างตั้งหลายคน กิจกรรมนี้ยังรวมไปถึงการอาบน้ำช้างและการขี่ช้างเบื้องต้น (ฮ่าๆๆ) แต่ตัวพี่เองไม่ค่อยพิศมัย (และไม่สนับสนุน) การขึ้นไปขี่หลังใครเลยอาสาเดินตามพี่ช้างเค้าไปเฉยๆสบายใจกว่า นอกจากโปรแกรมในแพคเกจที่เค้ารวมมาให้แล้ว เรายังสามารถเลือกได้อีกว่าเราอยากจะจองอะไรเพิ่ม สามารถแจ้งทาง Camp Host ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น Spa, Cooking Class, ทัวร์ครึ่งวัน หรือ เต็มวัน ในพื้นที่รอบๆ แถมทาง Four Seasons เค้ายังมีโครงการ "รับช้างไปเลี้ยง" ไม่ได้ให้เอากลับไปเลี้ยงที่บ้านนะจ๊ะ แต่เราสามารถอุปการะช้างที่ทางรีสอร์ทได้ไปช่วยเหลือมาจากการเป็นช้างเดินเร่ตามข้างถนน 10 เชือก เราสามารถส่งเสียเลี้ยงดูพวกพี่ๆเขาด้วยการบริจาคเป็นรายเดือนให้กับ โครงการ Golden Triangle Asian Elephant Foundation (GTAEF) สนใจรายละเอียดติดต่อได้ที่ อีเมล: camphost.chr@fourseasons.com เลยนะคุณนะ อ่านมาจนจบครบ 5 ข้อกันแล้ว อยากไปแล้วสินะทีนี้! รอ COVID19 หมดฤทธิ์กันก่อนเถอะนะ แล้วอย่าลืมถ้าคราวหน้าจะไปเที่ยวเชียงรายฝาก Four Seasons Tented Camp Golden Triangle ไว้เป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่งนะจ๊ะ. ไม่ได้ไปพักไม่เป็นไร เข้าไปใช้บริการห้องอาหาร จิบเครื่องดื่ม หรือ จะไปใช้บริการสปาก็ได้นะจ๊ะ ทางรีสอร์ทยินดีต้อนรับ (โทรถาม/จองล่วงหน้า) ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่ https://www.fourseasons.com/goldentriangle/ หรือ โทรศัพท์ 053-910200 ได้เลยจ้า Location: Four Seasons Tented Camp Golden Triangle จังหวัดเชียงราย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 053-910200 และ www.fourseasons.com/goldentriangle *ภาพถ่ายโดยผู้เขียน WillWorkforTravel