"ปางอุ๋งจ๋า พี่มาแล้ว x เที่ยว One Day Trip แม่ฮ่องสอน" เพื่อนๆ วางแผนสิ้นปีกันไว้รึยัง? ถ้ายังไม่รู้จะไปไหนดีเพราะต้องทำงานทุกวันไม่มีวันหยุดเลย แล้วจะไปไหนได้บ้างล่ะ ลองทำตามรีวิวนี้ดูนะคะไม่ต้องลางานและได้เที่ยวพักผ่อนในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ชิลล์ๆ ชาร์ตพลังทำงานต่อได้ในอาทิตย์ถัดไป การเดินทางในครั้งนี้เราตั้งใจไปหาอากาศหนาวเย็นกันที่ ปางอุ๋ง และเที่ยวในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยที่ไม่ต้องลาพี่ที่ออฟฟิศให้เสียการเสียงาน และเพื่อให้การไปปางอุ๋งเป็นเรื่องง่าย ที่ใครๆ ก็สามารถไปสัมผัสบรรยากาศดีๆ อากาศบริสุทธิ์ ยิ่งช่วงใกล้สิ้นปีอย่างนี้เรียกว่าหนาวเลยก็ว่าได้ และเที่ยว One Day Trip วันเดียว ครบเครื่องเรื่องเที่ยวเรื่องกิน สาวๆ ออฟฟิศไปพักกันสบายๆ เราจะบอกวิธีการเดินทางและการติดต่อที่แสนยากลำบากที่ไม่มีใครเคยบอกให้กระจ่างแจ้งแถลงไขกันไปเลย!! ก่อนอื่นเราจองตั๋วรถทัวร์นอน ของสมบัติทัวร์ไว้ สามารถเข้าเว็บสมบัติทัวร์ได้เลยจ้า... https://www.sombattour.com สามารถเลือกได้ว่าจะขึ้นที่วิภาวดีหรือหมอชิต ซึ่งเรามาจากรถไฟฟ้าหมอชิต ไปขนส่งหมอชิตสะดวกกว่า>>> เมื่อเวลาเดินทางมาถึงเราก็ไปเจอเพื่อนร่วมทางกันที่ขนส่งหมอชิตในเวลา 5 โมงตรง ขึ้นรถทัวร์จะมีแจกน้ำเปล่าและขนม 2 ชิ้น (อ้อ!ลืมเล่า เรามาจากที่ทำงานกันนะ ไม่ได้ลางานจ้า..ฮ่า..)>>> เดินทางมาถึงกำแพงเพชรก็จะมีจุดแวะพักเพื่อให้นักเดินทางได้ลงมารับประทานอาหารเย็นกันค่ะ ขาไปไปถึงตอน 5 ทุ่มตรง เป็นอาหารเย็นที่งัวเงียเอาเรื่องเลย อาหารเป็นบุฟเฟ่ต์สามารถทานเท่าไหร่ก็ได้เลยค่ะ ให้เวลา 20 นาที ส่วนตัวชอบขนมจีนมากค่ะ อร่อยลืมง่วงเลย เมื่อทานเสร็จก็ขึ้นรถ เดินทางต่อ เอ้า ลุย!!!! ตื่นมากลางทาง นี่ที่ไหนกันนะ บนรถทัวร์สะอาดสะอ้านค่ะ นอนกันเงียบๆ มานานจนรถเริ่มโคลงเคลง เอียงซ้าย เอียงขวา โค้งหนักหน่วงติดๆ กันมาแล้วค่ะ อยากกระซิบบอกว่า ใครเมารถควรกินยาไว้แต่เนิ่นๆ เลยนะคะ จะได้นอนหลับสบาย พอถึงโค้งสุดทรหดนี้ก็แสดงว่าเราเข้าแม่ฮ่องสอนแล้วล่ะค่ะ ++++++++++++++++++++++++++++++++++ ทนหลับทนนอนไปจนเช้า ผ่านมา 1,864 โค้ง รถทัวร์ก็มาถึงขนส่งแม่ฮ่องสอนอย่างปลอดภัยค่ะ พอลงรถทัวร์ปุ๊บก็จะมีสามล้อมารอเทียบท่า