สวัสดีเพื่อนทุกคน สำหรับวันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การเรียนกฎหมายให้เพื่อน ๆ กัน เราเชื่อว่าต้องมีใครหลายคนเลยค้นหาใน google แน่ ๆ ว่า เรียนกฎหมายอย่างไรให้เข้าใจ หรือ วิธีการเรียนกฎหมาย เรียนกฎหมายอย่างไรดี ฯลฯ เพราะเมื่อก่อน เราก็เป็นหนึ่งคนที่ลองค้นหาสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ และวันนี้ เราเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ การเรียนกฎหมายของเราให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันก่อนอื่นต้องขอบอกเลยว่า...เราไม่ได้เรียนเก่งหรืออะไรมากมายนะ เมื่อก่อนตอนเข้ามาแรก ๆ คะแนนเราก็ไม่ได้ดีมาก แต่ว่าเราค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเรา จนตอนนี้เกรดเราก็ขึ้นมาอยู่ที่ 3.XX และเราเป็นเด็กกิจกรรมด้วย ทำกิจกรรมตั้งแต่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 เลย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมนักศึกษา ทั้งกิจกรรมสันทนาการ กิจกรรมวิชาการ หรืองานส่วนกลางต่าง ๆ งาน part time วิจัย เราก็ทำนะ หลายคนที่เป็นเด็กกิจกรรมอาจจะเกิดคำถามว่า แล้วจะแบ่งเวลาอย่างไร กิจกรรมก็ต้องทำ เรียนก็ต้องเรียน ซึ่งเราก็หวังว่า การแชร์ประสบการณ์ของเราครั้งนี้ จะช่วยให้เพื่อน ๆ ที่กำลังอ่านอยู่ พอจะเป็นแนวทาง หรือเป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ในการเรียนกฎหมายได้ไม่มากก็น้อยนะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า….เรียนกฎหมายอย่างไรดีนะภาพที่ 1 นาฬิกาแหล่งที่มา https://unsplash.com/photos/UAvYasdkzq8แบ่งเวลาให้เป็นเราว่าเรื่องการแบ่งเวลาสำคัญมากเลยนะ บางคนทำกิจกรรมจนลืมว่าหน้าที่หลักของเราคือการเรียน หรือบางคนก็เรียนจนไม่มีสังคมรอบข้าง เราคิดเสมอว่า กิจกรรมกับการเรียนมันไปด้วยกันได้ ขอแค่เราแบ่งเวลาให้เป็น บางคนไม่ชอบการที่พี่ ๆ ชอบเรียกมาทำนู้น ทำนี่ เสียเวลาอ่านหนังสือ เราอยากให้ลองเปลี่ยนความคิดดู เพราะบางครั้งการเรียกมาทำกิจกรรมบางครั้งอ่านเป็นการพักผ่อน หรือพักสมอง เพื่อให้สมองเราได้เกิดการพักผ่อน และไปอ่านหนังสือได้อย่างสบายใจ ดีกว่าอ่านหนังสือทั้งวัน มุ่งทำสถิติว่าวันนี้ต้องอ่านได้เท่านี้ แต่ไม่เข้าใจเนื้อหา อ่านไปสมองไม่จำ มันก็ไม่ช่วยในการเรียนนะภาพที่ 2 ดูซีรีส์ Netflixแหล่งที่มา