ประตูผากับภาพเขียนสีวันนี้จะพามาดูแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ 2 แห่ง ที่อยู่ในพื้นที่บริเวณเดียวกัน และเรื่องราวก็มีเรื่องราวที่แตกต่างกัน แต่ทั้ง 2 เรื่องราวก็เป็นเรื่องที่เราควรรับรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทั้ง 2 เรื่อง ทั้งเรื่องของคุณงามความดีและเรื่องประวัติศาสตร์ภาพเขียนที่คนรุ่นหลังควรมารับรู้ เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ที่มองดูว่าเป็นเพี่ยงสี่ยวเล็ก ๆ แต่เป็นประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน"ศาลเจ้าพ่อประตูผา""Photo by I-MEM"เริ่มกันด้วยเรื่องราวของวีรชนผู้กล้าหาญ โดยสมัยอดีตนั้นพม่าเดินทางมาจากเส้นทางจากเมืองเชียงราย เพื่อจะไปยึดครองเมืองลำปาง โดยจะต้องใช้เส้นทางนี้ในการเดินทางไปยังตัวเมืองลำปาง และในระหว่างทางที่จะไปเมืองลำปางนั้น ได้มีหนานข้อมือเหล็ก หรือพญามือเหล็ก ผู้ที่มีวิชาอาคมและฝีมือดาบที่เก่งกล้า ตามตำนานเล่าว่าเป็นผู้ที่ใช้ข้อมือตัวเองเป็นโล่กำบังตัวเองได้ ผู้ที่เป็นทหารเอกของเจ้าเมืองลำปาง นำทัพหน้ามาปกป้องเมืองลำปาง และจะใช้จุดสมรภูมิตรงประตูผาตรงนี้เป็นที่สู้รบกับพม่า ด้วยที่กำลังน้อยกว่าฝั่งพม่ายิ่งนัก พญามือเหล็กก็ได้สู้จนดาบหัก ส่วนพม่าก็ได้ถอยทัพกับไป พญาข้อมือเหล็กสู้จนหมดแรงสุดท้ายยืนพิงพนักหน้าผามือทั้ง 2 ข้างยังคงถือดาบเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ทุกเมื่อ และพญาข้อมือเหล็กก็ได้สิ้นใจไปที่หน้าผาแห่งนี้ จนทำให้ผู้คนนับถือท่านเป็นวีรชนผู้กล้า และได้มีการจัดตั้งศาลเพื่อเคารพบูชา ขอพร โดยศาลแห่งนี้มีชื่อว่า “ศาลเจ้าพ่อประตูผา”"Photo by I-MEM"ศาลเจ้าพ่อประตูผา จะตั้งอยู่บนบริเวณเส้นทางที่จะเข้าสู่เมืองลำปาง จะเป็นผาตั้งสง่าและมีศาลอยู่ข้าง ๆ ศาลเจ้าพ่อประตูผาจะศักดิ์สิทธิ์หลายเรื่อง ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเรื่องหน้าที่การงาน ขอให้เดินทางปลอดภัยตลอดเส้นทาง ผู้คนจึงแวะขอพรท่านอยู่ตลอดแบบไม่ขาดสาย และศาลเจ้าพ่อประตูผาแห่งนี้ ได้รับการดูแลบูรณะรักษาโดยกองทัพภาคที่ 3"ภาพเขียนสี โบราณ""Photo by I-MEM"แหล่งภาพเขียนสีโบราณ อยู่ห่างจากศาลเจ้าพ่อประตูผาไม่มานัก ภาพเขียนเหล่านี้พึ่งถึงค้นพบเมื่อไม่นานมานี้นี่เอง โดยถูกพบเจอจากการฝึกไต่เชือก โดยร้อยเอกชูเกียรติ มีโฉม นายทหารสังกัดกองพันรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผา และต่อมาได้มีกรมศิลปากร ร่วมกับกองพันรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผาเข้าทำการขุดค้นศึกษาประวัติทางโบราณคดี คัดลอกภาพเขียนสีเอาไว้ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้มีอายุประมาณ 3,000 - 5,000 ปี และผ่านการตากแดด ตากลม ตากฝน ไม่มีที่บดบัง ทำให้ภาพสีเริ่มเลือนลางหายไปตามกาลเวลา (บันทึกคร่าว ๆ จากแผ่นหินก่อนทางขึ้นชมภาพเขียนสี)"Photo by I-MEM"การไปเที่ยวชมภาพเขียนสีนั้นจะต้องเดินขึ้นไปประมาณ 100 กว่าเมตร ทางค่อนข้างชันนิดหนึ่ง แต่เป็นบันได และทางเดินที่ทำไว้อย่างดี เดินสบาย ๆ ชมแมกไม้ไปได้ตลอดทาง ถ้าไม่รีบเดินค่อย ๆ เดินไปก็จะไม่เหนื่อย แต่หากรีบเดินไปรับรองว่าเหนื่อยแน่นอน"Photo by I-MEM"เวลาที่เหมาะสม ในการชมภาพเขียนสี เวลา 08.30 - 10.00 น. และเวลา 13.00 - 18.00 น. จะได้เห็นความสวยงามของภาพเขียนสีอย่างสวยงาม และปลอดภัย"Photo by I-MEM"ภาพเขียนสีเหล่านี้ที่พบเจอ ภายใต้บริเวณภาพเขียนสีนั้นจะมีหลุมฝังศพ และตอนที่เจอครั้งแรกกรมศิลปากรก็ได้เข้ามาศึกษาดูว่าโครงกระดูกเหล่านี้เป็นกระดูกของคนโบราณ ทำให้รู้ว่าพื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่ฝังศพมาก่อนในสมัยโบราณ จริง ๆ ภาพเขียนสีมีอีกเยอะมากมาย แต่ละภาพก็จะมีลวดลายแตกต่างกันไป มีมากกว่า 2 - 3 ลวดลาย เดินเข้าไปเลื่อย ๆ ก็จะเจอภาพเขียนสีบนผนังผาไปเลื่อย ๆ แต่ด้วยเวลาที่จำกัดเลยได้เก็บรูปมาฝากได้เท่านี้"Photo by I-MEM"ถือได้ว่าแหล่งภาพสีเขียนนี้มีความสำคัญอย่างมากในพื้นที่ภาคเหนือต้นบน เป็นมรดกอันยิ่งใหญ่อีกสถานที่หนึ่งเช่นกัน ใครมาเที่ยวชม ก็ต้องช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่สัมผัสและขีดเขียนทำลาย ช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้มาเที่ยวชม ได้มาเรียนรู้ว่าครั้งหนึ่งประเทศไทยเราก็มีคนอาศัยมานานนับหลายพันปีเช่นกับประเทศอื่นเหมือนกัน