เราก็ขึ้นสามล้อไปที่ตลาดสายหยุดง่ายๆ ใกล้นิดเดียวค่ะ ราคาต่อคนอยู่ที่ 40 บาท ถึงตลาดสายหยุด เราต้องขึ้นรถเหลือง คนพื้นที่เรียกแบบนี้ค่ะ รถเหลืองคือสีเหลืองจริงๆค่ะ เหลืองทั้งคัน เห็นแต่ไกลเลย แต่รถเหลืองขึ้นปางอุ๋งยังไม่มา ก็แวะกินข้าวกันก่อนที่ตลาดเลย รถเหลืองนี้จะพาเราเดินทางอีกประมาณ 2 ชม. ผ่านโค้งเยอะเหมือนกันค่ะแต่ลมเย็นมากกกก ดีเหลือเกินที่ได้ออกมาผจญภัยกับเพื่อนๆ ได้เพื่อนร่วมทางใหม่เป็นชาวบ้านที่มีลูกเล็ก เขาก็ขึ้นรถเหลืองไปปางอุ๋งเหมือนกันค่ะ ถ้าขับรถไม่แข็งหรือไม่ชำนาญทางจริงๆ แนะนำให้จ้างคนขับหรือนั่งรถเหลืองของคนในพื้นที่ดีกว่าค่ะ เมื่อมาถึงโครงการพระราชดำริปางตอง 2 หรือที่เราเรียกกันว่า "ปางอุ๋ง" ก็ลงทะเบียนหน้าโครงการก่อนค่ะ จ่ายค่าเช่าเต็นท์ และอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับการนอนในค่ำคืนนี้ของเราให้เรียบร้อย เราก็เข้าไปเลือกเต็นท์ได้ตามใจชอบเลยค่ะ เราจองเต็นท์ก่อนเดินทางผ่านทางเบอร์โทรนี้ค่ะ 082-191-1746 จะมีผู้หญิงคนหนึ่งรับสายตลอด เราก็บอกเขาได้เลยว่าจะไปพักกี่คน เอาเต็นท์กี่หลัง แล้วก็ฝากชื่อเบอร์โทรไว้ให้ ก่อนออกเดินทางก็โทรคอนเฟิร์มซะหน่อยค่ะว่าเราจะไปแล้วนะ เขาก็จะบอกว่าลำดับที่เราจองเต็นท์ไว้เป็นลำดับที่เท่าไหร่ และกฎง่ายๆ เลยสำหรับการไปพักผ่อนที่ปางอุ๋งนะคะ ห้ามเอากล่องโฟมขึ้นไปค่ะ แล้วก็เข้ามาลงทะเบียนก่อน 6 โมงเย็น แค่นั้นเลยค่ะ ++++++++++++++++++++++++++++++++++ กิจกรรมที่เราทำกันในปางอุ๋ง อาบน้ำก่อนค่ะ!!! ขนาดอาบน้ำตอนเที่ยงนะคะ เน้น! ตอนเที่ยง! น้ำเย็นมากๆๆๆๆๆ เรียกว่าเย็นเหมือนเอาน้ำแข็งมาถูหลังเลยค่ะ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เราก็เริ่มออกสำรวจ หาที่ถ่ายรูปสวยๆ กลับไปฝากพ่อแม่และเพื่อนๆ กันซะหน่อย มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะเลยค่ะ รู้สึกสงบมากๆ บางคนที่เคยมากางเต็นท์นอนดูดาวรับลมเย็นๆ ก็จะเตรียมข้าวของมานั่งชิลล์ๆ บางคนก็นั่งเล่นกีตาร์ อ่านหนังสือ อย่างรู้งาน เดินลงไปเที่ยวเล่นในชุมชนกันหน่อย จิบน้ำหวานๆ ให้ชื่นใจ เราไปล่องแพชมทัศนียภาพและบรรยากาศโดยรอบกันค่ะ นั่งได้ 2 คนต่อ 1 แพนะคะ ต้องดูจังหวะค่ะถ้าตอนบ่ายแดดจะออก ร้อนหน้านิดๆ แต่พี่คนพายก็จะมีร่มให้กางค่ะ แต่เราลงเรือประมาณบ่าย 2 โมง รู้สึกอากาศปลอดโปร่งมากๆ มีลมเย็นๆ โดนหน้าตลอด นั่งคนเดียวก็สบายๆ ค่ะ มีคุณหงส์ขาวคู่ออกมาทักทายด้วยค่ะ หงส์ที่อยู่ที่นี่ เป็นหงส์พระราชทาน ซึ่งเป็นหงส์ขาวดำ อย่างละคู่ค่ะ อีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเลย ปิ้งหมูกระทะนั่นเอง ชุดละ 300 บาท เป็นอาหารเย็นที่ดีมากๆ เพราะอากาศเริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เย็น มีเตาอุ่นๆ กินอาหารร้อนๆ ชิลล์มากๆ ค่ะ เมื่อทานอาหารเย็นกันเสร็จก็แยกย้ายกันไปเตรียมตัวนอน เก็บเรี่ยวแรงไว้ผจญภัยต่อวันพรุ่งนี้ค่ะ! ++++++++++++++++++++++++++++++++++ ตื่นเช้ามาในเวลาตี 5 เริ่มมีคนตื่นแล้วเหมือนกันค่ะ เราตื่นมารอเจอคุณพระอาทิตย์ยามเช้า ตรงนี้มีคนมาล่องแพถ่ายภาพกันให้เราเก็บภาพด้วยค่ะ กิจกรรมอีกหนึ่งอย่างที่เราสามารถทำได้คือ ตักบาตรตอนเช้าค่ะ ตักบาตรเสร็จก็จิบโกโก้ร้อนกันหน่อย โกโก้มาแบบเข้มข้นมากๆ แต่ไม่หวานเลยนะคะ ถ้าชอบหวานก็สามารถเติมน้ำตาลได้ค่ะ ที่ร้านมีบริการไว้ หาอะไรทานกันอีกสักนิดหน่อยรองท้อง รอพี่ต้อยมารับตอน 8 โมงตรง (เบอร์โทรพี่ต้อยนะคะ 081-026-2701 เราคุยกับพี่เขาก่อนเดินทางมา ให้พี่ต้อยช่วยพาเที่ยวค่ะ) ONE DAY TRIP!! READY!! GO!! เริ่มกันที่หมู่บ้านรักไทยค่ะ เป็นชุมชนของชาวจีนยูนนานที่มาตั้งรกรากกันที่นี่ ความหิวเริ่มมาเยือน เราก็ไปหยุดที่ร้านนี้เลย อยู่ริมถนนดูคนเยอะดี เข้าเลยละกัน ได้นั่งส่วนในค่ะ เพราะส่วนนอกเต็มหมดแล้ว สั่งหมั่นโถกับนมข้นมา 1 ชุด เป็นเมนูแนะนำเลยนะคะ ซุปไข่ และข้าวผัดดั้งเดิมจานเล็ก 1 ชุดค่ะ ที่นี่มีน้ำชาแบบคนพื้นที่ด้วย คือให้ค่อยๆ ดึงถ้วยน้ำชาที่คว่ำอยู่ขึ้น เอาถ้วยนั้นมาอังที่ตาให้อุ่นๆ คลายหนาว หรือจะเอามาดมให้สดชื่นก็ได้เช่นกันค่ะ ไม่ทันถ่ายข้าวผัดมาเพราะความหิวขึ้นตาค่ะ รอช้าอยู่ไย ลุย!! มีมุมสวยๆ ถ่ายรูปได้ด้วยค่ะร้านนี้ มองออกไปเห็นวิวฝั่งตรงข้ามกว้างเลย แอบถ่ายเพื่อนคนสวยซะหน่อย เพิ่มพลังกันเต็มที่แล้วเราก็ออกเดินทางต่อค่ะ ที่เที่ยวแต่ละที่อยู่ไม่ไกลกัน นั่งรถประมาณ 10 นาทีเท่านั้น เราก็มาเจอกับฟาร์มแกะ พระตำหนักปางตอง มีน้องแกะๆ อยู่เยอะค่ะ มีพี่ม้าอยู่ด้วย แต่ตอนที่เราไปมันเงียบมากๆ เลย