ทุกวันนี้ในประเทศไทยแถบจะทุกวงการเลยก็ว่าได้ มีผู้ที่ทำหน้าที่บรรยาย ให้แนะนำ หรือถ่ายทอดความรู้ในศาสตร์นั้นๆ ที่ตัวเองพอจะมีทักษะ ความรู้ ความสามารถ (KSA) มักใช้สรรพนามนำหน้าแทนตัวเองว่า "โค้ช" ยกตัวอย่างเช่น นาย A เป็นเทรนเนอร์อยู่ในฟิตเนส ก็จะแทนตัวเองว่า "โค้ช A" นาย B ชอบออกกำลังกาย ทานอาหารคลีน เวลาแนะนำการออกกำลังการหรือการอาหารคลีนลงใน YouTube ก็จะแทนตัวเองว่า "โค้ช B" เป็นต้น จะก่อเกิดเป็นเทรน "โค้ช" แทบจะทุกสายอาชีพ (ใครไม่ใช้คำว่า "โค้ช" นำหน้าเหมือนจะเชยหรือตกเทรนไปเลยก็ว่าได้) แต่ไม่ว่าเขาจะเรียกหรือแทนสรรพนามตัวเองว่าอะไร สุดท้ายแล้วมันก็ความต้องการและพอพอใจส่วนบุคคลนะครับสืบเนื่องจากกระแสดราม่าในโลกออนไลน์ ในกรณีการออกมาโจมตี YouTuber ที่เป็นอดีตนายตำรวจ ยังรวมไปถึงนักเขียนนิยายชื่อดังต่างประเทศที่ได้ออกมาโพลสวิจารณ์ถึงศาสตร์เกี่ยวกับ Life Coach จนทำให้เกิดเป็นกระแสแฮชแท็กยอดฮิตติดทุกแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาLife Coach คือใคร ?Life Coach คือ เพื่อนร่วมเดินทาง ผู้ที่มีความปราถนาดีในการพาให้โค้ชชี่ (ผู้ถูกโค้ช) ไปข้างหน้า ช่วยให้คนอื่นมีความสุข ความสำเร็จเกิดขึ้น หรือปลดล๊อดบางสิ่งบางอย่างที่ติดกับดักอยู่ในใจได้ ผ่านการพูดคุย การถามเพื่อให้โค้ชชี่ (ผู้ถูกโค้ช) เกิดการหาคำตอบได้ด้วยตัวของเขาเองจิตตั้งต้น (Mindset) ของ Life Coachเนื่องจาก Life Coach เปรียบเสมือนเพื่อนร่วมเดินทางฯ ฉะนั้น Mindset พื้นฐานสำคัญอย่างยิ่งของคนที่เป็น Life Coach ต้องยึดมั่นและมีความเชื่อเกี่ยวกับมนุษย์โดยดำรงตนอยู่บนหลักการ 4 ข้อ ดังนี้ เชื่อในศักยภาพของคน คนเป็นได้มากกว่าที่เราเห็น / เข้าเป็น มนุษย์ทำได้ดีที่สุดแล้วด้วยทรัพยากรและข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนั้นจงมีความยืดยุ่นของพฤติกรรม (ทุกคนเปลี่ยนแปลงได้)ไม่มีล้มเหลว มีเพียง Feedback ให้เราได้เรียนรู้ (ให้เราได้ปรับปรุง)" People are not their Behaviors " ใครๆ ก็เป็น Life Coach ได้ และสังคมเราจะน่าอยู่มากขึ้น หากเราทุกคนมีความเชื่อเกี่ยวกับจิตตั้งต้น (Mindset) 4 ข้อนี้ คุณสมบัติของ Life Coachการที่เราจะเข้าพฤติกรรมมนุษย์สักคน ว่าที่เขาเป็นแบบนี้ แบบนั้น ชีวิตเขามาถึงจุดที่ยืนอยู่ทุกวันนี้ได้อย่างไร ซึ่งเราชาว Life Coach ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จึงต้องอาศัยและฝึกทักษะต่างๆ ดังนี้ทักษะการตั้งคำถาม (Ask) การถาม ไม่ใช่ การบอก และกว่าจะถามได้ เราต้องรู้จักเป็นผู้ฟังที่ดีเสียก่อนทักษะการฟัง (Listen) กว่าจะฟังเป็น หรือโค้ชชี่ (ผู้ถูกโค้ช) ยอมเล่าเรื่องราวให้เราฟัง ต้องผ่านการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีทักษะการสร้างความสัมพันธ์ (Rapport) Note : กล่าวกันว่ามีอยู่ 4 ทักษะที่มนุษย์เราเรียนรู้และเป็นแล้วจะไม่ลืมไปตลอดชีวิต ได้แก่ ทักษะการปั่นจักรยาน ทักษะว่ายน้ำ ทักษะจูบครั้งแรก และการLife Coach นั่นเองบทบาท & หน้าที่ของ Life Coach "Life Coach" เป็นเพียงเพื่อนร่วมเดินทาง และมีความปราถนาดีในการพาให้โค้ชชี่ (ผู้ถูกโค้ช) ไปข้างหน้าผ่านทักษะการตั้งคำถาม เป็นเพียงผู้ส่องไฟฉายโดยพยายามให้โค้ชชี่ (ผู้ถูกโค้ช) เห็นคุณสมบัติที่ดีของตัวเอง (Being) ที่ผ่านมาเขามีมุมมองต่อโลกใบนี้อย่างไร ความเชื่อ (Belifes) ในชีวิตเขาให้คุณค่ากับสิ่งใด ค่านิยม (Values) สิ่งที่สร้างความพึงพอใจหรือความต้องการพื้นฐานในชีวิต ความต้องการ (Needs) และสิ่งที่เขากำลังวิ่งหนี ความกลัว (Fears) ด้วยการเห็นตัวเองเพื่อเดินทางออกไปข้างหน้าและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่เกิดจากภายใน" พูดคุย ตั้งคำถาม เพื่อให้เขาหาคำตอบได้ด้วยตัวเอง "ฝากไว้ทิ้งท้าย....Life Coach ไม่ใช่การแนะนำ บอกให้ทำ หรือเสนอแนะ บอกว่า 1 2 3 4 ทำนั่นทำนี่สิ ฯลฯนักสร้างแรงบันดาลใจ คือ คนที่ทำอะไรมาสำเร็จ แล้วนำสิ่งดีๆ ที่เค้าค้นพบ ประสบ มาเล่า และแบ่งปัน ฯลฯไม่ว่าศาสตร์ไหนๆ ล้วนแต่มีข้อดีอยู่ถ้าเรารู้จักเรียนรู้และนำไปพัฒนาตนเอง...สิ่งดีๆเกิดขึ้นแน่นอน เราเท่านั้น คือ ผู้รับผิดชอบตนเองCover Photo : https://www.canva.com/design/DAD6tAXar0Y/36M4iUUMOio_Wud2ZgIafQ/edit?category=tACZCp5JRWgรูปภาพ1 : https://www.pexels.com/photo/athlete-athletic-baseball-boy-264337/รูปภาพ2 : https://www.pexels.com/photo/let-your-light-shine-drawing-on-notebook-1631487/รูปภาพ3 : https://www.pexels.com/photo/therapist-giving-advice-3958375/รูปภาพ4 : https://unsplash.com/photos/7e2pe9wjL9Mเครดิตข้อมูล : โครงการฝึกอบรม "ทูตความสุข รุ่นที่ 14 " Thailand Coaching Academy by Jimi The Coach Co., Ltd.