องค์พระธาตุสูงค่า ตระการตาอุทยานแม่ปิง ยอยศยิ่งพระนางจามรี ประเพณีงามล้ำเลิศ ถิ่นกำเนิดนักบุญล้านนา สวัสดีค่ะ วันนี้อากาศร้อนมากมายร้อนเมื่อไหร่เป็นอันนึกถึงน้ำตกทุุกครั้งไป วันนี้จะพาทุกคนไปสัมผัสบรรยากาศสดชื่น เตรียมปอดกันไว้ให้พร้อมเราจะเดินทางไปชมป่าเขาลำเนาไพรกันค่ะ เกริ่นด้วยคำขวัญประจำอำเภอกันเลย ถูกต้องแล้วค่ะ!! วันนี้ขอเป็นมัคคุเทศก์ฝึกหัดหนึ่งวัน พาไปเที่ยวอำเภอลี้ อำเภอในจังหวัดเล็กๆในจังหวัดลำพูนกันค่ะ"ลี้"ไม่ได้หมายถึงเมืองลี้ลับหรือหลีกลี้หนีอย่างใด แต่เป็นเมืองที่ยังคงเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและประเพณี มายาวนานกว่า๑๘๐๐ปี อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายตระการตาดังคำขวัญประจำอำเภอจนไม่อยากกลับกันเลยทีเดียว ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเลยจ้า วันแรกเริ่มออกเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่เวลา9.00 น.ใช้เส้นทางหมายเลข106ใช้เวลาเดินทางจาก เชียงใหม่-เขตอำเภอลี้ ประมาน 2ชั่วโมงครึ่งค่ะ การเดินทางไปอำเภอลี้แนะนำเป็นรถส่วนตัวเพราะเดินทางสะดวกที่สุดค่ะ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากๆบางที่ต้องเข้าไปลึก ไม่มีรถโดยสารผ่านเลย แต่หากสายลุยสามารถขึ้นรถเมย์โดยสารเชียงใหม่-ลี้ ได้ที่สถานีขนส่งอาเขตแห่งที่2เที่ยวรถรอบแรกตอน10.00น. ถึงตัวอำเภอลี้มีรถโดยสารบริการค่ะ แนะนำกันมาเยอะแล้วตอนนี้เราได้เข้าสู่อำเภอลี้เรียบร้อยใช้เวลา2ชั่วโมงครึ่งค่ะ สถานที่แรกคือ วัดบ้านปาง เป็นวัดที่เก่าแก่ของอำเภอลี้และเป็นวัดที่มีความสำคัญอย่างมากของจังหวัดลำพูน และเป็นวัดที่ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาบวชเรียนเป็นวัดแรกและเป็นสถานที่ดับขันธ์มรณภาพอีกด้วย วิหารหลวงสร้างขึ้นรูปแบบของสถาปัตยกรรมล้านนา เหมือนวัดในลำพูนเชียงใหม่มีลักษณะและความสวยงามเหมือนกันเลยค่ะ วัดตั้งอยู่บนเนินเขาร่มรื่นมีลมพัดเย็นตลอดวัน เมื่อมองลงมาด้านล่างจะเห็นทิวทัศน์ ชุมชนศรีวิชัยค่ะ อีกทั้งมีพิพิธภัณฑ์อัฐบริขารครูบาศรีวิชัย(ของใช้ส่วนตัว)ของท่านไว้ครบถ้วน ครบถ้วนจริงๆค่ะ ด้านในมีรถที่ท่านได้นั่งขึ้นดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ เป็นคันแรกหลังจากท่านเป็นผู้เริ่มดำเนินการสร้างถนนขึ้นสู่พระธาตุดอยสุเทพจนเสร็จ เมื่อวันที่30เมษายน2478 เป็นเวลา85ปีมาแล้ว น่าตื่นตาตื่นใจมากมีข้าวของเครื่องใช้ที่รับรองว่าไม่เคยเห็นในยุคสมัยนี้แน่นอนและมีคำบรรยายอย่างชัดเจนไว้ให้ได้ศึกษาเพิ่มเติมด้วยค่ะ หลังจากที่ทำบุญและชมพิพิธภัณฑ์กันแล้ว กองทัพต้องเดินด้วยท้องจ้าา เดินทางแวะตลาดสดลี้ก่อนกลับที่พัก ซึ่งในตัวอำเภอลี้มีที่พัก รีสอร์ท โรงแรม ราคาหลักร้อยพร้อมวิวทะเลหมอกและทิวเขาค่ะ เอาล่ะสำหรับวันนี้ต้องขอตัวไปพักก่อนจ้า พรุ่งนี้ตื่นเช้าไปชมพระอาทิตย์ขึ้น ณ จุดชมวิววัดผาหนามกันจ้า... อรุณสวัสดิ์ เช้าวันที่2 