เรื่องและภาพ : ชานาพิ้ง ท่ามกลางถนนที่คดเคี้ยวนับร้อยโค้งเพื่อมุ่งหน้าสู่ “เมืองปอน” ตัวเราโยกเยกไปตามแรงเหวี่ยงของรถซ้ายที ขวาทีอย่างบังคับไม่ได้ ดีที่มีเข็มขัดนิรภัยตรึงร่างเอาไว้ ไม่งั้นก็ได้ลอยหลุดออกจากเบาะรถเป็นแน่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรามาแม่ฮ่องสอน แต่เป็นครั้งที่เท่าไหร่เราก็ไม่ทราบได้ เรายังจำได้ดีเมื่อมาครั้งแรกแทบเอาชีวิตไม่รอด อ้วกไปสองสามรอบ ไม่แปลกใจเลยว่าใครที่บอกว่าผ่านพันโค้งของแม่ฮ่องสอนมาได้ (โดยไม่อ้วก) ถือว่าเป็นผู้พิชิต ครั้งนี้เราเตรียมตัวมาอย่างดี นั่นก็คือการจองตั๋วเครื่องบิน แล้วตรงดิ่งมาเลยไม่ต้องผ่านภูเขา แต่ทว่าการจะไป “เมืองปอน” ใน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน นั้นก็จำเป็นต้องนั่งรถอีกตามเคย และก็ต้องต่อสู่กับร้อยโค้งจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนมาขุนยวม และก็สำเร็จ เมืองปอน เป็นหมู่บ้านไทใหญ่ (ไตใหญ่) ตั้งอยู่ใน ม.1 และ ม.2 ของ ต.เมืองปอน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน อยู่ห่างจากตัวอำเภอขุนยวมประมาณ 80 กิโลเมตร รายล้อมด้วยทุ่งนาและภูเขาเขียวชอุ่ม โดยมีลำน้ำปอนหล่อเลี้ยงชุมชนเอาไว้ อากาศที่นี่แทบจะหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี บรรยากาศในหมู่บ้านเงียบสงบ ชวนให้เรารู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ที่นี่เหมาะสมหรับคนที่อยากจะหลีกหนีความวุ่นวาย มาสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่าย เดินชมเมืองเป็นบ้านไม้ทรงคลาสสิค สูดอากาศที่ทุ่งนาสีเขียว ผู้คนไม่คลาคล่ำ ก็เหมือนได้ชาร์ตแบตไปแล้วหลายก้อน คนในชุมชนเกือบทั้งหมดเป็นชาวไทใหญ่ ที่นี่ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรม และประเพณีแบบชาวไทใหญ่ไว้อย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าจะเป็นภาษาพื้นแบบไทใหญ่ อาหารการกิน ประเพณีวัฒนธรรม การทำจองพารา (ปราสาท) ปักเสื้อเสื้อไทใหญ่ ที่นักท่องเที่ยวสามารถมาศึกษาเรียนรู้ได้อย่างหลากหลาย เรียกได้ว่า เป็นแหล่งวัฒนธรรมที่มีชีวิตเลยก็ว่าได้ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่ส่วนใหญ่จะได้เข้าพักที่ โฮมสเตย์เมืองปอน ซึ่งเป็นบ้านของคนในชุมชนเอง ซึ่งคนไทใหญ่จะเรียกว่าว่า "เฮิน" หรือ เรือน นั่นเอง คนในชุมชนต้อนรับนักท่องเที่ยวได้อย่างดีเยี่ยม แม่เจ้าของบ้าน ชวนเราทำกับข้าวร่วมกัน ทั้งข้าวเช้าและข้าวกลางวัน เป็นอาหารแบบไทใหญ่ที่ปกติแม่ ๆ จะกินอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน เหมือนเราเป็นลูกหลานของครอบครัวเขาจริง ๆ ส่วนตัวผู้เขียนประทับใจในอาหารของชาวไทใหญ่มากที่สุด เพราะเป็นอาหารที่เป็นรากวัฒนธรรมของอาหารล้านนา ที่เรารู้จักกัน อาหารทีเด็ดที่แนะนำเลยคือ อุ๊บไก่ จิ้นลุง ข้าวส้มเงี้ยว และยังมีอีกหลายอย่างที่เล่าไม่หมด แต่อยากให้ทุกคนมาลอง มานอนโฮมสเตย์ แล้วจะได้กินแน่นอน แนะนำเลยว่า ใครอยากจะชาร์จแบต เรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมแบบชาวไทใหญ่ มาใช้ชีวิตอย่างสงบ ๆ ซัก 2 วัน 1 คืน กำลังดี โฮมสเตย์เมืองปอน กินอาหารชุมชน ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย ขากลับแวะซื้อสินค้าชุมชนไทใหญ่อันมีเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น หมวกกุ๊บไต เสื้อไทใหญ่ทั้งแบบชายและหญิง ติดต่อสอบถาม โทร 081-7844340 (ชุมชนโฮมสเตย์เมืองปอน)