"ถ้ำผาจรุย" หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งคือ "ถ้ำอภิรมย์" ถ้ำผาจรุยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ทางด้านใต้สุดของดอย (ภูเขา) ดอยแห่งนี้วาดตัวตามแนวนอนของทิศเหนือและทิศใต้มีความยาว 1.8 กิโลเมตร ถ้ำผาจรุยมีลักษณะเป็นภูเขาใหญ่เล็กสลับกันและยังมีถ้ำเล็ก ๆ อีกหลายถ้ำกระจายอยู่ทั่วบริเวณโดยรอบ ถ้ำผาจรุย เป็นถ้ำที่มีความสวยงามและมีความศักดิ์สิทธิ์ ภายในถ้ำจะมีพระพุทธรูปปางสมาธิประดิษฐานอยู่ บริเวณถ้ำผาจรุย ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ที่รายล้อม สงบ สะอาดจึงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมวัดถ้ำผาจรุยและที่นี่ยังเป็นสำนักปฏิบัติธรรมที่เงียบสงบจึงมีผู้มานั่งวิปัสสนากรรมฐานเป็นจำนวนมากค่ะ วัดถ้ำผาจรุย เป็นวัดนิกายธรรมยุต ซึ่งคำว่า "ธรรมยุต" มีความหมายว่า ผู้ชอบด้วยธรรม โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการประกาศให้คณะธรรมยุติเป็นนิกายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย "ธรรมยุตินิกาย" ก่อตั้งขึ้นเพื่อปฏิรูปด้านวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ เพื่อความถูกต้องและเข้มงวดตามพุทธบัญญัติ เพื่อให้พระสงฆ์ปฏิบัติวัตรอย่างเคร่งครัดตามพระวินัย ภายในถ้ำผาจรุย จะมีพระพุทธรูปปางสมาธิและพระประธานอีกหลายองค์ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำ รวมถึงฐานชุกชีด้วยค่ะ กุฎิหลังนี้เคยเป็นกุฎิเก่า "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" ซึ่งท่านเคยมาบำเพ็ญภาวนาเมื่อ พ.ศ.2468 หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นพระเถรานุเถระ สายวิปัสสนากรรมฐานที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยให้ความเคารพและนับถืออย่างมาก เนื่องจากท่านเคยเป็นผู้นำในการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาของไทยให้เจริญรุ่งเรืองและองค์การยูเนสโกยังประกาศให้หลวงปู่มั่นเป็นบุคคลสำคัญของโลก สาขาสันติภาพด้วยนะคะ ภายในวัดมีเต่าและปลาเป็นจำนวนมากค่ะ วัดถ้ำผาจรุย ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งค่ะ ผู้เขียนเพิ่งเคยมาที่วัดแห่งนี้เป็นครั้งแรก บรรยากาศรอบวัดร่มรื่น สวยงามค่ะ แต่เมื่อมาถึงจุดนี้ทำเอาผู้เขียนถึงกับขนลุกกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า รูปปั้นเหล่านี้น่ากลัวมากเลยค่ะ บริเวณนี้จะมีรูปปั้นที่แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับนรกภูมิ ซึ่งเป็นความเชื่อของศาสนาพุทธที่เชื่อกันว่าผู้ที่ทำบาปจะต้องไปเกิดทันทีหรือไม่ก็ต้องถูกลงโทษโดยพญายมราชเป็นผู้พิพากษา