แล้วน้องแอบเหม็นนิดหนึ่ง เราอยู่ที่นี่ประมาณ 10 นาทีเองค่ะ ไปต่อกันที่ น้ำตกผาเสื่อกับถ้ำปลา เอาภาพน้ำตกมาฝากค่ะ ถ้าอยากไปถ้ำปลาสามารถเดินลงไปต่อจากน้ำตกได้เลย ต่อกันที่ สะพานซูตองเป้ มาถึงพอดีเป็นเวลาเที่ยงเป๊ะค่ะ แดดกลางหัวเลย ดีนะมีร่มให้เช่า เราก็เอามาเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากนิดหนึ่ง ถ่ายรูปหมู่ครบสัก 1 รูป ขอให้พี่แถวนั้นถ่ายให้ค่ะ ถ้าเดินไหวอยากให้เพื่อนๆ เดินไปถึงวัดด้านบนนะคะ พี่ๆ แถวนั้นบอกว่ามาขอเรื่องความรัก ก็ได้สมดังใจหมายกันทั้งนั้นเลยค่ะ ได้น้ำมะพร้าวสดๆ จากลูกคลายร้อนกันคนละแก้ว พร้อมไปต่อแล้วค่ะ ต่อกันที่ หมู่บ้านกะเหรี่ยง ห้วยเสือเฒ่า เป็นชุมชนของกะเหรี่ยงคอยาวค่ะ จากที่หาข้อมูลมาบ้าง เห็นว่ากะเหรี่ยงคอยาวเริ่มลดน้อยลงไปมากแล้ว บางครอบครัวก็กลับถิ่นฐานเดิม บางคนก็เข้ามาทำงานในตัวเมือง จะมีแต่เด็กกับคนแก่ที่ยังอยู่ค่ะ เป็นชุมชนเล็กๆ ใช้เวลาเดินนิดหน่อย จะมีคุณพี่กะเหรี่ยง แนะนำว่าสามารถยืมใส่กำไลคอมาถ่ายรูปได้นะคะ จะมีวางไว้ให้ยืมฟรีค่ะ แต่ในโอกาสนี้เราขอเก็บภาพก็พอค่ะ และไปต่อกันที่ พระธาตุดอยกองมู สำหรับผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมทำบุญและไหว้เทพทันใจได้ค่ะ ที่พระธาตุจะมีร้านกาแฟอร่อยๆ อยู่ร้านหนึ่ง แต่วันที่เราไป พี่ร้านกาแฟปิดร้านกลับบ้าน 3 วันค่ะ อดเลย ไม่เป็นไร คราวหน้าต้องได้กินให้ได้! อ้อ! อาหารกลางวันของเรา พี่ต้อยพามากินร้านส้มตำเจ้าเด็ดเจ้าดังค่ะ อยู่ใกล้กับขนส่งเลย เพื่อนๆ ลองไปทานได้นะคะ ติดกับร้านขนมจีนน้ำยาป่า ถึงเวลาบอกลาพี่ต้อยกลับกรุงเทพกันแล้วค่ะ รถออก 4 โมงตรงเป๊ะ แวะพักที่กำแพงเพชรเช่นขาไปตอนเวลาเกือบตี 3 เป็นมื้อเย็นที่ง่วงๆนิดหน่อย ยังดีที่ไม่หิวมากเพราะขากลับ คนขับก็แจกน้ำกับขนมอีกคนละ 2 ชิ้น จากกำหนดการต้องมาถึงขนส่งหมอชิตประมาณ 7 โมง แต่ช้าไปเกือบ 8 โมงเช้าค่ะ น่าจะเพราะคนขับ ขับช้าหน่อยๆ ค่ะคันนี้ ถึงกรุงเทพแล้วรออยู่ใย แยกย้ายกันไปทำงานค่ะ วันพักผ่อนได้จบลงแต่ความสุขที่ได้ไม่จบง่ายๆ ขอบคุณมิตรภาพดีๆที่ได้จากพี่ๆ ที่เจอะเจอกันระหว่างการเดินทางครั้งนี้ พี่ๆใจดีทุกคนเลยค่ะ แล้วเจอกันใหม่แน่นอน แม่ฮ่องสอน :) ++++++++++++++++++++++++++++++++++ แต่งรูปโดย App : Dazz Cam