ปัจจุบันคนเริ่มมาสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเห็นได้จากการหันไปใช้สิ่งของทดแทนหรือภาชนะวัสดุที่ผลิตจากธรรมชาติมากขึ้น เครื่องไม้เครื่องมือที่ผลิตมาจากสิ่งของตามธรรมชาติกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งหนึ่ง เช่นผลิตภัณฑ์จากเครื่องจักสานไม้ไผ่ หวาย ย่านลิเภา หวายคือพืชเศรษฐกิจในสมัยก่อนและมีมากมายตามท้องถิ่น และหาได้ง่ายในต่างจังหวัด บ้านหลวง ตำบลครึ่ง อำเภอเชียงของจังหวัดเชียงราย คือชุมชนแห่งหนึ่งที่มีป่าหวายมากกว่า 600 ไร่อยู่ใกล้ๆกับหมู่บ้าน จึงมีอาชีพตัดหวายควบคู่กับกลุ่มจักสาน หวายในหมู่บ้านหลวง ที่มีมานานกว่า 30 ปี ป่าหวายที่รกทึบเต็มไปด้วยหนามแหลมหากใครโดนตำเข้า ทำให้เป็นหนองได้กว่าจะหายใช้เวลาหลายวัน จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ หวายที่เหมาะสมคือส่วนตั้งแต่โคนจนถึงส่วนกลาง ปลายของหวายไม่เป็นที่ต้องการต้องตัดทิ้ง วิธีตัดหวายจำเป็นต้องมุดดงหวายเพื่อไปตัดตั้งแต่ส่วนโคนของหวาย เมื่อตัดแล้วจะต้องไปดึงตรงส่วนปลาย เพราะหวายอยู่รวมกันเป็นกอมีหลายๆเส้น มันมักจะพันกันจำเป็นจะต้องออกแรงในการดึงให้หวายหลุดออกมาจากกอและต้องใช้แรงงานคนดึงประมาณ 3-4 คน เมื่อได้หวายตามต้องการแล้วจากนั้นตัดเป็นท่อนท่อนละ 3 เม็ดขายท่อนละ 5 บาท ในวันหนึ่งจะสามารถหาเงินได้จากการตัดหวายเพื่อส่งต่อให้กับกลุ่มจักสานได้ประมาณวันละ 1,000 บาท กลุ่มจักสานหวายบ้านหลวง เป็นการรวมตัวของคนในชุมชน มามากกว่า 30 ปีแล้วและยังอนุรักษ์การจักสานหวายแบบภูมิปัญญาดั้งเดิมสืบทอดต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน หวายที่ได้แต่ละขนาด ก็เหมาะกับชิ้นงานแต่ละชนิดต่างกัน เช่นทำโคลงจะต้องมีการดัดตามรูปโคลงของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด ส่วนงานจักสานที่ต้องใช้"ตอก" จำเป็นต้องใช้ความชำนาญความสามารถ ความอดทนของผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีประสบการณ์มาช้านาน จึงได้งานที่ปราณีตและสวยงาม และด้วยงานที่มีคุณภาพแข็งแรง จึงมีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมชมชอบจากการบอกต่อๆกัน ปัจจุบันจึงเป็นอาชีพหนึ่งซึ่งสร้างรายได้ให้กับชุมชนจากการจักสานหวาย ผลิตภัณฑ์สำหรับเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะหวาย เก้าอี้หวาย กล่องสำหรับใช้ทิชชู่ หรือตะกร้าสำหรับไปจับจ่ายตลาดและผลิตภัณฑ์อื่นๆอีกมากมาย บ้านหลวง อำเภอเชียงของ จึงเป็นที่รู้จักในหมู่ที่ชื่นชอบในผลิตภัณฑ์จักสานหวาย สินค้าที่นี่จึงได้รับความนิยมจาก นักท่องเที่ยวมากมาย จึงทำให้เกิดรายได้ให้ชุมชนจากการขายผลิตภัณฑ์ และสร้างอาชีพให้กับผู้คนในชุมชนอยู่ได้ด้วยการพึ่งพาตัวเอง และนี่ถือว่าเป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งใช้วิถีชีวิตที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติและรักษาทรัพยากรที่มีอยู่ในหมู่บ้านนำมารวมกับวิถีชีวิตและภูมิปัญญาแบบดั้งเดิม สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ร่วมสมัยตามความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน เป็นหมู่บ้านแบบอย่างที่น่าศึกษาวิถีแห่งการดำเนินชีวิตได้ร่วมสมัยได้อย่างลงตัว