https://unsplash.com/photos/11SgH7U6TmIเวลาว่างเอาไปทำอะไรสำหรับเราเวลาว่างที่เรามี เราจะเอาไปอ่านหนังสือ แต่!! ไม่ได้เสมอไปนะ ฮ่า ๆ บางทีเราก็ดูซีรีส์ใน Netflix บ้าง บางทีก็เล่นเกมส์ใน steam บ้าง บางทีก็ลงแรงค์ใน ROV บ้าง เล่นเกมส์ก่อนเข้าห้องสอบยังมีเลย ฮ่า ๆ แต่สิ่งที่เราอยากบอกคือ เวลาว่างส่วนใหญ่คุณเอาไปทำอะไร คุณเที่ยวได้ คุณเล่นได้ แต่คุณอ่านหนังสือเข้าใจแล้วใช่ไหม เวลาว่างนั้นผมจะเรื่มเอาหนังสือขึ้นมาอ่าน ยิ่งช่วงเวลาที่รู้สึกว่ามีไฟ ยิ่งต้องรีบอ่านเลย เพราะเราอยากจะอ่านไปเรื่อย ๆ และเราจะสนุกกับมัน แต่ถ้าเมื่อไรที่เราเอาหนังสือขึ้นมาอ่านแล้ว รู้สึกเบื่อจัง ก็ตามสองบรรทัดแรกที่เราบอกไปเลย แต่!! อันนี้ไม่รู้ใครหลายคนเป็นไหมนะ แต่เราเป็น เราแนะนำว่า อย่าเล่มเกมส์ก่อนอ่านหนังสือ เพราะมันจะทำให้สมองเรารู้สึกเครียด และกดดันมาก ๆ เป็นไปได้ทำอะไรก็ได้อย่างอื่น ที่ไม่ใช่การเล่นเกมส์ที่เครียดมากเกินไป ถ้าเกมส์เบา ๆ ผ่อนคลายก็น่าจะเล่นได้นะภาพที่ 3 ฟังเพลงแหล่งที่มา https://unsplash.com/photos/HU-uL54pfQIฟังเพลงก่อนอ่านหนังสือทุกครั้งก่อนอ่านหนังสือ ถ้าเราไม่มีสมาธิ เราจะนั่งฟังเพลงก่อนอย่างน้อย 30 นาที เราว่ามันเป็นเวลาที่เราลีลาก่อนอ่านหนังสือเยอะมากเลยนะ แต่เรายอมเสียเวลาเพื่อแลกกับการอ่านหนังสือที่อ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราว่าการฟังเพลงมันช่วยให้เราผ่อนคลาย และระบายหลาย ๆ เรื่องที่เข้ามาให้หมดไปก่อนอ่านหนังสือ ทำให้เรารวมสมาธิได้ แต่!! เราไม่ฟังเพลงตอนอ่านหนังสือนะ บางคนอาจจะไม่เป็นไร แต่สำหรับเรา การฟังเพลงไป อ่านหนังสือไป เราไม่เข้าใจเลย บางทีก็ร้องเพลงตาม หรือไม่ก็ คลอทำนองเพลงตามภาพที่ 4 สถานที่อ่านหนังสือแหล่งที่มา https://unsplash.com/photos/OJZB0VUQKKcเลือกสถานที่ให้เหมาะสมสถานที่เป็นสิ่งสำคัญมากนะ เราว่าส่งผลต่อการอ่านหนังสือมาก สำหรับสถานที่ที่เราเลือกคือ ที่ไหนก็ได้นะ ขอแค่ไม่ร้อนเกินไป เพราะเวลาอ่านหนังสือก็หัวร้อนมากพอแล้ว อากาศยังมาทำให้ร้อนอีก ยิ่งแย่กว่าเดิม และเราก็จะไม่เลือกสถานที่ที่เย็นเกินไป เพราะความเย็นทำให้เรารู้สึกว่าสมองแข็ง คิดอะไรไม่ค่อยออก มันหนาวมันสั่นไปหมด จะเขียนก็มือแข็ง ทำอะไรไม่ได้ และเราจะชอบอ่านที่ที่มีไฟสีส้ม warm light อะ เรารู้สึกว่ามันไม่มืดและไม่จ้าจนแสบตาเกินไป และสิ่งสำคัญคือ เราชอบอ่านที่เงียบ ๆ ที่ไม่มีเสียงคน มีคนอยู่ได้ แต่คนตรงนั้นอย่าเสียงดัง ประมาณนี้ แต่ถ้าเป็นเสียงนกร้อง ไก่ขัน เราโอเคมากเลยนะ รู้สึกได้อยู่กับธรรมชาติ หรือสำหรับกรณีฉุกเฉินที่มันต้องอยู่ในที่เสียงดังจริงๆ เราแนะนำ earplug คนเรียนนักศึกษาวิชาทหารต้องรู้จักแน่ ที่อุดหูเวลายิงปืนอะ นอกจากกันเสียงปืนได้ ยังกันเสียงดังจากรอบข้างได้อีกนะ เก็บไว้ใช้ตอนอ่านหนังสือ แนะนำ!!