หลังจากเดินทางมาตลอดทั้งวัน เรา 4 คนก็เดินทางมาถึง "ปางอุ๋ง" กว่าจะเข้ามาถึงจุดกางเต้นท์ได้ก็เกือบจะ 1 ทุ่มนอกจากต้องลุ้นว่ามีที่ให้กางเต้นท์มั้ยเพราะคนเยอะมาก ที่หนักไปกว่านั้นก็คงจะเป็นไม่มีเต้นท์ให้เช่านี่แหล่ะ เพราะมันมืดค่ำแล้วขับรถย้อนออกไปก็คงไม่ไหว เราเลยได้แต่ยืนรอคอยอย่างมีความหวัง และในที่สุด... โชคยังเข้าเราทั้ง 4 คนเต้นท์หลังสุดท้ายขนาดใหญ่พร้อมกับเครื่องนอนก็ถูกส่งมาให้เรา กางเต้นท์เสร็จเราก็ยังไม่ได้สำรวจอะไรมากมายก็ต้องรีบไปอาบน้ำก่อน เพราะว่าเดี๋ยวมันจะมืดค่ำไปกว่านี้ หลังจากอาบน้ำเสร็จก็ออกตามหามื้อเย็นทันที ระหว่างที่เดินดูไปเรื่อยๆ สัมผัสได้เลยว่าสิ่งที่ฮอตฮิตที่สุดสำหรับบรรยากาศหนาวๆ ก็คือ "หมูกระทะ" นั้นเอง เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนจะนั่งที่ร้าน หรือ หน้าเต้นท์นอนก็ตามจะมีเตาหมูกระทะ พร้อมกับผู้คนที่ล้อมวงกันกิน "สเลเต"และเพื่อนๆ เลือกที่จะกินอาหารตามสั่งเพราะง่ายๆ(ตกลงกันไม่ได้นั่นเอง) นอกจากนั้นยังมีมันเผา ไข่ปิ้ง เครื่องดื่มอุ่นๆ และของกินที่อร่อยมากของที่นี่นั่นก็คือ "เฟรนฟรายดอย" (ป้ายเค้าเขียนงี้นะบางร้าน) ทีแรกก็ลังเลไม่กล้ากิน ถามไปถามมามันคือถั่วเหลืองบดแล้วนะมาเทใส่ถาดตัดเป็นชิ้นๆ แล้วเอาไปทอดโอ้โห! พอได้กินคือหยุดไม่ได้กันเลยทีเดียว เช้าอันสดใสของเราที่ตื่นมาพร้อมความเปียก? เพราะว่าหมอกและน้ำค้างที่ลงตลอดทั้งคืนนั่นเอง ด้วยความที่จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นแต่อาจจะสายไปหน่อยเพราะไปถึงจุดชมวิวคือแดดจ้าแล้ว แต่ยังดีที่ว่าบรรยากาศดีมาก อากาศที่เย็นกำลังดีและที่สำคัญคือจะทำยังไงให้ถ่ายรูปโดยที่ไม่ติดคนอื่น(ตอนนั้นคนเยอะมากกก) แต่สุดท้ายเราก็ได้รูปมานะคะแม้ว่าจะแอบติดคนอื่นมานิดๆ(เพราะว่าตั้งเวลากล้องถ่ายรูปและรีบวิ่งไปถ่าย) ถ่ายรูปเสร็จทำธุระส่วนตัวเก็บของพร้อมออกเดินทางไปอีก 1 ที่ก่อนจะกลับไปที่อำเภอ "ปาย" และที่นั่นก็คือ "บ้านรักไทย" นั่นเอง(แต่ก่อนที่จะไปเราก็แวะกินเฟรนฟรายดอยก่อนจะไปด้วยนะติดใจมาก) มาถึงบ้านรักไทยจอดรถปุ๊บเราก็ต้องหันมามองหน้ากันทันที เพราะนักเดินทางส่วนใหญ่เป็นรถบิ๊กไบค์กันทั้งนั้น(แต่ไม่เป็นไรถ้าใจถึงฮ่าฮ่าฮ่า) บ้านรักไทยเป็นหมู่บ้านที่สุดเขตของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านของคนจีนยูนานที่อยู่ติดกับชายแดนพม่า บรรยากาศโดยรวมแล้วเหมือนกับกำลังไปเที่ยวเมืองจีนเลยก็ว่าได้ทั้งสถาปัตยกรรม นอกจากนั้นยังมีใบชาที่ขึ้นชื่อพร้อมขายให้กับนักท่องเที่ยว(ชิมฟรีด้วยนะฮ่าฮ่า) บรรยากาศร้านค้าและร้านอาหาร "สเลเต" และเพื่อนอยู่ที่บ้านรักไทยไม่นานนักเพราะต้องเดินทางกลับไป "ปาย" ต่อแต่ก็ใช่ว่าไม่ได้เที่ยวเลย เรา 4 คนเดินเที่ยวเดินเที่ยวรอบๆ ที่สามารถเดินเที่ยวและถ่ายรูปได้ เดินรอบหมู่บ้านดูความเป็นอยู่ การใช้ชีวิต แวะร้านค้าซื้อของฝากสำหรับคนที่บ้าน นอกจากใบชาแล้วยังมี ไวน์เครื่องดื่มอื่นๆ ผลไม้อบแห้ง เดินไปถ่ายรูปไป(คนที่นั่นเป็นมิตรมากเลย) พอรู้สึกว่าเราเก็บทุกที่แล้วก็ถึงเวลาที่ต้องออกเดินทางอีกแล้ว แน่นอนก่อนจะกลับก็ไม่พลาดที่จะไปถ่ายรูกับไร่ชาที่ "ลีไวน์รักไทยรีสอร์ท" แต่สภาพ "สเลเต" ไม่ไหวแล้วค่ะ ร้อนจนต้องถอดเสื้อกันหนาว และพร้อมที่จะเดินทางกลับแต่ละคนก็มีของฝากติดไม้ติดมือกันไปเล็กๆน้อยๆ การเดินทางเรายังไม่สิ้นสุดเท่านี้ไว้ "สเลเต" จะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ "สเลเต"