บ้านปางขอน ตั้งอยู่บนดอย บ้านปางขอน ไม่ใช่ชื่อที่ใช้เรียก บ้านหลังใดหลังหนึ่ง แต่บ้านปางขอน คือชื่อที่หมายถึง บ้านกว่า 400 หลัง ใช่แล้ว บ้านปางขอน คือชื่อของหมู่บ้าน ที่ตั้งอยู่กลางธรรมชาติอันงดงาม ทิวเขาที่ทอดยาว สุดสายตา อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ทะเลหมอก ในยามเช้า ลอยเหนือทิวเขา ดอกซากุระเมืองไทย (ดอกพญาเสือโคร่ง) ชมพูบานสะพรั่ง และที่ไม่ควรพลาด คือ กาแฟ ดอยปางขอน บ้านปางขอน เป็นแหล่งปลูก กาแฟ สายพันธุ์ อาราบิก้า อันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งในด้านปริมาณ คุณภาพก็ยังอยู่ในระดับ ที่เรียกว่า กาแฟพิเศษ ( Specialty Coffee) มีการปลูกกาแฟมากว่า 30 ปี และคุณภาพยังมีการพัฒนาอย่างตื่อเนื่อง ดอยปางขอน นับได้ว่าจะเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยผลัดดัน ชื่อเสียงและคุณภาพให้กับวงการกาแฟพิเศษไทยได้ในอนาคต ถ้าใครได้ ลองดื่ม กาแฟจากปางขอน รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน ความหวานและหอมอันเป็นเอกลักษณ์จากแหล่งปลูกและการแปรรูป ยิ่งถ้าใครเป็น คอกาแฟ แล้วได้เดินทางมายังแหล่งปลูก ได้ดื่มกาแฟจากผู้ปลูกโดยตรง ได้รับฟังเรื่องราวของกาแฟ ที่เปลื่ยนแปรชีวิตของชาวบ้านปางขอน สัมผัสกับบรรยากาศ ไร่กาแฟ เห็นวิถีชิวิตที่อยู่คู่กับกาแฟ จะเป็นประสบการณ์ ยากจะหาได้จากที่ใดในโลก นอกจาก เรื่องราวรสชาติที่เข้นขันและหอมกรุปของกาแฟแล้ว สิ่งที่ขาดไปไม่ได้จากการไปเยื่ยมบ้านปางขอน คือ ชาวบ้านปางขอน ชาวบ้านปางขอน เป็น ชนเผ่า อาข่า ตามประวิติศาสตร์ชาติพันธุ์ ชาวอาข่า เดินทางมาจาก ภูเขาสูงทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน มีวัฒนธรรม อัตลักษณ์ของตนอย่างชัดเจน ที่เด่นชัดคือ เครื่องแต่งกาย ที่เรียกว่า “โล้มี้อาข่า” ที่เต็มไปด้วยลวดลาย สีสันบน ผ้าปัก ถ่ายทอด ลัญลักษณ์ที่อยู่ในวิถีชิวิต ของชาวอาข่า หมวกเงินของผู้หญิงชาวอาข่า บางใบอาจวัดได้มี มูลค่า เป็น แสนบาท แต่ในด้าน คุณค่าความเชื่อไม่สามารประเมินค่าได้ โล้มิ้ เป็นเครื่องแต่งกายที่มีความหมายสำหรับชาวอาข่า การได้แต่งชุคคือพิธีการสำคัญของชาวอาข่า และใช้ในวันสำคัญเท่านั้น ผู้ที่ได้พบเห็นถือว่าเป็นการได้รับเกิยรติ อย่างยิ่ง ชาวปางขอนใช้ภาษา ทั้งหมด 3 ภาษา นอกเหนือจาก ภาษา ไทยและภาษา อาข่าแล้วคือภาษา จีน ชาวบ้านปางขอนยังคงให้ความสำคัญกับการศึกษาภาษาจีน ที่สื่อทอดจากบรรพบุรุษ กับลูกหลาน ทุกๆยามเย็น ในหมู่บ้าน จะได้ยินเสียงของเด็กๆ เรียนภาษาจีน หลังจากการเรียนภาคบังคับในกลางวัน ที่โรงเรียนภาษาจีน บนเนินของหมู่บ้าน และถ้าท่านได้ใช้เวลาในหมู่บ้านปางขอนนานพอ ท่านอาจได้ ยินเสียงเพลงภาษาอาข่า ที่มีน้ำเสียงท่วงทำนอง ที่ไพเราะ ลอยมาตามลม เป็นบทเพลง ที่แม่ชาวอาข่าใช้กล่อมลูกน้อย ที่ถึงแม้จะไม่รู้ความหมายของเนื้อร้อง แต่สามารถแปลได้ ว่ามันคือ ความรักที่แม่มีต่อลูก อยากให้ได้ทาน มื้ออาหารจากชาวบ้านปางขอน ข้าวดอยหุงร้อนๆ ผักสดๆปลอดสารพิษจากบนดอย ยิ่งได้กินกับ น้ำพริกถั่วเน่า ถึงชื่อจะดูน่ากลัวแต่รสชาติเข้นขันคุ้มค่ากับการลอง ถ้าเดินทางไปช่วง ต้นปี อาจโชคดี ได้กิน น้ำพริกมะเขือเทศดอย มะเขือเทศที่รสชาติเหมือนกับผลพืช ปิดด้วย ข้าวปุก เป็นข้าวที่นำมาตำจนเป็นก้อนแป้ง ทานได้ทั้งแบบนิ่นหรือแบบทอดเข้ากันได้อย่างลงตัวกับนมข้นหวาน ยิ่งบวกกับ น้ำใจ และมิตรภาพของชาวปางขอน เป็นมนต์เสน่ห์ ดึงดูดให้อยากแวะเวียนกลับไปอีกครั้ง จากที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ที่เก็บมาแชร์ต่อ อยากชวนทุกท่านได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์บ้านปางขอน ด้วยตัวเองสักครั้ง เป็นบ้านที่ควรค่าไปสัมผัส เหมาะแก่การหลบไปเติมแรงกาย แรงใจ สัมผัสผู้คน และเรียนรู้ธรรมชาติ ซึ่งสามารถ เดินทางจากตัวเมือง เชียงรายเพียง 30 นาที สำหรับการเดินทาง ที่พัก คำแนะนำ ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อไปได้ที อาตะ ผู้ผลัดดันการท่องเที่ยวบ้านปางขอน คุณอาตะ 082-191-4473 หรือที่ พ่อหลวง คุณศร 084-487-5808 อีกหนึ่งช่องทาง Facebook https://www.facebook.com/Pangkhonvillage ปล. แอบบอกท่านใด อยากชมซากุระเมืองไทย จากการสอบถาม ล่าสุด(13/11/19) คาดว่าจะออกดอกเต็มที่ช่วงต้นเดือนมกราคมนี้ ( ดอกพญาเสือโคร่ง บานเต็มที่เพียง 2 อาทิตย์เท่านั้น)