ภาพที่ 5 หนังสือกฎหมายแหล่งที่มา https://unsplash.com/photos/Oaqk7qqNh_cขยันท่องตัวบทหน่อยตัวบทกฎหมายเป็นอะไรที่สำคัญมากนะ บางคนบอกว่าเรียนกฎหมายใช้แค่ความใจพอ สำหรับเราไม่ใช่แค่ความเข้าใจมันยังต้องจำด้วย เพราะบางครั้งเรารู้สึกว่าการจำบ่อย ๆ ก็ก่อให้เกิดความเข้าใจที่มากยิ่งขึ้นได้ อาจารย์ที่สอนเราเคยบอกว่า “ไม่มีอาจารย์คนไหนบอกให้คุณท่องตัวบทก่อนสอบนะครับ” เพราะฉะนั้น รีบท่อง ยิ่งท่องก่อนยิ่งได้เปรียบภาพที่ 6 หนังสือและปากกาแหล่งที่มา https://unsplash.com/photos/EKy2OTRPXdwทำโจทย์อุทาหรณ์บ่อย ๆ เวลาที่เราอ่านคำบรรยายเสร็จแล้ว และท่องตัวบทพอจำได้แล้ว เราจะมานั่งทำโจทย์ โดยเราจะซื้อโจทย์ของรามมานั่งทำ ทำให้หมดเล่มนั้น ๆ ในหนึ่งวิชาอะ เรารู้สึกว่า การทำโจทย์เป็นการทบทวนที่ดีมาก มันทำให้เรารู้ว่าเรายังไม่แม่นตรงไหน เช่นเวลาทำโจทย์เราอ่านปุ้บ เราจะขีดตรงจุดที่เป็นประเด็นและเขียนเลขมาตราไว้ มันทำให้เรารู้ว่าตัวบทเราแม่นแล้ว แต่ถ้าเมื่อไรที่เรานึกไม่ออกว่าต้องใช้มาตราไหน นั่นแหละว่า ตัวบทเรายังไม่แม่นว่าใช้อันไหน หรือบางครั้งรู้เลขแต่เขียนไม่ออก นั่นแปลว่าเรายังไม่แม่นในเนื้อหาของตัวบทนั้น ๆ และก็จะกลับไปอ่านคำบรรยายตรงจุดนั้นใหม่อีกครั้ง เราทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเข้าใจ และทำได้หมดทั้งเล่มภาพที่ 7 ตัวเลขที่เปลี่ยนไปแหล่งที่มา https://unsplash.com/photos/ft0-Xu4nTvAการนับเวลาเราเห็นเพื่อน ๆ เราหลายคนจะนั่งนับวันว่าเหลืออีกกี่วันจะสอบ วันนี้อ่านวิชาอะไร แต่สำหรับเรา เราไม่นับเป็นวัน เพราะมีรุ่นพี่เราคนนึงบอกให้ลองนับเป็นชั่วโมงสิ ซึ่งพอเราลองนับแล้ว เรารู้สึกว่าเวลามีค่ามาก บางคนกดดันตัวเองว่า อีกสองวันสอบ อ่านไม่ทันแน่เลย สุดท้ายก็เป็นตัวเราเองที่กดดันตัวเอง พอกดดันตัวเองยิ่งอ่านไม่รู้เรื่อง การนับเวลา เราจะนับเป็นชั่วโมง เราจะตั้งไว้เลยว่า เวลาเหลืออีกตั้งเยอะ ตั้ง XX ชั่วโมง งั้นเราจะอ่านอันนี้ก่อน เสร็จแล้วทำโจทย์ แล้วจะรู้สึกกดดันตัวเองน้อยลง และจะรู้สึกว่าเวลา 