บ้านทุ่งมะส้าน เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ยังคงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแบบชุมชนเกษตร อาชีพหลักของคนท้องถิ่นที่นี่คือการทำนา ปลูกกระเทียม ทำไร่ ทำสวน และรับจ้างทั่วไป บ้านทุ่งมะส้านห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ๒๕ กิโลเมตร อยู่ทางทิศเหนือของอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เป็นพื้นที่ราบระหว่างหุบเขา ตามลำน้ำแม่สะงี มีภูเขาสูงขนาบทั้งสองด้าน ส่วนใหญ่เป็นป่าเบญจพรรณ ไม้เต็ง ไม้รัง ไม้สัก ไม้แดง ไม้ยาง หมู่บ้านทุ่งมะส้าน มีที่มาจากชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่ง ที่มีจำนวนมากในบริเวณนี้ ชาวไทใหญ่เรียกว่า “ โท้งหมากส้าน ” ที่จะขึ้นตามริมห้วย ผลสุกจะมีสีส้ม กลิ่นหอมอ่อน ๆ เป็นอาหารของสัตว์ในแถบนั้น จึงตั้งชื่อหมู่บ้านว่าโท้งหมากส้าน และเพี้ยนมาเป็น ทุ่งมะส้าน ถึงปัจจุบันนี้ค่ะ ในหมู่บ้านนี้มีสถานที่ท่องเที่ยว ที่น้อยคนนักจะรู้ นั่นคือ " ถ้ำเรือ " มีลักษณะจะเป็นปล่องถ้ำที่อยู่บนดอยสูง ปากถ้ำมีขนาดกว้างประมาณ 25 เมตร สูงประมาณ 15 เมตร ปากทางลงถ้ำ มีความชัน เป็นก้อนหินกว้างประมาณ 1 เมตรกว่า และด้านในถ้ำจะเป็นหุบลึกลงไป ชื่อของถ้ำเรือ มาจากมีก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณปากถ้ำ มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับหัวเรือขนาดใหญ่ โดยหันหน้าเข้าไปในถ้ำ จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำค่ะ ถ้ำนี้จะอยู่ก่อนถึงหมู่บ้าน ต้องเดินลัดเลาะทุ่งนาประมาณ 500 เมตร และเดินขึ้นปากถ้ำ ซึ่งเป็นทางค่อนข้างลาดชัน ต้องใช้ความระมัดระวังสูง ผู้เขียนไปช่วงฤดูร้อนเมื่อปีที่ผ่านมา อากาศร้อนจนเกือบเกิดอาการฮีทสโตรก โชคดีที่พกเกลือแร่และน้ำหวานไปด้วย และยิ่งกว่านั้นผู้เขียนได้พบปล่องถ้ำเล็ก ๆ ขนาดไม่กว้างนัก ช่องเท่าตัวแมวลอดเข้าได้บริเวณทางเดิน ปล่องนั้นมีไอเย็นเหมือนมีลมพัดออกมา ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนได้เข้าห้องแอร์เย็นฉ่ำเลยทีเดียว กว่าจะปีนถึงปากถ้ำ ก็เกือบหมดแรงกันทีเดียว แต่ก็ต้องร้องว้าวของความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ หน้าถ้ำจะมีลานหินเป็นรูปสามเหลี่ยม มีปลายยื่นเข้าไปในถ้ำ เหมือนหัวเรือจริง ๆ ค่ะ และเหมือนจะมีน้ำตกในถ้ำซึ่งเห็นได้จากร่องรอยการไหลของน้ำบริเวณหินงอกหินย้อยหน้าถ้ำ ภายในถ้ำดูแล้ว น่าจะเกิดจากการยุบตัวของชั้นหินปูน แล้วเกิดเป็นปล่องที่มีโถงขนาดใหญ่ มีหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา และมีหินปูนก้อนขนาดใหญ่ทับถมกันเหมือนเอามากองไว้ค่ะ มีโพรงเล็กโพรงน้อยมากมาย ตื่นเต้นกระหายอยากรู้ว่าในโพรงมีอะไร จะทะลุไปถึงไหน อีกใจก็กลัวจะมีอะไรโผล่มาให้เราวี๊ดว๊ายหรือไม่ คิดไปต่าง ๆ นานา และเนื่องจากตะวันบ่ายคล้อยลงมาก การสำรวจถ้ำในครั้งนี้จึงขอจบไว้พียงแค่นั้น เพราะเราเผื่อเวลาตอนเดินลงมาด้วย กว่าจะถึงจุดที่เราจอดรถก็เกือบโพล้เพล้ เหนื่อยจนขาสั่น แต่ใจนั้นยังมีความตื่นเต้นกับการผจญภัย เรารอให้มีผู้กล้ามาสำรวจอีกครั้งดีกว่า อยากรู้ว่าปลายทางของถ้ำจะไปอยู่ที่ใด ถ้ำแห่งนี้ยังไม่ได้เปิดให้เข้าชม หรือพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางไปถ้ำแห่งนี้ ควรให้ผู้ชำนาญเส้นทาง หรือชาวบ้านในละแวกนั้นเป็นผู้นำน่าจะดีกว่าค่ะ ภาพถ่ายโดย : พี่ส้ม จาย สายหมอก ( ลำธาร ใสเย็น )