นรกภูมิ คือ ดินแดนหนึ่งในกามภพ ซึ่งเป็นภพหนึ่งในสามภพ ก็คือ "กามภพ, รูปภพ, อรูปภพ" หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ "ไตรภพ" หรือ "ไตรภูมิ" นั่นเองค่ะ ในทางพระพุทธศาสนา เมื่อสัตว์โลกตายแล้วก็จะถูกส่งให้ไปเกิดหรือถูกลงโทษตามบาปกรรมที่เคยได้กระทำจนกว่าจะพ้นโทษจึงจะได้กลับไปเกิดอีกครั้งซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการกระทำที่ทำไว้หรือผลกรรมที่เหลืออยู่นั่นเองค่ะ นรกภูมิ แบ่งขุมนรกออกเป็น 8 ขุม ก็คือ สัญชีพมหานรก กาฬสุตตมหานรก สังฆาฏมหานรก โรรุวมหานรก มหาโรรุวมหานรก ตาปนมหานรก มหาตาปนมหานรก และอเวจีมหานรกค่ะ แต่ละขุมนรกก็จะมีวิธีการลงโทษที่แตกต่างกันตามความผิดบาปของแต่ละคนเมื่อสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ นรกขุมที่ 1 สัญชีวนรก หรือสัญชีพมหานรก ขุมนรกนี้จะมีไฟอยู่ระหว่างหอก ดาบ หรืออาวุธต่าง ๆ สัตว์นรกจะโดนไฟเผา โดนอาวุธต่าง ๆ ฟัน แทง แม้ร่างกายจะฉีกขาด ก็จะกลับมาต่อใหม่ ได้รับความเจ็บปวดทรมาณแต่ไม่มีวันตาย นรกขุมที่ 1 นี้สำหรับความผิดบาป เช่น เป็นโจร ขโมย ทำลายทรัพย์สิน หรือเป็นผู้ที่มีอำนาจแต่ข่มเหงผู้อยู่ต่ำกว่าตน, ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต นรกขุมที่ 2 กาฬสุตนรก หรือกาฬสุตตมหานรก นรกขุมนี้จะมีนายนิริยบาล จับเอาสัตว์นรกลงไปนอนแล้วใช้เส้นบรรทัดที่ทำด้วยไฟมาดีดตามร่างกายของสัตว์นรก จากนั้นก็จะใช้ ขวาน มีด สับหรือเลื่อยตามร่างกายเพื่อให้ได้รับความเจ็บปวด ทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส นรกขุมที่ 2 นี้สำหรับความผิดบาป เช่น ลักขโมย ลักทรัพย์ คดโกง นรกขุมที่ 3 สังฆาฏนรก หรือสังฆาฏมหานรก ขุมนรกภูเขาขยี้กาย นรกขุมนี้จะมีภูเขาเหล็ก 2 ลูกลุกเป็นไฟ กลิ้งเข้าหากันเพื่อบดขยี้ร่างของสัตว์นรกให้แหลกเหลว ฟื้นขึ้นมาใหม่ก็จะถูกลงโทษแบบเดิม หากวิ่งหนีก็จะถูกนายนิริยบาลตี แทง หรือฟันอยู่ตลอดเวลา นรกขุมที่ 3 สำหรับความผิดบาปพวกที่ชอบทรมาน เบียดเบียน ไร้ความเมตตาแก่สัตว์ที่ตนใช้ประโยชน์ รวมถึงประพฤติผิดในกาม นรกขุมที่ 4 โรรุวมหานรก ขุมนรกร้องไห้ ขุมนรกนี้จะมีกำแพงเหล็กที่มีไฟลุกโชนทั้ง 4 ด้าน มีดอกบัวเหล็กอยู่ตรงกลางขุม สัตว์นรกจะถูกบังคับให้ขึ้นไปที่ดอกบัว ด้วยผลของกรรมทำให้สัตว์นรกยืนขึ้นแล้วก้มตัวลงสัตว์นรกจึงถูกกลีบบัวหนีบตั้งแต่หัวถึงคาง ขาถึงข้อเท้า มือถึงข้อมือ ถูกไฟเผาร่างต้องเจ็บปวดทรมาณ นรกขุมที่ 4 สำหรับความผิดบาปจากพวกที่เมาสุราแล้วอาละวาด ทำร้ายร่างกายสัตว์โลก เผาไม้ทำลายป่า กักขังสัตว์ไว้ฆ่า และชอบพูดโกหก นรกขุมที่ 5 มหาโรรุวมหานรก คือ ขุมนรกแห่งเสียงหวีดร้องอย่างหนัก