ไป ไป เต๊อะ ไป แอ่ว ไป เต๊อะ ไป แอ่ว จังหวัดเจียงฮาย เคยได้ยินเพลงนี้กันบ้างไหมคะ การท่องเที่ยวครั้งนี้ผู้เขียนจะพาทุก ๆ ท่านมาที่จังหวัดเชียงรายเพื่อมาสักการะวัดมหาชินธาตุเจ้า (ดอยตุง) หรือที่เรารู้จักกันก็คือ "วัดพระธาตุดอยตุง" ที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,000 เมตรค่ะ วัดพระธาตุดอยตุงนั้นสร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าอชุตราช กษัตริย์ผู้ครองเมืองโยนกนาคพันธุ์ (อำเภอแม่จันในปัจจุบัน) โดยพระมหากัสสปะได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) นำมามอบให้พระเจ้าอชุตราชเพื่อสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนหน้าอกของดอยนางนอนซึ่งเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ จึงมีการทำตุง (ธง) ที่มีความยาว 1,000 วา ปักเอาไว้ หากตุงนั้นปลิวไปตกที่ใดตรงนั้นก็คือฐานของเจดีย์ นอกจากนี้พระองค์ยังได้พระราชทานทองคำให้ลาวจกเป็นค่าที่ดิน และให้ปีลักยู 500 ครอบครัวเพื่อการดูแลรักษาธาตุ ในสมัยพญามังราย พระมหาวชิรโพธเถระได้นำพระบรมสารีริกธาตุมาถวาย 50 องค์ พญามังรายจึงให้สร้างพระเจดีย์อีกองค์ใกล้กับเจดีย์องค์เดิมด้วยเหตุนี้พระธาตุดอยตุงจึงได้มีเจดีย์สององค์โดยก่อสร้างแบบศิลปะเชียงแสนย่อมุมไม้สิบสองซึ่งมีลักษณะคล้ายกับพระธาตุดอยสุเทพ (ดูบางมุมอาจจะเข้าใจผิดได้จริง ๆ ค่ะ) ช่วงหนึ่งเมืองเชียงรายเคยเป็นเมืองร้างค่ะทำให้พระธาตุดอยตุงทรุดโทรม ครูบาศรีวิชัยจึงร่วมกับชาวเชียงรายทำการบูรณะองค์พระธาตุขึ้นใหม่โดยสร้างเป็นเจดีย์องค์ระฆังขนาดเล็กสององค์บนฐานแปดเหลี่ยมตามแบบศิลปะแบบล้านนา ในปี พ.ศ.2516 ได้มีการก่อสร้างพระธาตุองค์ใหม่ครอบพระเจดีย์เดิมไว้ การเดินทางเพื่อไปสักการะพระธาตุดอยตุงเราจะเดินขึ้นบันไดพญานาคสีขาวเพื่อไปยังพระธาตุที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ระหว่างทาง 2 ข้างฝั่งจะมีระฆังให้ตีไปตลอดทาง การตีระฆังนั้นเป็นความเชื่อว่าเป็นการแจ้งให้เหล่าเทวดารับรู้ว่าผู้ที่ตีได้กระทำบุญแล้ว พระบรมธาตุดอยตุง ลักษณะจะเป็นเจดีย์สีทองสององค์ มีความสูงประมาณ 5 เมตร ฐานสี่เหลี่ยมย่อมุม มีซุ้มจระนำทั้งสี่ทิศ องค์ระฆังและปลีมียอดขนาดเล็กค่ะ บริเวณพระธาตุดอยตุงจะเจอรูปปั้นหมูตั้งอยู่ นั่นก็เพราะว่า พระธาตุดอยตุง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีกุน (หมู) ตามความเชื่อของชาวล้านนาโดยเฉพาะผู้ที่เกิดปีกุนนิยมมาสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองค่ะ บนพระธาตุจะมีองค์พระธาตุดอยตุงที่เป็นแท่นบูชาเก่าถูกฝังอยู่ใต้ดินด้วยค่ะ แผ่นยาว ๆ สีสันสดใสที่ลักษณะคล้ายธง เรียกว่า "ตุง" ค่ะ ถือว่าเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของชาวล้านนา หมายถึง การมีชัยชนะ ในวัดจะมีรอยปักตุงเป็นรอยแยกบนพื้นยาวประมาณ 1 ฟุตอยู่ด้านหน้าเชื่อกันว่าเป็นรอยแยกที่ใช้ปักฐานตุงเพื่อบูชาพระธาตุ พระศรีอริยเมตไตรย ก็คือพระโพธิสัตว์ที่ตรัสรู้เป็นพระองค์ที่ 5 ซึ่งเป็นพระองค์สุดท้ายแห่งภัทรกัปค่ะ พระสีวลี หรือ พระสีวลีเถระ เป็นเจ้าชายในโกลิยวงศ์ และยังเป็นพระภิกษุสาวกเอกทัคคะของพระพุทธเจ้า พระสีวลีถือว่าเป็นผู้มีลาภสักการะมาก ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่มากราบไหว้เพื่อขอให้เกิดความมั่งคั่ง เงินทองไหลมาเทมาค่ะ พระเจ้าทันใจ เราสามารถอธิษฐานขอพรได้ 1 ข้อค่ะ ย้ำว่าได้แค่ 1 ข้อเท่านั้นนะคะ พระอาจารย์ซ่วน ปัญญาธโร วัดท่าลาดใต้ อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ท่านเป็นเกจิที่โด่งดังในเรื่องของปลัดขิกค่ะ จุดนี้เป็นจุดชมวิวสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล อากาศเย็นสบายไม่ร้อนค่ะ และยังมี ลานสาวกอด หรือ ลานวัฒนธรรม "แต ห่อง" เป็นแหล่งเรียนรู้ ศิลปวัฒนธรรมของชาวอาข่าด้วยค่ะ (ผู้เขียนลืมถ่ายรูปบริเวณลานสาวกอดค่ะ) วัดพระธาตุดอยตุง เป็นอีกสถานที่หนึ่งเมื่อผู้เขียนมาที่นี่ก็รู้สึกสุขใจและประทับใจทุก ๆ ครั้ง บรรยากาศของก็ร่มรื่นมาก ลมพัดเย็นสบายค่ะ สำหรับใครที่อยากจะไปเที่ยวที่พระตำหนักดอยตุงหรือสวนแม่ฟ้าหลวงเดินทางจากวัดพระธาตุดอยตุงอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ซื้อบัตรเข้าชมสถานที่ได้ที่จุดจำหน่ายบัตรค่ะ บัตรเข้าชมคนละ 90 บาท สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป นักเรียน นักศึกษาระดับปริญญาตรี ลด 50% ค่ะ จังหวัดเชียงรายเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ผู้เขียนมาท่องเที่ยวบ่อยเพราะเดินทางไม่ไกลและยังมีสถานที่สวยงามให้ท่องเที่ยวมากมาย หากมีโอกาสมาเที่ยวจังหวัดเชียงรายก็จะแวะมากราบสักการะพระธาตุดอยตุงเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตค่ะ การเดินทางมาที่วัดพระธาตุดอยตุง จากอำเภอเมืองเชียงรายถึงวัดพระธาตุดอยตุงประมาณ 60 กิโลเมตร วัดพระธาตุดอยตุงจะอยู่ห่างจากพระตำหนักดอยตุง 6.5 กิโลเมตร จะถึงปากทางเข้าวัดจากนั้นขับรถไปอีก 1 กิโลเมตรก็จะถึงวัดพระธาตุดอยตุงค่ะ เครดิตภาพ : ภาพถ่ายโดยผู้เขียน