1 วัน มีค่ามากจริง ๆภาพที่ 8 พักผ่อนริมทะเลแหล่งที่มา https://unsplash.com/photos/b2qszO9C7swพักผ่อนบ้างอย่างที่เราบอก เราเป็นคนที่อ่านหนังสือไม่ได้ทั้งวัน ยอมรับเลย เพราะจะอ่านเข้าใจช่วง 19.00 ถึง 02.00 ดังนั้นช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาอ่านหนังสือสำหรับเรา ส่วนช่วงอื่นเราก็จะไม่อ่าน เราก็จะไปหาอย่างอื่นทำ เช่น ทำกิจกรรมบ้าง ไปเที่ยวบ้าง เล่นเกมส์ อ่านนิยาย ดูซีรีส์ ไปออกกำลังกาย หรือวันไหนมีเรียนก็เข้าเรียน พักผ่อนเพื่อให้สมองได้ฝื้นฟู และกลับมาอ่านเมื่อพร้อมอย่างเต็มที่น่าจะเกิดประสิทธิภาพกว่านะภาพที่ 9 ต้นไม้สีเขียวแหล่งที่มา https://unsplash.com/photos/qwHHOC2z5Xsมองหาสีเขียวรอบตัวเราว่าพวกธรรมชาติต้นไม้ต่าง ๆ ช่วยเยียวยาและทำให้ผ่อนคลายมากเลยนะ เวลาเราอ่านหนังสือ เราจะอ่านในที่ที่มองเห็นต้นไม้ เวลาเราเครียดจากการอ่านหนังสือ แค่นั่งโง่ ๆ มองต้นไม้ เราว่าก็ผ่อนคลายได้นะ ขนาดในหอพักเรา เรายังซื้อต้นไม้มาปลูกเลย ไม่ว่าจะเป็น พลูด่าง ลิ้นมังกร พยับหมอก เฟิร์น หรือ แคคตัส ฯลฯภาพที่ 10 ตรวจสอบกิจกรรมแหล่งที่มา https://unsplash.com/photos/RLw-UC03Gwcจัดการชีวิตตัวเองให้เป็นข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญเลย คุณต้องรู้หน้าที่และจัดการชีวิตตัวเองให้เป็น ทุกเช้าเราตื่นขึ้นมา เราจะคิดก่อนเลยว่า วันนี้เราจะทำอะไรใน 1 วันบ้าง งั้นเรายกตัวอย่างจากชีวิตจริงเราเลยคือ ตื่นเช้ามา (10.00 น.) รดน้ำต้นไม้ อาบน้ำแต่งตัว กินข้าว เข้าเรียน ออกกำลังกาย กินข้าวเย็น เข้าห้องที่ทำกิจกรรม อ่านหนังสือ ดูซีรีส์ นอน #บางวันมี part time ก็ไปทำ บางวันต้องทำวิจัย ก็ไปทำ สุดท้ายนี้เราอยากบอกว่า การเรียนกฎหมายไม่ยาก การที่ขยันและรับผิดชอบตัวเองให้เรียนกฎหมาย นั่นแหละคือสิ่งที่ยาก กิจกรรมไม่ได้ทำให้คนเสียการเรียน คนที่ไม่รู้จักแบ่งเวลา และไม่จัดการชีวิตตัวเองให้เป็นต่างหาก ที่ทำให้การเรียนของตัวเองพังการเรียนทำให้คนมีงานทำ แต่กิจกรรมทำให้คนทำงานเป็นลองดูนะ ขอแค่คุณ แบ่งเวลาให้เป็น จัดการชีวิตตัวเองให้ได้ และค้นหาสไตล์การเรียนของคุณให้เจอเท่านี้ การเรียนนิติศาสตร์ไปด้วย ทำกิจกรรมไปด้วย หรือทำงานอย่างอื่นไปด้วย จะไม่ยากอีกต่อไป #ก็ยากแหละแต่อย่างน้อยเราว่าก็ทำให้เกรดดีขึ้นได้ ฮ่า ๆอ้างอิงภาพปกจากBill Oxford, แหล่งที่มา https://unsplash.com/photos/OXGhu60NwxU