ที่นี่อากาศตอนเช้าเย็นสบาย ออกเดินทางจากที่พักเวลา 04.00น. ใช้เวลาประมาณ6นาทีถึงวันผาหนามค่ะ เราออกมาเช้าเพราะต้องเดินขึ้นบันไดไปยังจุดชมวิวแอบหอบนิดหน่อย แต่คุ้มค่ามากๆกับการที่ได้ชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าแบบ 360 องศา ดื่มดำสูดบรรยากาศกันจนเช้าไปเลย หลังจากที่ชมวิววกันอย่างอิ่มอกอิ่มใจแล้ว ไปทำบุญไหว้พระกันค่ะ วัดผาหนาม เป็นปูชนียสถานที่สำคัญอีกแห่งของอำเภอลี้ ด้านล่างจะมีรูปปั้นขนาดใหญ่ของครูบาอภิชัยขาวปีเป็นจุดเด่นเป็นจุดสังเกตุ หากขับรถมาถึงเลี้ยวเข้ามาได้เลยค่ะและด้านในวัดได้เก็บร่างที่ไม่เน่าเปื่อยของครูบาขาวปีไว้ในโลงแก้ว หอปราสาทรักษาศพ ณ วัดพระพุทธบาทผาหนามแห่งนี้ ในทุกๆปีจะมีประเพณีเปลี่ยนผ้าห่อสรีระของครูบาขาวปีในมีนาคมของทุกปีค่ะ สถานที่ที่ 2 สำหรับวันนี้อยู่ในชุมชนบ้านห้วยต้ม ขับรถเลยตลาดสดลี้มาเล็กน้อย จะมีป้ายบอกทางชัดเจนค่ะ ชุมชนห้วยต้มเป็นชุมชนเป็นชุมชนปกาเกอะญอที่มีวิถีชีวิตโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มีวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนาน ตลอดจนเป็นแหล่งงานฝีมือและหัตถกรรมอันเลี่ยงชื่ออีกด้วยค่ะ ชุมชนเป็นชุมชนมังสวิรัติ ไม่รับประทานสัตว์หรือเนื้อหมูค่ะ ในชุมชนมีวัด2แห่งค่ะ แห่งแรกคือวัดพระพุทธบาทห้วยต้มเป็นวัดที่กว้างขว้างเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชนห้วยต้ม ด้านหน้ามีวิหารพระเมืองแก้วที่องค์พระธาตุได้รับการตกแต่งอย่างงดงามเป็นสถานที่บรรจุสรีระทิพย์ของหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา มีพุทธศาสนิกชนมากราบไหว้ตลอดทั้งปีค่ะ วัดมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย โดดเด่นสง่างามด้วย พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัยสีทอง ตั้งเด่นตระหง่านตระการตาจนสามารถเห็นได้แต่ไกลทางจากทางเข้าวัด สองข้างทางเข้าวัดจะเป็นบ้านเรือนชาวบ้านค่ะ เข้ามาจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวห้วยต้มที่แสนเรียบง่ายได้ชมแล้วชื่นใจค่ะ พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัยนี้ มีรูปทรงคล้ายชเวดากองจำลอง โดยหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนาเป็นผู้ริเริ่มสร้างเพื่อเป็นพุทธเจดีย์ของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ อันจะเป็นพุทธเจดีย์ของภัทรกัป ให้ลูกหลานคนไทยได้กราบไหว้เป็นแห่งแรกของประเทศไทยและเป็นแห่งที่2ของโลกค่ะ ศูนย์วิจัยงานหัตถกรรมบ้านห้วยต้ม เป็นศูนย์ส่งเสริมงานหัตถกรรมและวัฒนธรรมกะเหรี่ยงโบราณค่ะ ด้านหน้าจะมีบ้านกะเหรี่ยงโบราณตั้งอยู่ซึ่งได้สร้างตามแบบฉบับจริงที่ชาวกะเหรี่ยงอาศัยอยู่ ซึ่งหากเราสังเกตจากสองข้างทางตอนเดินทางไปวัดทั้ง2แห่งแล้ว ยังคงมีบ้านเรือนแบบดั้งเดิมอยู่ค่ะ และภายในศูนย์วิจัยมีสินค้าผลิตภัณฑ์มากมายให้ได้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเงิน ผลิตภัณฑ์จากการจักสาน ผ้าทอกะเหรี่ยงลายโบราณที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการทอกี่เอวตามวัฒนธรรมของชนเผ่ากะเหรี่ยงค่ะ พูดถึงแล้วการมาห้วยต้มครั้งนี้คุ้มค่ามากค่ะ หลังจากที่ชื่นชอบผ้าทอกะเหรี่ยงและติดตามทางเพจhttps://www.facebook.com/taki.huaytom/มานาน ได้มาเห็นถึงขั้นตอนการทอขั้นตอนการผลิตจริงๆแล้วคุ้มค่าเหลือเกิน สถานที่ 3 ได้เวลาคลายร้อนกันแล้วจ้า ไปเที่ยวน้ำตกก้อหลวงกันจ้า ก่อนอื่นแวะซื้อขนมนมเนยกันก่อนนะคะ ไปปูเสื่อนั่งฟังเสียงน้ำตก ซ่า ซ่า มันซาบซ่านในใจ ใช้เวลาเดินทางจากชุมชนห้วยต้มไปน้ำตก40นาทีไกลและลึกค่ะ แต่มีป้ายบอกทางชัดเจนถึงจะไกลแต่เราสู้ค่ะ ก่อนอื่นต้องผ่านด่านเขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิงก่อนค่ะ ค่าบริการคนละ20บาทรถ1คัน30บาทจ้า เพื่อน้ำตกสีมรกตเราย่อมทนได้อยู่แล้ว เฮ้! พอมาถึงแล้วต้องร้อง โอ้โห้! แน่นอนเพราะเส้นทางเดินกว่าจะถึงน้ำตก โอ้โห้!เหนื่อยจ้า แต่คิดเสียว่าชมนกชมไม้ข้างทางไปก่อนนะคะ หากพาลูกๆหลานๆมาก็จะเหนื่อยนิดหน่อยต้องได้อุ้มกันไปสุดทางเลย เส้นทางทางเรียบสลับกับบันไดและเนินเขายอมเสียเหงื่อเพื่อน้ำตกเย็นๆจ้า ที่นี่มีเสื่อและเสื้อชูชีพให้เช่ากันนะคะ เดินมาไกลพอสมควรเริ่มได้ยินเสียงน้ำ ซู่ ซู่กันแล้ววว แล้วก็ต้องร้องว้าวววววว!! อีกครั้ง สวยงามสมคำล่ำลือจริงๆ ช่วงที่มาเป็นช่วงหน้าร้อนน้ำจะเป็นสีเขียวอมฟ้าหากมองไกลๆจะเห็นเป็นสีฟ้าคราม ส่วนใครที่มาหน้าหนาวน้ำจะเป็นสีเขียวมรกตค่ะ ชื่นฉ่ำกันไปเลย ด้านล่างมีน้องปลาแหวกว่ายเป็นฝูงเลยค่ะ เวลาย่อนเท้าลงไปน้องปลาจะมาตอดเท้า จักกะจี้ เด็กๆสนุกกันใหญ่เลย น้ำใสและบรรยากาศดีมากค่ะ ไปต่อกันอีกนิดทุ่งกิ๊กอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิงเช่นกันค่ะ สำหรับใครที่ต้องการบรรยากาศสงบ เงียบ ไร้สัญญาณโทรศัพท์แนะนำที่นี่เลยค่ะ มีจุดบริการกางเต้นท์และมีห้องน้ำห้องท่าสะดวกสะอาดไว้บริการ ตื่นมาเช้าๆจะมีสัตว์ป่าน่ารักๆมาทักทายยามเช้า อากาศที่นี่เย็นสบายๆรอบๆเขียวขจีไปหมด สถานที่สุดท้าย ไปเที่ยวแพแก่งก้อกันค่ะ เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นตาผ่านเรื่องคิดถึงวิทยากันมาบ้างแล้ว มาชมบรรยากาศกันค่ะ แต่ช่วงที่ไปกำลังปรับปรุงหลายส่วนตอนนี้สวยกว่าเดิมแน่นอนจ้า สำหรับการท่องเที่ยว"เมืองลี้ ไม่ไปไม่ได้แล้ว"คุ้มค่ามากเป็นการเที่ยวที่ครบรสจริงๆค่ะ ได้ไหว้พระทำบุญขอพร และได้สัมผัสวิถีชีวิต บรรยากาศชิวๆสบายๆท่ามกลางขุนเขาและวิถีแห่งสายน้ำ ต้องบอกเลยว่ามีความสุขมากมายค่ะ ฝากเมืองลี้ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะมาเที่ยวกันเยอะๆนะคะ ภาพโดยผู้เขียน:ภาพที่1,2,3,4,5,7,12,13,14 ขอบคุณภาพจากคนเมืองลี้:รูปประกอบ6/รูปประกอบที่8/รูปประกอบที่11/รูปประกอบที่15/รูปประกอบที่16/รูปประกอบที่17 ขอบคุณภาพจากTAKIผ้าทอกะเหรี่ยงโบราณบ้านห้วยต้ม:ภาพประกอบที่9/ภาพประกอบที่10