ขุมนรกนี้จะมีบัวอยู่กลางขุมนรก กลีบบัวจะเป็นกรด ส่วนช่องว่างตรงกลางจะมีอาวุธที่ลุกเป็นไฟ ขุมนรกนี้บัวจะไม่งับสัตว์นรกจนแน่น เพื่อให้ดิ้นไปถูกอาวุธที่งอกขึ้น เมื่อสัตว์นรกดิ้นไปดิ้นมาก็จะตกลงพื้นซึ่งจะมีสุนัขร้ายเข้ามากัดจนเหลือแต่กระดูก นรกขุมที่ 5 สำหรับความผิดบาปจากการดื่มสุรา ของมึนเมา นรกขุมที่ 6 ตาปนมหานรก นรกขุมนี้จะมีไฟลุกท่วม ภายใต้ไฟที่ลุกจะมีอาวุธต่าง ๆ คอยพุ่งทิ่มแทงสัตว์นรกไว้เพื่อย่างไฟ สัตว์นรกจะถูกย่างจนเนื้อกรอบหลุดร่วง จากนั้นสัตว์นรกก็จะร่วงหล่นลงมาถูกสุนัขตัวใหญ่กัดจนเหลือแต่กระดูก หากสัตว์นรกหนีจากสุนัขตัวใหญ่ได้ก็จะถูกนายนิรยบาลจับทิ่มหอกแล้วถูกนำไปย่างอีกครั้ง นรกขุมที่ 6 สำหรับความผิดบาปจากการเล่นพนัน, เผาบ้านเผาเมือง เผาโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ นรกขุมที่ 7 ตาปนมหานรก นรกขุมนี้ได้ชื่อว่าเป็นนรกที่มีความร้อนอย่างหนัก เพราะจะมีไฟนรกพุ่งออกมาจากกำแพงนรกทุกด้าน ตรงกลางนรกก็จะมีภูเขาเหล็กที่ลุกเป็นไฟ เมื่อสัตว์นรกปีนขึ้นไปบนภูเขาก็จะถูกย่าง เมื่อหล่นลงมาก็จะถูกเสียบตั้งย่างไฟด้วยอาวุธที่พุ่งจากพื้น นรกขุมที่ 7 สำหรับความผิดบาปจากการมัวเมาในอบายมุขทุกชนิด ลักขโมย ไม่สร้างบุญสร้างแต่บาป นรกขุมที่ 8 อเวจีมหานรก เราคงเคยได้ยินคำว่า "ตกนรกอเวจี" กันใช่ไหมคะ? ในขุมนรกนี้จะมีกำแพงถึงหกด้าน สัตว์นรกจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย หากขยับตัวเพียงนิดเดียวก็จะถูกอาวุธร้อนตรึงไว้กับพื้นในท่ายืนกางแขน กางขาถูกย่างไฟลุกท่วมตัว และยังมีเตาเผาขนาดใหญ่โดยสัตว์นรกจะถูกนายนิรยบาลจับโยนลงไปย่างในเตา นรกขุมที่ 8 สำหรับความผิดบาปจากการฆ่าพ่อแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ทำลายพระพุทธรูป จากรูปปั้นต่าง ๆ สามารถอธิบายถึงโทษที่จะได้รับเมื่อสัตว์โลกทำบาปได้เป็นอย่างดี ผู้อ่านเห็นภาพเหล่านี้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างคะ ส่วนตัวผู้เขียนเองรู้สึกขนลุกเลยค่ะ การมาเที่ยวที่วัดถ้ำผาจรุย นอกจากได้มาไหว้พระกราบหลวงปู่มั่นแล้ว ยังทำให้ผู้เขียนเข้าใจเกี่ยวกับนรกภูมิมากขึ้น และยังมีคำสอนผ่านรูปปั้นต่าง ๆ ให้เราเกรงกลัวการทำบาปด้วยค่ะ วัดถ้ำผาจรุย เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความสวยงาม ร่มรื่นและน่าสนใจอย่างมากเลยค่ะ ส่วนการเดินทางมาที่วัดถ้ำผาจรุยนั้นไม่ยากค่ะ วัดถ้ำผาจรุย ตั้งอยู่ที่ตำบลป่าแงะ อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย ขับรถจากอำเภอเมืองเชียงรายมาทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ประมาณ 43 กิโลเมตร วัดจะอยู่ติดถนนค่ะ เครดิตภาพ : ภาพถ่ายโดยผู้เขียน